THANAผนึกพาร์ตเนอร์ญี่ปุ่นตั้งบ.ร่วมทุน-รุกอสังหาไทย
Loading

THANAผนึกพาร์ตเนอร์ญี่ปุ่นตั้งบ.ร่วมทุน-รุกอสังหาไทย

วันที่ : 12 กุมภาพันธ์ 2563
THANA ผนึกพาร์ตเนอร์ "อนาบูกิ" ประเทศญี่ปุ่น สยายปีกโครงการอสังหาริมทรัพย์ในไทย เข้าถือหุ้นสัดส่วน 50% ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 25 ล้านบาท ดีเดย์จัดตั้งแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ แย้มอยู่ระหว่างพิจารณาแผนธุรกิจปี 2563 ระบุยังมีปัจจัยกดดันที่ต้องติดตาม
          THANA ผนึกพาร์ตเนอร์ "อนาบูกิ" ประเทศญี่ปุ่น สยายปีกโครงการอสังหาริมทรัพย์ในไทย เข้าถือหุ้นสัดส่วน 50% ใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 25 ล้านบาท ดีเดย์จัดตั้งแล้วเสร็จไม่เกินสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ แย้มอยู่ระหว่างพิจารณาแผนธุรกิจปี 2563 ระบุยังมีปัจจัยกดดันที่ต้องติดตาม

          นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เจ้าตลาดในจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2563 อนุมัติการเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท อนาบูกิ โคชัน จำกัด (อนาบูกิ) และบริษัท ไทยโคโนอิเกะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรเพื่อขาย (โครงการ) โดยบริษัทจะเข้าลงทุน 50% ในบริษัท อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 25 ล้านบาทขณะที่อนาบูกิ จะถือหุ้น 49% และ ไทยโคโนอิเกะ ถือหุ้น 1%

          ตั้งบริษัทร่วมทุน

          บริษัทคาดจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนได้สำเร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และคาดจะร่วมมือกันพัฒนาโครงการ อสังหาริมทรัพย์ได้ภายในปลายปี 2563 เบื้องต้นคาดจะพัฒนาโครงการแนวราบ มูลค่าบ้านต่อหลังคาดจะไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับแหล่งเงินลงทุนของบริษัทจะมาจากการกู้ยืมเงินระยะยาวจากสถาบันโครงการ เพื่อใช้พัฒนาโครงการและ เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อขยายช่องทางการดำเนินธุรกิจ เพิ่มแหล่งรายได้และความสามารถใน การแข่งขันให้กับบริษัท

          "พันธมิตรที่เราร่วมมือกันเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์จากทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นผู้นำด้านเรียลเอสเตทและสนใจจะเข้ามาร่วมมือในการพัฒนาโครงการเพื่อขายในประเทศไทย คาดว่าหลังจากจัดตั้งบริษัทร่วมทุน แล้วเสร็จ จึงจะเริ่มวางแผนการพัฒนาโครงการ หากเป็นไปตามแผนคาดว่าการร่วมมือดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนฐานธุรกิจของธนาสิริให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต" นายสุทธิรักษ์กล่าว

          พิจารณาแผนงาน

          สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2563 บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางในการดำเนินงาน เพราะจากต้นปี 2563 เกิดเหตุการณ์สงครามการค้า ไวรัสโคโรนา 2019 ระบาด ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันต่อการดำเนินธุรกิจ ทำให้บริษัทจำเป็นต้องวางแผนการดำเนินงานให้รัดกุม

          อย่างไรก็ตามบริษัทมีโครงการพร้อมขายทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่า 1.4 พันล้านบาท แบ่งเป็น โครงการในเขตจังหวัดนนทบุรี 3 โครงการ และจังหวัดอุดรธานี 1 โครงการ คาดช่วงที่เหลือของปีที่ผ่านมาจะสามารถขายโครงการได้เพิ่มอีก 20-30%

          นอกจากนี้บริษัทมีที่ดินเปล่าจำนวน 4 แปลง ประกอบไปด้วย ที่ดินในจังหวัดภูเก็ต 1 แปลง และในจังหวัดนนทบุรี 3 แปลง ซึ่งบริษัทได้ประกาศขายที่ดินเปล่าที่จังหวัดนนทบุรีไปแล้ว หากมีบริษัทหรือกลุ่มผู้ประกอบการสนใจ บริษัทจะทำการขายและพร้อมโอนที่ดินได้ทันที แต่หากไม่มีคนสนใจบริษัทจะนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาโครงการเพื่อขายในลำดับต่อไป
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ