พี่จีนมาแรง กำลังซื้อล้นเหลือ แห่ซื้อยกล็อตอสังหาฯ ในไทย เผยทำเลเชียงใหม่ คนจีนนิยมเข้ามาท่องเที่ยวและพักผ่อน พร้อมซื้อคอนโดฯเชียงใหม่ยกตึก หวังปล่อยเช่าชาวจีนด้วยกัน ส่งผลซัปพลายหายจากตลาดกว่าครึ่ง รุกคืบสู่นักพัฒนา จับมือเจ้าของที่ดินลงทุนดีเวลลอปโรงแรมขนาดกลาง-เล็ก รองรับดีมานด์พักอาศัยนักท่องเที่ยวจีน เชื่อรูปแบบการก่อสร้างอาจเปลี่ยนตามผังเมืองใหม่ และ EIA ส่วนผู้ประกอบการในท้องถิ่นตอบรับ และปรับตัวตามเรียบร้อย ด้าน "แสนสิริ" ระบุ "ดีคอนโด พิงค์" ถูกนักลงทุนฮ่องกง และจีน กวาดไปกว่าร้อยยูนิต พร้อมนำไปโรดโชว์ที่สิงคโปร์ต่อ

นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไปประเภทต่างๆ และการรับเหมาก่อสร้างงานระบบสาธารณูปโภค ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด เปิดเผยว่า แนวโน้มการก่อสร้างในจังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีการเติบโต ซึ่งน่าจะมาจากการคาดการณ์ในเรื่องของโครงการเมกะโปรเจกต์ ที่กำลังจะเกิดในอนาคตเป็นแรงผลักดัน ไม่ว่าจะเป็น โครงการขยายสนามบินเชียงใหม่เพื่อรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว โครงการรถไฟความเร็วสูง สายกรุงเทพ-เชียงใหม่ โครงการมอเตอร์เวย์ เชื่อมเชียงใหม่-เชียงราย และโครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางลอดบริเวณสามแยกแม่โจ้ (เทพปัญญา) ขนาด 6 ช่องจราจร

ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้บริษัทด้านอสังหา- ริมทรัพย์ต่างๆ เข้ามาพัฒนาที่ดินอย่างต่อเนื่อง ทั้งการก่อสร้างโรงแรม อาคารที่อยู่อาศัย บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคารจอดรถ รวมถึงเป็นที่สนใจของ นักลงทุนชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในประเทศไทย ส่งผล ให้ราคาที่ดินในเชียงใหม่ปรับตัวสูงขึ้นกว่า 7-8 เท่าตัว จากเดิมที่ในช่วง 5 ปีก่อนหน้าราคาขายที่ดินในเมืองเชียงใหม่มีราคาขายที่ 2-3 หมื่นบาทต่อตารางวา ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2 แสนบาทต่อตร.ว.ในปัจจุบัน

ขณะที่รูปแบบการก่อสร้างในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนไปจากเดิม สังเกตได้จากงานที่บริษัทได้รับในพื้นที่ เช่น การปรับปรุงอาคารเก่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยหรือโรงแรมขนาดเล็ก แทนการก่อสร้างใหม่ทั้งหมด หรือการก่อสร้างคอนโดฯ ที่ออกแบบเป็นโลว์ไรส์ ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ รวมถึงการก่อสร้างได้ขยายพื้นที่ไปยังพื้นที่อื่นๆ เช่น อำเภอหางดง อำเภอสันทราย-แม่โจ้ และอำเภอสันกำแพง ไม่กระจุกตัวเพียงในตัวเมืองที่ถือว่าค่อนข้างมีพื้นที่จำกัดอย่างที่ผ่านมา โดยสาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการประกาศบังคับใช้ผังเมืองพัฒนาโครงการใหม่ รวมไปถึงการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA)ที่เข้มงวดมากขึ้น

"เชียงใหม่ยังคงเป็นจังหวัดที่ได้รับความสนใจในการลงทุน แม้บางช่วงที่การลงทุนอาจจะชะลอตัวลงแต่ยังมีการลงทุนทั้งภาครัฐ และเอกชนเสมอมา ซึ่งผู้ประกอบการด้านการพัฒนาอสังหาฯได้มีการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด"

นายธีรพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับซัปพลายคอนโดฯในเชียงใหม่ ปัจจุบันมีฐานลูกค้าหลัก คือนักลงทุนจีน ซึ่งซื้อยกล็อตเพื่อปล่อยเช่าทำกำไร และอยู่อาศัยในบางส่วน โดยในสัดส่วน 49% ที่กฎหมายเปิดให้ชาวต่างชาติสามารถถือครองได้นั้น กว่า70-80%ของสัดส่วนที่ชาวต่างชาติสามารถถือครองได้ ถูกกลุ่มนักลงทุนชาวจีนซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าทำกำไร ส่วนที่เหลืออีก 20-30% นั้นเป็นกลุ่มลูกค้าจากยุโรปและประเทศอื่นๆ ซื้อเพื่อใช้พักผ่อนหรืออยู่อาศัยหลังเกษียญอายุ

"นอกจากการซื้อห้องพักเพื่อการลงทุนแล้ว นักลงทุนจีนบางกลุ่ม ยังสนใจลงทุนพัฒนาโรงแรมขนาดกลางและเล็กร่วมกับคนไทยในพื้นที่ โดยเฉพาะ โรงแรมสไตล์บูติก ซึ่งชาวจีนที่สนใจจะเข้ามาลงทุนร่วมกับเจ้าของที่ดินในเชียงใหม่ เพื่อพัฒนาโรงแรมไว้รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่อง เที่ยวในเชียงใหม่ ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง"

สอดคล้องกับข้อมูลที่ นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด ที่ปรึกษาการลงทุน เช่า ซื้อ และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ความต้องการเข้ามาลงทุนอสังหาฯของนักลงทุนจีนในประเทศไทยสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะความสนใจลงทุนอสังหาฯในเมืองท่องเที่ยว เช่น ,พัทยา,ภูเก็ตและเชียงใหม่ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีทั้งรูปแบบการซื้ออยู่เอง และปล่อยเช่า ราคาประมาณ 3-4 ล้านบาท โดยรูปแบบที่ชาวจีนสนใจคือ ร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินแปลงที่มีศักยภาพ และจีนจะเป็นฝ่ายนำเม็ดเงินมาลงทุน

นอกจากโครงการที่อยู่อาศัยแล้ว ยังพบว่านักลงทุนจีนยังให้ความสนใจลงทุนทางด้านโรงแรมในเชียงใหม่จำนวนมาก เนื่องจากเห็นโอกาสการเติบโตด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีอัตราการขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ทำให้ความต้องการห้องพักกลุ่มโรงแรม บูติกโฮเต็ล, โฮสเทล, บ็อกเทล และโพสเทล ขยายตัวสูงมาก ซึ่งที่ผ่านมาห้องพักในกลุ่มโรงแรมดังกล่าวมีจำนวนจำกัด เพราะติดกฎหมายห้ามก่อสร้างโรงแรม แต่หลังจากที่รัฐบาลออกกฎหมายอนุญาตให้ก่อสร้างโรงแรมได้ ทำให้เกิด กระแสการลงทุนโรงแรมในเชียงใหม่ขยายตัวสูงมาก

ด้าน นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการ ผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนา

โครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงว่า ตลาดอสังหาฯ ในจังหวัดเชียงใหม่ยังเติบโตตามกำลังซื้อ ซึ่งในส่วนของตลาดแนวราบเชื่อว่ายังไปได้ ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางแสนสิริ ได้นำโครงการคอนโดฯ "ดีคอนโด พิงค์" ไปนำเสนอขาย(โรดโชว์)ที่ประเทศจีนและฮ่องกง ซึ่งผลตอบรับดีมาก สามารถสร้างยอดขายได้กว่า 100 ยูนิตจาก 300 กว่ายูนิต ระดับราคาล้านปลายๆถึง2ล้านบาท โครงการอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดจะทยอยโอนให้ลูกค้าได้ในปี 2561 นอกจากนี้ ในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางแสนสิริ ยังได้นำโครงการดังกล่าวไปโรดโชว์ยังประเทศสิงคโปร์

แหล่งข่าวในวงการกล่าวว่า จริงๆ ตัวของโบรกเกอร์ชาวจีน รวมถึงมัคคุเทศก์ จะมีบทบาทต่อนักท่องเที่ยวชาวจีน เนื่องจากจะมีความเชี่ยวชาญและรู้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดของนักท่องเที่ยว ทำให้เห็นโอกาสในการลงทุนโครงการอสังหาฯแล้วนำมาปล่อยเช่า หรือรองรับการเข้ามาพักผ่อน ขณะเดียวกัน ชาวจีน ก็จะเชื่อมั่นในตัวของโบรกเกอร์และมัคคุเทศก์ และสอดคล้องกับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยในช่วง 1-2 ปี ที่ออกไปรุกตลาดต่างชาติอย่างจริงจัง เช่น บริษัท ศุภาลัยฯ บริษัท อีสเทอร์นสตาร์ฯ ที่ไปโรดโชว์ที่จีน ส่วนบริษัทอนันดา เน้นไปจับกลุ่มลูกค้าในประเทศฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน อย่างไรก็ตาม พบว่า บริษัท แสนสิริ เป็นรายแรกในช่วงปี 2555 ที่รุกตลาดต่างชาติ ทำให้มียูนิตให้กับลูกค้าต่างชาติสูงเป็นอันดับต้นๆ

ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา