ธอส.ฉีด แสนล้าน ปลุกจีดีพี ปล่อยกู้อสังหาฯ-ปรับหนี้ขรก.
Loading

ธอส.ฉีด แสนล้าน ปลุกจีดีพี ปล่อยกู้อสังหาฯ-ปรับหนี้ขรก.

วันที่ : 24 มกราคม 2563
ธอส. เตรียมวงเงิน "แสนล้าน" กระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยกู้ซื้ออสังหา 3 โครงการ รวมกว่า 9 หมื่นล้าน คิดอัตรา ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเตรียมมาตรการช่วยเหลือ กลุ่มข้าราชการ บุคลากรรัฐ ปรับโครงสร้างหนี้ อีกกว่า 8.3 พันล้าน โดยให้ผ่อนชำระเพียง 50% ของค่างวดเป็นเวลา 6 เดือน
        ธอส. เตรียมวงเงิน "แสนล้าน" กระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยกู้ซื้ออสังหา 3 โครงการ รวมกว่า 9 หมื่นล้าน คิดอัตรา ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเตรียมมาตรการช่วยเหลือ กลุ่มข้าราชการ บุคลากรรัฐ ปรับโครงสร้างหนี้ อีกกว่า 8.3 พันล้าน โดยให้ผ่อนชำระเพียง 50% ของค่างวดเป็นเวลา 6 เดือน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) พร้อมกับมอบหมาย นโยบายให้ ธอส. เร่งปล่อยสินเชื่อแก่ประชาชน เพื่อช่วยให้คนไทยมีที่อยู่อาศัย ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ และช่วยภาพรวมเศรษฐกิจ พร้อมกับให้พิจารณามาตรการพิเศษสำหรับการปล่อยสินเชื่อ
        นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ธอส.ได้ออกมาตรการใหม่รองรับการผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) โดยจะดำเนินการภายใต้วงเงินรวม 9 หมื่นล้านบาท แบ่งการปล่อยสินเชื่อเป็น 3 โครงการ ขึ้นอยู่กับราคาอสังหาริมทรัพย์และรายได้ของผู้กู้ ซึ่งทั้ง 3 โครงการได้เริ่มดำเนินการนับจากนี้ คาดว่า จะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ทั้งหมดภายใน 6 เดือน
        นอกจากนี้ ธอส.ยังเตรียมมาตรการช่วยเหลือข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีอยู่จำนวน 9.5 หมื่นราย มูลหนี้ 8.3 พันล้านบาท โดยจะเสนอคณะกรรมการธนาคารพิจารณาให้ผ่อนชำระเพียง 50% ของเงินค่างวดเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเงินครึ่งหนึ่งนั้น จะเข้าไปตัดเงินต้นทั้งหมด ทำให้ประชาชนกลุ่มนี้มีเงินในกระเป๋าใช้จ่ายดำรงชีพ โดยคาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ก่อนเดือนมี.ค.นี้ ทั้งนี้ เมื่อรวมสินเชื่อวงเงิน 9 หมื่นล้านบาทดังกล่าว เท่ากับธอส.จะมีเม็ดเงินเข้าไปช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจราวแสนล้านบาท
สำหรับมาตรการสินเชื่อโครงการใหม่ ประกอบด้วย 1.โครงการบ้านสานรัก social solution วงเงินสินเชื่อรวม 3 หมื่นล้านบาท สำหรับผู้กู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 3.5 หมื่นบาทต่อเดือน วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยจะได้รับ อัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หลังจากชำระ เงินกู้คงที่ในช่วง 3 ปีแรกหมดแล้ว ทำให้มีภาระดอกเบี้ยถูกลง เฉลี่ย 3.5% จากเดิม 4%
        2.โครงการบ้านสานรัก Business วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท สำหรับผู้กู้ที่มีรายได้สูงกว่า 3.5 หมื่นบาทต่อเดือน โดยไม่จำกัด วงเงินกู้ ซึ่งจะได้รับอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน หลังจากชำระเงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก และลอยตัวแล้ว 2 ปี ทำให้มีภาระดอกเบี้ยถูกลงเหลือ 3.75% จากเดิม 4.2%
        3.สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ย 2.65%-2.7% คงที่ 3 ปี วงเงินรวม 5 หมื่นล้านบาท โดยวงเงินดังกล่าวจะนำมาจากการออกสลากออมทรัพย์ธอส.วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ขายหน่วยละ 5 พันบาท คาดจะเปิดขาย ได้ในเดือนก.พ.นี้ โดยคณะกรรมการธนาคารจะได้พิจารณาการออกสลากดังกล่าวใน วันที่ 28 ม.ค.นี้
        เขากล่าวด้วยว่า สำหรับการดำเนินการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุด โครงการบ้านล้านหลังเริ่ม 2 ม.ค.2562 ถึง 30 ธ.ค.2564 ปัจจุบัน มีประชาชนยื่นกู้เข้ามา 2.2 หมื่นราย วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท อนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 90% อยู่ที่ 2.1 หมื่นราย วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท
มาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั่วไปวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท คณะรัฐมนตรีอนุมัติเริ่มวันที่  24 ต.ค.2562 ถึง 24 ธ.ค.2563 มีผู้ยื่นกู้ 1 หมื่นราย วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท อนุมัติไปแล้ว 9 พันราย วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท และโครงการบ้านดีมีดาวน์ มีการลงทะเบียน 9 หมื่นราย ตรวจสอบผ่านเกณฑ์รอบแรก อยู่ที่ 5 หมื่นราย มีการอนุมัติสินเชื่อและโอนเงิน 5 หมื่นบาท จำนวน 5.7 พันราย
        นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปีนี้ว่า จะยังคงไว้ที่ 2.09 แสนล้านบาทเช่นเดิม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3% และจากการปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้งหมดในครั้งนี้ จะไม่กระทบกับผลกำไรของธนาคารในปีนี้ ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่ได้ 1.3 หมื่นล้านบาท
 
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ