ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯธอส.ชี้ปี63 ตลาดที่อยู่อาศัยโตไม่เกิน5%
Loading

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯธอส.ชี้ปี63 ตลาดที่อยู่อาศัยโตไม่เกิน5%

วันที่ : 6 มกราคม 2563
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 63 โตไม่เกิน 5% ขณะที่ต้องการซื้อยังคงขยายตัว รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง-มาตรการลดค่าโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01%
          ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. ประเมินตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 63 โตไม่เกิน 5% ขณะที่ต้องการซื้อยังคงขยายตัว รับอานิสงส์ดอกเบี้ยขาลง-มาตรการลดค่าโอนและค่าจดจำนองเหลือ 0.01%

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์  (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2563 จะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปลายปี 2562 แต่จะมีการขยายตัวไม่มากนัก โดยจะขยายตัวไม่เกิน 5% ซึ่งโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จะมีการเปิดตัวต่อเนื่อง จากช่วงปลายปี 2562 เพื่อรองรับมาตรการรัฐที่ออกมากระตุ้นตลาด

          สำหรับความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีปัจจัยสำคัญ คืออัตราดอกเบี้ยขาลง และมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล ทั้งการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนจากเดิม 2% เหลือ 0.01% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% เฉพาะการซื้อขายที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อยูนิต รวมถึงโครงการบ้านดีมีดาวน์ ซึ่งจะส่งผลให้สินค้าในตลาดจะถูกทยอยดูดซับมากขึ้น

          โดยในปี 2563 ผู้ประกอบการยังคงต้องให้ความสำคัญกับการบริหารสินค้าที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและที่อยู่อาศัยที่สร้างเสร็จรอการขาย (Inventory) เพื่อให้สินค้าไม่ค้างอยู่ในพอร์ตมากเกินไป ซึ่งภาพรวมทั่วประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คาดว่าจะมีที่อยู่อาศัยเหลือขายประมาณ 245,371 ยูนิต

          “ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากปลายปีนี้ และคาดสถานการณ์ขณะนี้ตลาดโดยรวมจะขยายตัวไม่เกิน 5% ขณะที่การเปิดตัวโครงการใหม่จะมีจำนวนใกล้เคียงกับปี 2561 ที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ประมาณ 112,044 ยูนิต ส่วนความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังคงมีปัจจัยสำคัญคือ เรื่องดอกเบี้ยที่อยู่ในสภาวะดอกเบี้ยขาลง ในส่วนของมาตรการกระตุ้นการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยของรัฐบาลก็ส่งผลให้อุปทานมีการถูกดูดซับออกไป” วิชัย กล่าว

          นายวิชัย กล่าวอีกว่า สินค้าใหม่ที่เข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 จะปรับตัวลดลงประมาณ 23.20% จากปี 2561 โดยประมาณการว่าในปี 2562 จะมีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ (ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล) ทุกประเภทรวมที่ 112,044 ยูนิต เป็นโครงการบ้านจัดสรรเปิดตัวใหม่ จำนวน 46,010 ยูนิต คิดเป็น 41.10% ของจำนวนยูนิตใหม่ทั้งหมด ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมจะมีโครงการเปิดตัวใหม่ จำนวน  66,034 ยูนิต คิดเป็น 58.90% ของจำนวนยูนิตใหม่ทั้งหมด

          ด้านความต้องการการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในปี 2562 คาดว่าจำนวนยูนิตจะลดลง 10.20% จากปีก่อน ส่งผลให้มูลค่าจะลดลง 7.10% จากปีก่อน ส่วนสินค้าโครงการที่อยู่อาศัยที่เปิดขายใหม่คาดว่าจะมีจำนวนยูนิตลดลง 12.70% จากปีก่อน และที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่คาดว่าจะมีจำนวนยูนิตลดลง 9.10% จากปีก่อน

          อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวทั้งในด้านความต้องการ และสินค้าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการ ซึ่งจะนำไปสู่การปรับสมดุลย์ของตลาด โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ประมาณการสินค้าเหลือขายที่อยู่อาศัยในตลาดเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ณ สิ้นปี 2562 จะมีจำนวนประมาณ 154,367 ยูนิต เป็นโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 88,727 ยูนิต คิดเป็น 57.50% เป็นอาคารชุดประมาณ 65,639 ยูนิต คิดเป็น 42.50% ซึ่งหน่วยที่มีมากที่สุด คือ อาคารชุด 42.50% รองลงมาเป็นโครงการทาวน์เฮาส์ 31.80% โครงการบ้านเดี่ยว 17.10% ที่เหลือเป็นบ้านแฝด และอาคารพาณิชย์
 
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ