มั่นคงฯ เร่งดันรายได้เช่า-บริการ
Loading

มั่นคงฯ เร่งดันรายได้เช่า-บริการ

วันที่ : 18 พฤศจิกายน 2562
มั่นคงเคหะการเร่งดันรายได้จากการเช่า-บริการอสังหาฯ สัดส่วน 50% ตามแผน 5 ปี สร้างสมดุลพอร์ตรายได้ บริหารเสี่ยง ไตรมาสสุดท้ายเดินหน้าเปิด บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม 4 โครงการ
          มั่นคงเคหะการเร่งดันรายได้จากการเช่า-บริการอสังหาฯ สัดส่วน 50% ตามแผน 5 ปี สร้างสมดุลพอร์ตรายได้ บริหารเสี่ยง  ไตรมาสสุดท้ายเดินหน้าเปิด บ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม 4 โครงการ

          นายวรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงาน สะสม 9 เดือนของปีนี้ว่า บริษัทมีรายได้รวม 3,742 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% หรือ 339 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,237 ล้านบาท เติบโต 6% และ รายได้จากธุรกิจเพื่อเช่าและบริการ 242 ล้านบาท เติบโต 33% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

          สำหรับไตรมาส 3 บริษัทฯมีรายได้จากการขายอสังหาฯ  627 ล้านบาท ในขณะที่ธุรกิจ เพื่อเช่าและบริการสามารถสร้างรายได้ 86 ล้านบาท เติบโต 37%

          เขายังกล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจช่วง ครึ่งปีแรกชะลอตัว ทำให้ผู้ประกอบการ ส่วนใหญ่ยังคงชะลอการเปิดตัวโครงการและเร่งระบายสินค้าคงคลังเก่าให้หมด เป็นผลทำให้การแข่งขันด้านราคาค่อนข้างสูง ซึ่งบริษัทฯ มีหลายโครงการที่อยู่ในช่วงใกล้ปิด การขาย เป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทในไตรมาส 3 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน

          แต่อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ เรื่องการลด ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอน และ ค่าจดทะเบียนการจำนอง เหลือ 0.01% ของราคาประเมิน สำหรับบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯมีสินค้าที่อยู่ในระดับราคานี้หลายโครงการ

          ขณะที่ไตรมาส 4 บริษัทฯยังคงดำเนินตามแผนในการเปิดตัว 4 โครงการ โดยได้เปิด 2 โครงการแรกไปแล้วเมื่อเดือนต.ค.ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวชวนชื่น ไพรม์ วิลเลจ บางนา และโครงการทาวน์โฮมชวนชื่น ทาวน์ ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ

          นอกจากนี้จากแผนธุรกิจ 5 ปีที่ ต้องการเพิ่มสัดส่วนกำไรขั้นต้นของ ธุรกิจเพื่อขาย กับธุรกิจเพื่อเช่าและบริการให้มีสัดส่วนเป็น 50/50 ยังคงเป็นไป ตามแผนที่วางไว้ สำหรับกำไรขั้นต้นจาก ธุรกิจการให้เช่าและบริการในไตรมาสนี้ มีจำนวนรวม 44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% หรือ 10 ล้านบาท จากยอดรายได้ 86.18 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายได้จาก โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน จำนวน 74.36 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อนถึง 41.84% หรือ 21.94 ล้านบาท อีกส่วนหนึ่งเป็นรายได้จากโครงการพาร์คคอร์ทโครงการสนามกอล์ฟ ฟลอร่า วิลล์ กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ และธุรกิจบริหารอสังหาฯโดยบริษัท ยัวร์ส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ