อสังหาฯตีปีกปลดล็อกLTV ดีมานด์ฟื้นราคาแลกการ์ด บ้านหลังที่ 2 กู้ได้ 90% เริ่ม 1 เม.ย.นี้ SIRI-AP เด่นสุด
Loading

อสังหาฯตีปีกปลดล็อกLTV ดีมานด์ฟื้นราคาแลกการ์ด บ้านหลังที่ 2 กู้ได้ 90% เริ่ม 1 เม.ย.นี้ SIRI-AP เด่นสุด

วันที่ : 12 มีนาคม 2564
อสังหาเฮ บ้านหลังที่สองหลุดเกณฑ์เงื่อนไข LTV จากเดิมกู้ได้ 80% เพิ่มเป็น 90% ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้
          ดีเดย์ 1 เม.ย.นี้ บ้านหลังที่สองหลุดเกณฑ์เงื่อนไข LTV จากเดิมกู้ได้ 80% เพิ่มเป็น 90% จับตา SIRI AP และ SPALI รับประโยชน์มากสุด ด้าน SIRI ปันผล 0.04 บาท ขึ้น XD 15 มี.ค.นี้ ยีลด์ 4.21% ส่วน AP ปันผล 0.45 บาท ยีลด์ 5.59% โบรกฯ เผยมาตรการ LTV ที่สิ้นสุดเวลา ช่วยเพิ่มยอดซื้อบ้านได้มาก ขณะที่กลุ่มอสังหาฯ ราคาหุ้นยังแลกการ์ดบวกความต้องการบ้านเริ่มมีมากขึ้น

          นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน-กลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เผยว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 (1 เม.ย. 2564) มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value Ratio : LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในส่วนของบ้านหลังที่ 2 จะสิ้นสุดลง โดยจากเดิมที่ถูกจำกัดการกู้เงินไว้ที่ 80% จะได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 90% หรือลูกค้าจะสามารถขอวงเงินสินเชื่อบ้านได้มากกว่าเดิม

          นอกเหนือจากมาตรการ LTV ในส่วนของบ้านหลังที่สอง ตอนนี้หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ยังมีราคาที่ค่อนข้างต่ำ และยังเป็นหุ้นที่ไม่ได้กระทบจากแรงกดของผลตอบแทนพันธบัตร หรือ Bond Yield ที่ดีดขึ้นมาแรง ประกอบกับภาพรวมของกลุ่มฯ ในปี 2564 มีสัญญาณของการเทิร์นอะราวด์” นายกรภัทร กล่าว

          นายกรภัทร เผยด้วยว่า การเริ่มเปิดประเทศทำให้มีโอกาส Pent-up demand จากกลุ่มต่างชาติจะกลับมาด้วย

          ส่วนกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก LTV สิ้นสุดลง คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ที่จะได้ประโยชน์มากสุด และยังมีบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP รวมถึง บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับหุ้น SIRI จะขึ้นเครื่องหมาย XD (ผู้ซื้อไม่มีสิทธิในเงินปันผล) วันที่ 15 มี.ค.นี้ เพื่อจ่ายเงินปันผล 0.04 บาท ต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเงินปันผลจากราคาปิดวานนี้ (0.95 บาท) กว่า 4.21% ส่วนหุ้น AP จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 พ.ค.นี้ เพื่อจ่ายเงินปันผล 0.45 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทนเงินปันผล 5.59% จากราคาปิดวานนี้ (8.05 บาท)

          นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ ASPS กล่าวว่า มาตรการ LTV ที่จะให้เริ่มก็บ้านหลังที่สอง จากกำหนดเดิมไม่เกิน 80% เป็น 90% ทำให้สามารถช่วยกระตุ้นยอดขายบ้านได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะทำให้คนที่ต้องการซื้อบ้านมีกำลังซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านที่เป็นแนวราบ (บ้านจัดสรร) น่าจะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการสิ้นสุด LTV นี้

          ทั้งนี้ คงแนะนำลงทุนหุ้นกลุ่ม อสังหาฯ เช่น บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH SPALI และบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI
          นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด เผยเช่นกันว่า ราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์วิ่งขึ้นรับปัจจัยบวกต่าง ๆ ที่เข้ามาในช่วงนี้ ขณะที่ผลการดำเนินงานต่างได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงปี 2563

          “นักลงทุนจะซื้อหุ้นกลุ่มอสังหาฯ เป็นฤดูกาล โดยจะดักซื้อในช่วงก่อนกลางปีที่ผลประกอบการไตรมาส 1-2 จะชะลอตัวก่อนที่จะมีการเร่งโอนในช่วงปลายปี ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาสสุดท้ายจะเติบโตได้ดี รวมถึงมีการเข้าซื้อสะสมระยะยาวเพื่อรอเงินปันผลที่จ่ายประมาณ 5-6%”

          สำหรับมาตรการของรัฐในการต่ออายุมาตรการลดค่าโอน-จำนอง โดยคงเพดานราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีอายุมาตรการถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 นั้น เป็นการช่วยเหลือระดับหนึ่ง แต่เกณฑ์ที่สำคัญคือ มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value Ratio : LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ออกมาเพื่อสกัดการเก็งกำไร ทำให้กำลังซื้อของผู้ที่มีความสามารถกู้ได้ และต้องการลงทุนซื้อบ้านหลังที่ 2-3 เพื่อเก็งกำไรชะลอลง รวมถึงการปล่อยกู้ที่น้อยลงของธนาคารพาณิชย์

          หุ้นที่ บลจ.ยูโอบีฯ แนะนำ คือ SPALI

          บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ระบุว่า ปี 2563 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและยอดปฏิเสธสินเชื่อจากทางธนาคารได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วที่ประมาณ 20% ส่วนยอดการยกเลิกก็ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเช่นกัน ขณะที่การปล่อยสินเชื่อเริ่มเห็นธนาคารพาณิชย์มีการผ่อนคลายเพิ่มมากขึ้นสำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แต่การปล่อยสินเชื่อสำหรับ Developer หรือ Project Finance ยังคงมีความเข้มงวดอยู่

          ทั้งนี้ การเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2564 คาดว่าตลาดโดยรวมจะยังลดลงโดยเฉพาะกลุ่มคอนโดฯ และ Supply ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องเช่นกัน จากการที่ Developer ยังเน้นการขายโครงการใน Inventory เป็นหลัก
 
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ