ผลกระทบเศรษฐกิจในประเทศชะลอดึงกำลังซื้อกลุ่ม'วัสดุฯ'ไตรมาสแรกกำไรทรุด
ปรับแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง หันรุกตลาดต่างประเทศกลุ่มวัสดุก่อสร้างรายงานกำไรไตรมาสแรกลดลง รับผลกระทบเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว เดินหน้าปรับกลยุทธ์ครึ่งปีหลังหันบุกตลาดต่างประเทศหวังเพิ่มรายได้ บางกอกเดค-คอน จับมือพันธมิตรเจาะตลาดกัมพูชา หวังขึ้นแท่นรับเหมาตกแต่งครบวงจร
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ในไตรมาส 1 ปี 2560 พบว่าบริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) DCC มีกำไรสุทธิ 346.22 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21% บริษัท ควอลิตี้คอนสตรัคชั่น โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) Q-CON ขาดทุนสุทธิ 11.34 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน 13% บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) TGCI มีกำไรสุทธิ 38.38 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 33 %
นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท บางกอกเดค-คอน จำกัด(มหาชน) BKD เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 ปี 2560 บริษัทมีรายได้รวม 316.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 275.50 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 75.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 293% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 16.59 ล้านบาท
ภาพรวมของธุรกิจรับเหมาตกแต่งภายในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน โดยคาดว่าจะมีมูลค่างานรับเหมาตกแต่งภายในประมาณ 5 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการของรัฐประมาณ 3 พันล้านบาท และเอกชนประมาณ 2 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทก็คาดหวังว่าจะมีโอกาสได้รับงานดังกล่าวประมาณ 30%
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ก็จะยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง บริษัท ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ 15-20% ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 1,300 ล้านบาท จากต้นปีที่บริษัทมีมูลค่างานในมือประมาณ 1,415 ล้านบาท
เป้าหมาย 3-5 ปี คือเป็นบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในครบวงจรชั้นนำในอาเซียน โดยยังเน้นที่ประเทศกัมพูชา เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ คือกลุ่มชิพหมงแลนด์ ได้ว่าจ้างให้บริษัทเข้าไปตกแต่งภายในโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ และก็มีแนวโน้มว่าจะมี ความร่วมมือกันในโครงการอื่นเพิ่มเติมในอนาคต
นายสาธิต สุดบรรทัด กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) (DRT) เปิดเผยว่า ภาพรวมของธุรกิจวัสดุก่อสร้างในไตรมาส 1 นั้นบางบริษัทอาจชะลอตัวลง เนื่องจากหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่พึ่งพิง ร้านค้าวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่มากขึ้น และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งในแนวโน้มไตรมาส 2 บริษัทยังมองว่า ทิศทางน่าจะดีขึ้นจากปีนี้
การปรับตัวของบริษัทจะหันไปพัฒนาคุณภาพสินค้า เพื่อขยายช่องทางผ่านร้านค้าปลีก ขนาดใหญ่มากขึ้น ขณะเดียวกัน ตั้งเป้าหมายจะผลักดันสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศให้เป็น 20 % ภายในปี 2561 ส่วนการเติบโตของรายได้ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 5 %
โบรกมองกำลังซื้อในประเทศหด
ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เผยแพร่บทวิเคราะห์ ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจวัสดุก่อสร้างนั้น ในส่วนของความต้องการปูนซีเมนต์ในประเทศ ไตรมาสแรกปี 2560 ติดลบหนัก 7% เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมในภาคใต้ ภาคที่อยู่อาศัย และ พาณิชย์ ติดลบต่อเนื่อง
ส่วน แนวโน้มไตรมาส 2 ปี 2560 ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว โดยฝ่ายวิจัยคาดว่าจะยังคงติดลบต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวเป็นบวกได้ โดยได้รับแรงหนุนจากโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยรวมแล้วทั้งปี 2560 คาดว่าผลประกอบการจะบวกเล็กน้อย ในขณะที่แรงกดดันด้านราคาเริ่มดีขึ้นราคาปูนซีเมนต์ ไตรมาสแรกเริ่มยืนได้
สำหรับสินค้าวัสดุก่อสร้าง ประเภทกระเบื้อง ผลิตภัณฑ์ทดแทนไม้ ตลาดในประเทศมีแนวโน้มที่จะติดลบต่อเนื่องใน ปี 2560 แต่ก็ได้แรงหนุนจากการส่งออกไปประเทศแถบซีแอลเอ็มวี ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มวัสดุก่อสร้างเป็นเท่าตลาด
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ