บิ๊กอสังหาส่องหาที่ดินทำโครงการหลังโหมโละสต๊อก-จ่อผุดแนวราบ
Loading

บิ๊กอสังหาส่องหาที่ดินทำโครงการหลังโหมโละสต๊อก-จ่อผุดแนวราบ

วันที่ : 14 ธันวาคม 2563
บิ๊กอสังหาประกาศหาที่ดิน เตรียมเปิดโครงการใหม่ พร้อมโหมโละสต๊อก-จ่อผุดแนวราบ
           นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย มองเชิงบวก อสังหาฯ เริ่มมีการเติบโตมากขึ้น ผลประกอบการสะท้อนออกมาดี รายใหญ่ เริ่มขยับเฟ้นหาที่ดินพัฒนาโครงการ เผยบิ๊กอสังหาฯ "เอพี-เฟรเซอร์โฮม-พฤกษา" ประกาศหาที่ดินทั้งในเมือง ภูมิภาค รับแผนเปิดโครงการใหม่ หลังสต๊อกในพอร์ตลดฮวบ

          นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าออกไปอย่างต่อเนื่อง อาจจะกลายเป็นตัวแปรที่จะทำให้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ อาจจะต้องปรับแผนในเรื่องการลงทุนโครงการเพื่อขายมาสู่โครงการในรูปแบบเชิงพาณิชย์มากขึ้น เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภค

          "มองว่า ที่ดินรอบสถานีรถไฟฟ้า บางแปลงอาจจะเป็นของภาครัฐ ซึ่งตรงนี้หากรายใหญ่ได้รับสัมปทานไปแล้ว ในมุมของตน ก็น่าจะกระจายโครงการออกสู่ผู้ประกอบการรายอื่น ร่วมกันพัฒนาก็ได้"

          อย่างไรก็ตาม นายพรนริศ กล่าวย้ำว่า ภาค อสังหาฯ ในปีนี้ ก็พอเห็นสัญญาณการเติบโตเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทอสังหาฯ ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยบางแห่ง มีผลประกอบการที่ดี ลูกค้าเปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้อโครงการคอนโดมิเนียมมาซื้อโครงการแนวราบ ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ไม่ได้เตรียมขอจัดสรรไว้ต้นปีหรือชะลอเปิดโครงการแนวราบ รีบหาซื้อที่ดินเพื่อเร่งขออนุญาตจัดสรรมากขึ้น ขณะที่ราคาที่ดินยังไม่มีแนวโน้มจะลดลง ปรับขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งตามข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ณ ไตรมาสแรกของปี 63 การออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย รวมทุกภาค 111 โครงการ  จำนวน 10,182 หน่วย ทาวน์เฮาส์มีจำนวนมากที่สุดถึง 5,639 หน่วย

          "ตอนนี้เราจะเห็นราคาอยากขายคอนโดมิเนียมเต็มไปหมด บ้านเดี่ยว หรือ ทาวน์เฮาส์ เป็นตลาดของคนมีรายได้ โซนปทุมธานี และลำลูกกา จะเป็นสินค้ากลุ่มทาวน์เฮาส์ ขณะที่โซนที่เป็นแดงเดือด หรือเรดโอเชียน เช่น พระโขนงไปจนถึงสำโรง ซัปพลายคอนโดฯออกตัวมาเป็นหมื่นยูนิต แต่พอไปเส้นบางนาจะเป็นแนวราบ ซึ่งขายดี"

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงต้นปี 2563 บริษัทอสังหาฯ หลายแห่ง พยายามบริหารธุรกิจ ปรับพอร์ตการลงทุน โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมที่มีสัญญาณสินค้าล้นตลาด กำลังซื้อในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เริ่มประสบปัญหา ขณะที่กลุ่มลูกค้าคนไทย อาจจะไม่สามารถเข้าถึงระดับราคาที่สูงขึ้นของคอนโดฯ ที่ออกสู่ตลาด โดยบริษัทรายใหญ่อย่างบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ชะลอเปิดคอนโดมิเนียมมา 2 ปี แต่หันมารุกโครงการแนวราบ ภายใต้การเปิดแบรนด์สินค้าใหม่ มีดีไซน์ของบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ที่จูงใจลูกค้าได้เป็นอย่างดี

          ขณะที่ช่วงไตรมาสแรก ผู้ประกอบการยังคงมีการทำราคาเพื่อสร้างยอดขาย และการเกิดแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไตรมาส 2 บริษัทอสังหาฯทุกแห่ง ต่างเร่งระบายสต๊อก ผ่านการลดราคาตั้งแต่ 10-40 กว่า% ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และนโยบายของแต่ละบริษัท เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้ไหลเข้าสู่บริษัทให้มากที่สุด อย่างเช่น บริษัท แสนสิริฯ สามารถสร้างตัวเลขรายได้หลายหมื่นล้านบาท

          ล่าสุด บริษัทอสังหาฯ รายใหญ่ ประกาศหาที่ดินจำนวนมากรองรับการพัฒนาโครงการทั้งประเภทคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เช่น บริษัทเอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) รับซื้อที่ดิน 12 ทำลใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เช่น ซอยเย็นอากาศ, ถนนเจริญราษฎร์, ซอยทองหล่อ, ถนนบรรทัดทอง, สาทรซอย 1 ถนนเจริญกรุง (ตัดเส้นเยาวราช) เป็นต้น

          บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม (ประเทศไทย) เดิม คือ บริษัท แผ่นดินทอง ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ต้องการที่ดินเนื้อที่ 15 ไร่ขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด (ชลบุรี ระยอง ภูเก็ต นครศรีธรรมราช เชี่ยงใหม่ ขอนแก่น) โดยหากเป็นเนื้อที่ 10 ไร่ในพื้นที่กรุงเทพฯจะทำโครงการ CITY HOME (เหมือนบ้านกลางเมืองของค่าย เอพีฯ)

          บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ต้องการทำสัญญาซื้อขายปิดจบปีนี้ขึ้นคอนโดมิเนียมปี 2564 เน้นห่างสถานีรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กม.ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะพิจารณาเป็นพิเศษ ถนนซอยกว้างไม่ต่ำกว่า 6 เมตร ที่ดิน 1.5-5 ไร่ และที่ดินติดจำนองสถาบันการเงินเรา ซื้อได้ ทำเลที่ต้องการ ประชาราษฎร์-สามเสนพระราม ๘, ศิริราช, สี่พระยา-เจริญกรุง-เจริญนครพระรามที่ ๓-ราษฎร์บูรณะ, พหลโยธิน-เกษตรจตุจักร-สุทธิสาร-รัชดา และพญาไท-ราชดำริปทุมวัน-พระรามที่ ๔-บรรทัดทอง เป็นต้น
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ