คาดอสังหาฯกทม.ปริมณฑล ปีนี้เหลือขาย1.45แสนยูนิต
Loading

คาดอสังหาฯกทม.ปริมณฑล ปีนี้เหลือขาย1.45แสนยูนิต

วันที่ : 1 มิถุนายน 2561
คาดอสังหาฯกทม.ปริมณฑล ปีนี้เหลือขาย1.45แสนยูนิต

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานกลยุทธ์ 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจภาคสนามโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายล่าสุด ณ สิ้นปี 2560 มีจำนวน 1,584 โครงการ มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 458,943 ยูนิต มีจำนวนยูนิตบ้านจัดสรร 212,997 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ที่มี 208,237 ยูนิต และเป็นอาคารชุด 245,946 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปี 2560 ที่มี 242,852 ยูนิต ซึ่งมีจำนวนยูนิตอยู่ในกรุงเทพมหานครมากที่สุดที่ 50.5% รองลงมาอยู่ในนนทบุรี 17.4%

"ในปี 2560 มีโครงการเปิดขายใหม่จำนวน 396 โครงการ รวม 101,422 ยูนิต คิดเป็น 22.1% โดยมีมูลค่าโครงการที่เปิดขายในปี 2560 รวม 408,084 ล้านบาท ประกอบด้วย บ้านจัดสรร 272 โครงการ จำนวน 40,841 ยูนิต มูลค่าโครงการ 166,044 ล้านบาท และอาคารชุด 124 โครงการ จำนวน 60,581 ยูนิต มูลค่าโครงการ 242,040 ล้านบาท" นายวิชัยกล่าว และว่า ส่วนโครงการเหลือขายในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลอยู่ที่ 31.1% มีมูลค่า 549,807 ล้านบาท โดยบ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์เหลือขายมากที่สุด 53.6% ระดับราคาอยู่ที่ 2.01-3.00 ล้านบาท รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว เหลือขาย 31.5% ในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท บ้านแฝดเหลือขาย 10.3% เหลือขายในระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาทมากที่สุด ส่วนทำเลที่เหลือขายมาก คือ 1.ลำลูกกา-คลองหลวง-ธัญบุรี-หนองเสือ 2.สมุทรปราการ 3.บางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทองไทรน้อย ซึ่งเป็นแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เปิดให้บริการแล้ว 4.สมุทรสาคร และ 5.มีนบุรี-หนองจอกคลองสามวา-ลาดกระบัง ส่วนโครงการอาคารชุด ณ สิ้นปี 2560 ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอนเหลือขายมากที่สุด 66.2% โดยส่วนใหญ่ราคา 2.01-3.00 ล้านบาท ส่วนทำเลที่เหลือขาย มากที่สุด คือ 1.นนทบุรี 2.ธนบุรี ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตากสินบางหว้าที่เปิดให้บริการแล้ว 3.สมุทรปราการ 4.ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง และ 5.ปทุมธานี

นายวิชัยกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ศูนย์ข้อมูลได้ประมาณการอุปทานเหลือขายที่อยู่อาศัยในตลาด กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2561 โดยคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 145,099 ยูนิต ประกอบด้วย แนวราบ 80,490 ยูนิต คิดเป็น 55.5% และอาคารชุดประมาณ 64,609 ยูนิต คิดเป็น 45.5%

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ