ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯชี้ปี63 ความต้องการซื้อบ้านโตปัจจัยหนุนดอกเบี้ยขาลง
Loading

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯชี้ปี63 ความต้องการซื้อบ้านโตปัจจัยหนุนดอกเบี้ยขาลง

วันที่ : 18 ธันวาคม 2562
“ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส.” ประเมินความต้องการซื้ออสังหาฯ ปีหน้าขยายตัวต่อเนื่อง ชี้มี 2 ปัจจัยหนุน “ดอกเบี้ยขาลง-มาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล”
          “ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส.” ประเมินความต้องการซื้ออสังหาฯ ปีหน้าขยายตัวต่อเนื่อง ชี้มี 2 ปัจจัยหนุน “ดอกเบี้ยขาลง-มาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล”

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2563 จะมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญคืออัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาลง และมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ทั้งมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจดจำนองเหลือ 0.01% ครอบคลุมถึงบ้านในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” ที่ให้การสนับสนุนเงินดาวน์ 50,000 บาท แก่ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย

          ทั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลได้ประมาณการที่อยู่อาศัยเหลือขายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ณ สิ้นปี 2562 จะอยู่ที่ประมาณ 149,000 ยูนิต แบ่งเป็นสัดส่วนสินค้าของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประมาณ 70% และอีก 30% เป็นสินค้าของบริษัทนอกตลาดฯ ขณะเดียวกันยังคาดว่า ณ สิ้นปี 2563 จะมีจำนวนที่อยู่อาศัยเหลือขายประมาณ 139,000 ยูนิต ลดลงจากปี 2562 ประมาณ 6.7%

          โดยจะมาจากมาตรการกระตุ้นภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ และค่าจดจำนองเหลือ 0.01% เป็นหลัก ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่สร้างใหม่ และจะช่วยให้สินค้าเหลือขายสะสมในตลาดถูกดูดซับออกไป จนสามารถปรับสมดุลของสินค้าเหลือขายให้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 138,720 ยูนิตได้ (ยูนิตเหลือขาย ณ สิ้นปี 2561)

          “ปัจจัยบวกในปี 2563 คือดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาลง ประกอบกับผู้ประกอบการมีการอัดแคมเปญ แจกของแถมเพิ่ม รวมถึงรัฐบาลยังมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และลดค่าจดจำนอง และโครงการบ้านดีมีดาวน์ จึงถือเป็นโอกาสทองของประชาชนที่อยากมีบ้าน” นายวิชัย กล่าว

          สำหรับทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 5 อันดับแรกในกรุงเทพฯ ได้แก่ 1.มีนบุรี-ลาดกระบัง 2.แจ้งวัฒนะ-งามวงศ์วาน 3.ห้วยขวาง-จตุจักร-ดินแดง 4.พระโขนง-แยกบางนา และ 5.วุฒากาศ-บางหว้า ขณะที่ทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 5 อันดับแรกในเขตปริมณฑล ได้แก่ 1.เมืองนนทบุรี-ปากเกร็ด 2.เมืองนครปฐม-กำแพงแสน 3.ศาลายา 4.ธัญบุรี-คลองหลวง และ 5.บางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย
 
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ