ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯชี้ครึ่งปีหลัง อาคารชุด-แนวราบยังซบเซา!
วันที่ : 28 กันยายน 2563
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ชี้ ตลาดอสังหาฯ อาคารชุด - เเนวราบลดลงต่อเนื่อง
ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ประเมินครึ่งปีหลังตลาดอาคารชุด-แนวราบยังซบเซา! แต่คาดปี 64 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัว พร้อมแนะรัฐบาลออกนโยบายกระตุ้นตลาดอสังหาฯ 3-5 ล้านบาท และตลาดอสังหาฯ มือสอง หนุนยอดโอนฯ-กำลังซื้อสูงขึ้นได้
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ประเมินจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ (ยูนิต) และมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งโครงการแนวราบ และอาคารชุดในประเทศไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงสถานการณ์มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติจะยังไม่ดี หรือเป็นศูนย์ แม้มียอดขายหรือสัญญาการจัดซื้อในมือผู้ประกอบการ แต่ปัจจุบันยังปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศจึงเข้ามาทำธุรกรรมไม่ได้
ทั้งนี้มองว่าตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ของปี 2563 จำนวนยูนิตที่อยู่อาศัยเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวนการขาย และมูลค่าการขายของยูนิตใหม่จะปรับตัวน้อยลงจากครึ่งปีแรกของปี 2563 แต่จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 (ยังติดลบ) และกลับมาเป็ยบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 เป็นต้นไป เนื่องจากช่วงที่เหลือของปี 2563 จะยังเป็นการระบายสินค้าเหลือขาย (Stock) มากกว่า ซึ่งจะช่วยหนุนให้ปี 2564 มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น
ขณะที่ความต้องการที่อยู่ หรืออัตราการดูซับต่อเดือนของที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังของโครงการแนวราบ และอาคารชุด จะปรับตัวลดลงเหลือเพียง 1.7% จากครึ่งปีแรก 2.6% เทียบกับค่าเฉลี่ยปกติ 3.5% และมีจำนวนเดือนขายหมด (ระบายสต๊อก)เพิ่มขึ้นเป็น 52 เดือน จากครึ่งปีแรก 33 เดือน อย่างไรก็ดีประเมินว่าสถานการณ์ในปี 2564 อัตราการดูดซับจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2% และมีจำนวนเดือนขายหมดดีขึ้นเหลือเฉลี่ย 40 เดือน
โดยประเมินภาพรวมการขายยูนิตของโครงการอาคารชุดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา จำนวนยูนิต และมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ จะอยู่ในช่วงราคาขาย 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต และ 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป ขณะที่โครงการแนวราบจะอยู่ในช่วง 3-5 ล้านบาทต่อยูนิต ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ ส่วนทาวน์เฮาส์ จะอยู่ที่ราคา 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต
ส่วนภาพรวมในปี 2563 ประเมินว่าภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจะอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 312,467 ยูนิต มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ 673,738 ล้านบาท ระดับพื้นฐาน 319,210 ยูนิต ด้วยมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ 723,213 ล้านบาท และระดับดีสุด 328,101 ยูนิต ด้วยมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ 786,246 ล้านบาท
ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ประเมินจำนวนการโอนกรรมสิทธิ์ (ยูนิต) และมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ ทั้งโครงการแนวราบ และอาคารชุดในประเทศไทยปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงสถานการณ์มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ของชาวต่างชาติจะยังไม่ดี หรือเป็นศูนย์ แม้มียอดขายหรือสัญญาการจัดซื้อในมือผู้ประกอบการ แต่ปัจจุบันยังปิดน่านฟ้าระหว่างประเทศจึงเข้ามาทำธุรกรรมไม่ได้
ทั้งนี้มองว่าตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ของปี 2563 จำนวนยูนิตที่อยู่อาศัยเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวนการขาย และมูลค่าการขายของยูนิตใหม่จะปรับตัวน้อยลงจากครึ่งปีแรกของปี 2563 แต่จะกลับมาฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 (ยังติดลบ) และกลับมาเป็ยบวกได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 เป็นต้นไป เนื่องจากช่วงที่เหลือของปี 2563 จะยังเป็นการระบายสินค้าเหลือขาย (Stock) มากกว่า ซึ่งจะช่วยหนุนให้ปี 2564 มีการเปิดตัวโครงการใหม่มากขึ้น
ขณะที่ความต้องการที่อยู่ หรืออัตราการดูซับต่อเดือนของที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลังของโครงการแนวราบ และอาคารชุด จะปรับตัวลดลงเหลือเพียง 1.7% จากครึ่งปีแรก 2.6% เทียบกับค่าเฉลี่ยปกติ 3.5% และมีจำนวนเดือนขายหมด (ระบายสต๊อก)เพิ่มขึ้นเป็น 52 เดือน จากครึ่งปีแรก 33 เดือน อย่างไรก็ดีประเมินว่าสถานการณ์ในปี 2564 อัตราการดูดซับจะเฉลี่ยอยู่ที่ 2% และมีจำนวนเดือนขายหมดดีขึ้นเหลือเฉลี่ย 40 เดือน
โดยประเมินภาพรวมการขายยูนิตของโครงการอาคารชุดในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา จำนวนยูนิต และมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ จะอยู่ในช่วงราคาขาย 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต และ 10 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไป ขณะที่โครงการแนวราบจะอยู่ในช่วง 3-5 ล้านบาทต่อยูนิต ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และอาคารพาณิชย์ ส่วนทาวน์เฮาส์ จะอยู่ที่ราคา 2-3 ล้านบาทต่อยูนิต
ส่วนภาพรวมในปี 2563 ประเมินว่าภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศจะอยู่ในระดับต่ำสุดที่ 312,467 ยูนิต มูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ 673,738 ล้านบาท ระดับพื้นฐาน 319,210 ยูนิต ด้วยมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ 723,213 ล้านบาท และระดับดีสุด 328,101 ยูนิต ด้วยมูลค่าโอนกรรมสิทธิ์ 786,246 ล้านบาท
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ