ห่วงโควิด-ภัยแล้ง ชัตดาวน์ลูกค้า
Loading

ห่วงโควิด-ภัยแล้ง ชัตดาวน์ลูกค้า

วันที่ : 16 มีนาคม 2563
อสังหาฯปี63ติดลบ อีเวนต์ใหญ่ลุ้นครึ่งปีหลัง ผุดรับสร้างบ้านออนไลน์สู้
         
          อสังหาริมทรัพย์

          เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ก็จะสิ้นสุดไตรมาสแรกของปี 2563 ระยะเวลา 2 เดือนครึ่ง (ม.ค.-มี.ค.) ที่ผ่านมานั้น อารมณ์ความรู้สึกของคน ทั่วโลก อยู่ในภาวะวิตกกังวลกับการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่ขณะนี้ในหลายประเทศ มีการห้ามสายการบินเข้าประเทศ มีการปิดประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ไวรัสโควิด-19 มากขึ้น สถานการณ์ดังกล่าว เป็นแรงบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ให้ตกต่ำลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อุตสาหกรรมการบินในหลายประเทศ ประสบกับผลประกอบการที่ขาดทุน เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่มีการเดินทางเข้าและออก โรงแรมหลายแห่งต้องเลิกจ้างพนักงาน

          สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายในประเทศไทย ได้รับแรงกระแทกอย่างหนักมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา ทั้งจากมาตรการแทรกแซงของรัฐ ผ่านเกณฑ์ LTV การชะลอตัวของภาคเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงนโยบายของรัฐบาลจีนในเรื่องการจำกัด การนำเงินออกนอกประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการบางรายเกิดภาวะ "เงินช็อต" เนื่องจากปริมาณเงินจองของลูกค้าชาวจีน เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก เปรียบเสมือน "สภาพคล่อง" ที่มาเติมให้กับภาคอสังหาฯ โดยเฉพาะรายที่มุ่งเน้นยอดขาย ยอดโอนจากโครงการคอนโดมิเนียมกลุ่มลูกค้าจีน เนื่องด้วยราคาที่สูง ทำให้ลูกค้ากลุ่มคนไทย อาจไม่มีความสามารถในการซื้อคอนโดมิเนียมระดับบนได้

          คำถาม คือ โควิด-19 จะจบเมื่อไหร่ ความมั่นใจจะกลับคืนมาเมื่อไหร่ เศรษฐกิจโลก จะถูกขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจของประเทศใด เพราะต้องยอมรับว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจีน เป็นประเทศ ที่มีกำลังบริโภคใหญ่ที่สุดในโลก จะใช้เวลากี่ปี ในการพลิกฟื้นตัว!!!

          คำถาม แล้วรัฐบาลไทย จะสามารถเข็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีไหน ท่ามกลาง ความศรัทธา ที่ลดลง!

          แต่ที่แน่ๆ... ความเดือดร้อนจากโควิด-19 เศรษฐกิจที่ทรุดตัวลง ทำให้ ประชาชน ทุกข์ยากมากขึ้น !

          ล่าสุด  บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน)  ได้ปรับประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจ หรือ จีดีพี ลดลง เป็นติดลบ 0.4% ปีนี้ จากประมาณการเดิมที่คาดขยายตัว 1.4%

          ขณะที่มีการประเมินว่า ภาคอสังหาฯในปี 2563 จากเดิมจะ ขยายตัวเป็นบวก แต่ปีนี้ จะกลับมาติดลบประมาณ 10% ซึ่งเกิดจากผลกระทบเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่าในกรุงเทพฯและปริมณฑล ยอดโอนกรรมสิทธิ์น่าจะลดลงมาอยู่ที่ 171,000 หน่วย จากตัวเลขเบื้องต้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ 198,000 หน่วยในปีที่ผ่านมา หรือ ลดลง 13% โดยตลาดคอนโดฯติดลบมากสุดอยู่ที่ 98,000 หน่วย ลดลงเหลือ 89,000 หน่วย ลดลงกว่า 10%

          * อีเวนต์ใหญ่ "ขายบ้าน-รับสร้างบ้าน-สถาปนิกฯ" เลื่อนยาว

          สำหรับกิจกรรมในภาคอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ อีเวนต์ต่างๆ ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ต้องหยุดและเลื่อนออกไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนย่อมส่งผลกระทบต่อเป้าการตลาดและการขายในช่วง ครึ่งแรกของปี 63

          โดย นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ในฐานะประธานคณะกรรมการ จัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 กล่าวว่า 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมอาคารชุดไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร มีมติอย่างเป็นทางการ ขอแจ้งเลื่อนการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 42 ซึ่งมีกำหนด จัดช่วงระหว่างวันที่ 19-22 มีนาคม 2563 ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ออกไปก่อน ด้วยจากปัจจัยสถานการณ์ "ไวรัสโควิด-19" ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ซึ่งอาจเกิดผลกระทบต่อความปลอดภัยในสุขภาพของผู้ประกอบการ ผู้เข้าชมงาน และประชาชนทั่วไป ทาง 3 สมาคมอสังหาฯมีมติเลื่อนการจัดงานออกไปก่อน และจะแจ้งในภายหลัง

          เช่นเดียวกับ สมาคมรับสร้างบ้าน ที่ได้เลื่อนการจัดงาน "รับสร้างบ้าน Focus 2020" ออกไป จากเดิมจะจัดขึ้น ในวันที่ 12-15 มี.ค. 63 นี้ ที่ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพค ฮอลล์ 7 เมืองทองธานี

          "ทางสมาคมฯไม่ได้นิ่งนอนใจในการเลื่อนการจัดงานรับสร้างบ้าน Focus 2020 ในปีนี้ แต่ด้วยเศรษฐกิจต้องขับเคลื่อน ทุกธุรกิจต้องดำเนินต่อ ทางสมาคมฯได้ปรับกลยุทธ์ สู่การจัดงานแสดงสินค้าออนไลน์ หรือ Online Exhibition ขึ้น บนเว็บไซต์ของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน www.hba-th.org เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยของ ผู้บริโภค และการรับผิดชอบต่อส่วนรวมเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคที่ต้องการปลูกสร้างบ้าน ต้องการคำปรึกษากับบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ ยังคงสามารถใช้บริการได้เช่นเดิมอยู่"  นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าว

          สำหรับงานรับสร้างบ้านออนไลน์ 2020 จัดขึ้นบนเว็บไซต์ www.hba-th.org ระหว่างวันที่ 20-31 มี.ค. นี้ โดยมีบริษัทรับสร้างบ้านเข้าร่วมกว่า 14 บริษัท  ผู้ปลูกจองสร้างบ้านออนไลน์ จะได้รับส่วนลดพิเศษกับบริษัทรับสร้างบ้านที่มาร่วมในครั้งนี้ ติดตาม รายละเอียดและตรวจสอบโปรโมชันในช่วงเวลาดังกล่าว

          "มหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 10" กิจกรรมนี้จัดที่หาดใหญ่ ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 13-15  มี.ค.63 ทางคณะผู้จัดงาน คือ วารสารการเงินธนาคารนิตยสารในเครือ บริษัท มีเดีย แอสโซซิเอตเต็ด จำกัด มีความห่วงใยต่อทุกฝ่ายที่เข้าร่วมกิจกรรม จึงขอเลื่อนการจัดงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 10 ออกไป

          ล่าสุด คณะผู้จัดงานสถาปนิก'63 นำโดย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด ขอเลื่อนการจัดงาน สถาปนิก'63 จากเดิมในวันที่ 28 เมษายน - 3 พฤษภาคมนี้  เป็นวันที่ 7-12 กรกฎาคม 2563 อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี

          * โมเดิร์นเทรดยอดขายชะลอตัวลง

          นายรักษ์พงศ์ อรุณวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายบัญชีและงบประมาณ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำตลาดค้าปลีกเรื่องบ้าน กล่าวถึงภาพรวมยอดขายในช่วง 2 เดือนแรก ยังชะลอตัวลง โดยเฉพาะสาขาเดิมที่ติดลบ 3% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากเศรษฐกิจที่เติบโตลดลง และการเกิดเชื้อโรคโควิด-19 เข้ามากระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนตั้งแต่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา

          ในเรื่องของการจัดงาน โฮมโปร เอ็กซ์โป ในช่วงเดือน มี.ค.นี้ ทางบริษัทจำเป็นต้องเลื่อนงานออก เนื่องจากยังมีการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และ คาดว่าจะสามารถกลับมาจัดงานได้ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ หากทุกอย่างคลี่คลายได้เร็ว

          * "พีดีเฮ้าส์" สานต่อ "มหกรรมรับสร้างบ้านออนไลน์"

          นายสิทธิพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า ยอดจองสร้างบ้าน ของบริษัทฯช่วง 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) เติบโตสวนกระแสภาวะเศรษฐกิจและความกังวลท่ามกลางเรื่องไวรัสโควิด-19 เนื่องจากลูกค้าเตรียมความพร้อม มีการศึกษาประวัติบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เพื่อลดความเสี่ยงการสูญเสียโอกาสในเรื่องการปลูกสร้างบ้านที่จะเกิดขึ้น ส่งผลให้ยอดจองบ้านของบริษัท พีดี เฮ้าส์ฯ เกือบ 200 ล้านบาท หรือประมาณ 40 หลัง เฉลี่ยราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทฯจะอยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีสาขาของพีดีเฮ้าส์ฯเปิดบริการอยู่ ทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดในพื้นที่ต่างจังหวัด และความต้องการสร้างบ้าน (ดีมานด์) ยังมีอัตราเติบโตขึ้นในทุกๆปี  ขณะที่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล บริษัทรับสร้างบ้าน 5 แบรนด์ใหญ่ (ท็อปไฟว์) จะมีฐานลูกค้า หนาแน่นอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

          และเพื่อความต่อเนื่องในกิจกรรมทางการตลาด ทาง พีดีเฮ้าส์ เตรียมเปิด "มหกรรมงานรับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ออนไลน์ทั่วประเทศ" โดยจะมีการออกบูทของพันธมิตรต่างๆ และสถาบันการเงินชั้นนำ เสนอบริการทางการเงินให้กับลูกค้าที่กำลังตัดสินใจสร้างบ้านให้เลือกใช้บริการได้ คาดว่าจะเปิดโฉมหน้ามหกรรมฯได้ก่อนสิ้นเดือน มี.ค.ปี 2563 ทั้งนี้ ความพิเศษในครั้งนี้จะมีการโชว์แบบบ้านระดับลักชัวรี่ราคา 20 ล้านบาทบวกลบ พร้อมกับเปิดเพิ่มราคาและสเปกวัสดุต่างๆ ให้ลูกค้าได้ศึกษารายละเอียด ซึ่งในงานมหกรรมงานรับสร้างบ้านออนไลน์ในปี 62 ที่ผ่านมา กลุ่มอายุ 25-35 ปี จะเป็นส่วนใหญ่ที่เข้ามาคลิกดูข้อมูลต่างๆในงานรับสร้างบ้านออนไลน์ ส่วนกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป สัดส่วนไม่มาก

          "การออกบูทออนไลน์ เป็นการเชื่อมให้ผู้บริโภคและผู้ผลิตได้เจอสินค้า แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องจัดงานอีเวนต์ เพราะเป็นงาน PR ที่จะช่วยปิดยอดจองสร้างบ้านได้ มาเสริมกิจกรรมทางด้านออนไลน์ อีกทั้ง งานอีเวนต์รับสร้างบ้าน ผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทขนาดเล็ก ก็คาดหวังจะมียอดจองบ้าน เพื่อเลี้ยงองค์กร การที่จะให้ออกไปทำตลาดตามลำพัง มีต้นทุนที่สูงกว่าบริษัทรับสร้างบ้านขนาดใหญ่"

          * ห่วงพิษ "เชื้อโควิด" - "ภัยแล้ง" ซ้ำ ชัตดาวน์ลูกค้า

          นายสิทธิพร กล่าวด้วยความกังวลว่า แม้ภาพรวมไตรมาสแรกยอดจองสร้างบ้าน จะอยู่ในเป้าที่ทำได้และพอใจกับผลงาน แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงในไตรมาส 2 นี้ คือ หากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศไทยขยายตัวมาก ประกอบกับเรื่องภัยแล้ง ที่คาดว่า ปีนี้จะรุนแรงกว่าที่ผ่านมา อาจจะชัตดาวน์ลูกค้าได้ และจะยิ่งทวีปัญหากระทบต่อตลาดรับสร้างบ้านในไตรมาส 2 อย่างแน่นอน

          * ซื้อบ้านแถมประกันโควิด ฟื้นความเชื่อมั่นลูกค้า

          นายชยพล หรรรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อัลติจูด ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ 'ALTITUDE' กล่าวว่า ภาคธุรกิจอสังหาฯในปีนี้แม้จะได้รับผลกระทบ จากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัว และจากการแพร่ไวรัสโควิด-19 ที่กระทบไปทั่วโลก ทำให้บริษัทฯต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน จึงได้ซื้อประกันภัย โควิด-19  จากสินทรัพย์ประกันภัย ในเครือบิวตี้ เจมส์ มอบให้พนักงาน และผู้เข้าเยี่ยมชมโครงการของอัลติจูดฯ (กรุ๊ปละ 1 คนเท่านั้น) รวมไปถึงลูกค้าที่กำลังโอนกรรมสิทธิ์ และโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วในทุกโครงการของ บริษัทฯ ในวงเงินประกัน 50,000 บาท ระยะเวลา 1 ปี

          "หากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิดสู่ระยะที่ 3 เราจะชะลอแผนเปิด 2 โครงการแนวราบออกไปเป็นปี 2564 แทน"

          * LPN ใช้ Telesales สร้างยอดขาย ESTAR งัดแผนสำรองทำงานที่บ้าน

          สำหรับกลยุทธ์ของบริษัทอสังหาฯในการสร้างยอดขายในช่วงสถานการณ์ที่มีโควิด-19 อยู่นั้น หลายค่ายยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายตามหน้างานโครงการ โดยเตรียมความพร้อมและดูแลความปลอดภัยให้กับพนักงานและลูกค้าที่จะเข้ามา ไม่ว่าจะทำเต็นท์ปิด โดยมีการรมและฉีดฆ่าเชื้อในเต็นท์ การเตรียมเจลล้างมือ และหน้ากากให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจและทำให้การขายไม่สะดุด

          ขณะที่บางบริษัทปรับแผนที่จะลดความแออัดในพื้นที่งานขายโครงการลง แต่ยังสามารถช่วยงานขายล่วงหน้าได้ โดยนายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN กล่าวว่า ต้องปรับกลยุทธ์การขายโครงการ "ลุมพินี เพลส เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์" ก่อนที่จะเปิดขายจริงเมื่อวันที่ 7-8 มี.ค.63 โดยจัดทีมงานเฉพาะ เพื่อติดต่อกับลูกค้าที่เยี่ยมชมโครงการและลงทะเบียนแสดงความสนใจซื้อโครงการก่อนหน้านี้ทางโทรศัพท์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส จากจำนวนลูกค้าที่มาชุมนุมกันที่สำนักงานขายของโครงการในวันเปิดขายจริง และยังสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 300 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 70% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขาย สร้างยอดขายกว่า 750 ล้านบาท ถึงแม้เศรษฐกิจจะมีแนวโน้มชะลอตัว

          ในด้านของบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในโซนสีแดง ที่มีการแพร่กระจายของเชื้อ โควิด-19 ทางผู้บริหารเป็นห่วงในสวัสดิภาพของพนักงาน โดยกำลังให้ฝ่ายไอที มาทำระบบเพื่อรองรับความพร้อมหากเกิดเหตุที่เกินควบคุม โดยจะได้ให้พนักงานทำงานที่บ้านแทน (Work From Home)

          ขณะนี้ สถานการณ์โควิด-19 ก็ยังไม่รู้จะจบอย่างไร วิธีแก้ ที่เบ็ดเสร็จ ก็ยังไม่มีประเทศใดสามารถหาวัคซีนมาป้องกัน ทำได้ แต่เพียงสกัด ควบคุม มิให้โรคแพร่กระจายไปในวงกว้างอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราหวังว่า ทุกอย่างให้จบโดยเร็วภายในกลางปีนี้ .

          "หากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศไทยขยายตัวมาก ประกอบกับเรื่องภัยแล้ง ที่คาดว่าปีนี้ จะรุนแรงกว่าที่ผ่านมา อาจจะชัตดาวน์ลูกค้าได้"