สตาร์มาร์ค เจาะรายย่อย พิษอสังหาฯเลื่อนก่อสร้าง
Loading

สตาร์มาร์ค เจาะรายย่อย พิษอสังหาฯเลื่อนก่อสร้าง

วันที่ : 14 สิงหาคม 2562
สตาร์มาร์ค ปรับกลยุทธ์หลังลูกค้าโครงการ เลื่อนงานก่อสร้าง ดึงบริการ อินทีเรียดีไซน์ขยายเซ็กเมนท์เจาะลูกค้ารายย่อยแบบ B2C ชดเชยรายได้ แตกบริการห้องครัวสู่เฟอร์นิเจอร์บิวอินท์ครอบเซ็ท
          สตาร์มาร์ค ปรับกลยุทธ์หลังลูกค้าโครงการ เลื่อนงานก่อสร้าง ดึงบริการ อินทีเรียดีไซน์ขยายเซ็กเมนท์เจาะลูกค้ารายย่อยแบบ B2C ชดเชยรายได้ แตกบริการห้องครัวสู่เฟอร์นิเจอร์บิวอินท์ครอบเซ็ท

          นางสาวณัฐปภัสร์   ศรีสกุลภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์มาร์ค แมนูแฟคเชอร์ริ่ง จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต้องเลื่อนโครงการออกไปใน บางโครงการ ซึ่งทำให้กระทบ10% ของยอดการทำสัญญาพัฒนา โครงการสะสม (Backlog) ที่ทาง สตาร์มาร์คได้ทำสัญญาเข้าไปออกแบบตกแต่งภายในให้กับ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (Developer) ภายในปีนี้ถึงปีหน้า มูลค่า 1,600 ล้านบาท

          โดยลูกค้าโครงการพัฒนา อสังหาฯหลักๆ เป็นแบรนด์ระดับท็อปเทนของอุตสาหกรรม รวมถึงกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท ตลอดจนอพาร์ทเม้นท์เซอร์วิส ถือเป็นลูกค้าหลักของสตาร์มาร์ค สัดส่วนรายได้ประมาณ 70% และสัดส่วน 30% เป็นรายได้จากกลุ่มค้าปลีก ประกอบด้วย โฮมโปร 80 สาขา และศูนย์โชว์รูมสแตนอโลนที่ CDC

          ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจมองว่าจะต้องวางแผนปรับกลยุทธ์ขยายตลาดใหม่ในกลุ่มค้าปลีก หน้าร้าน รวมถึงเซ็กเมนท์ ลูกค้ารายย่อย (B2C) เพื่อชดเชยกับรายได้ที่หายไปจากลูกค้าโครงการในอสังหาฯ โดยการเปิดการบริการออกแบบตกแต่งภายใน (Interior Designer) จากเดิมที่ให้บริการเพียงเครื่องครัว ขยายไปสู่ตู้เสื้อผ้า ห้องน้ำ ผนังตกแต่งสำเร็จรูป รวมไปถึงบริการตกแต่งภายในทุกๆ ด้าน ที่เชื่อมต่อกับการพัฒนาบ้านอัจฉริยะ (Smart home) โดยการเชื่อมต่อกันกับอินเทอร์เน็ต (IoT - Internet of Things)

          "หลังจากมีประสบการณ์กับการทำงานตกแต่งภายในที่ไม่ใช่เพียงเครื่องครัว แต่รวมถึงการตกแต่งภายในครบวงจรกับบริษัทอสังหาฯ ขนาดใหญ่ชั้นนำของประเทศจึงขยายการบริการไปยังลูกค้ารายย่อย เพื่อชดเชยกับ รายได้ของธุรกิจอสังหาฯที่ ชะลอตัว"

          กรรมการผู้จัดการบริษัท สตาร์มาร์ค กล่าวต่อว่า กลุ่มธุรกิจสตาร์มาร์คจับตลาดตกแต่งภายในลูกค้าระดับ B+ ที่ผ่านมา มีลูกค้าอสังหาฯ ราคาระดับหลังละ 10-150 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้กำลังขยายไปยังลูกค้ารายย่อยที่ต้องการตกแต่งบ้านเอง ซึ่งเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายบ้านราคาเริ่มต้นที่หลังละ 5 ล้านบาท

          นอกจากนี้ ยังมีแผนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายร้านค้าปลีก เพิ่มสาขาจากโฮมโปร ขยายไปใน บุญถาวร ดีไซน์วิลเลจ ปิ่นเกล้า ในเดือนก.ย.นี้ พร้อมทั้งเปิดตัวปรับโลโก้ใหม่ เพื่อให้มีความทันสมัยเจาะฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ