สศช.หดเป้าจีดีพีเหลือ2%
Loading

สศช.หดเป้าจีดีพีเหลือ2%

วันที่ : 19 พฤษภาคม 2564
พิษโควิดถล่มหนักฝ่าไม่ไหว - จี้ใช้ วัคซีน นำเศรษฐกิจต่อ
              
          นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ในไตรมาสแรกปี 64 และแนวโน้มทั้งปี ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ติดลบ 2.6% หลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี แม้ว่าในช่วงปลายเดือน มี.ค. จะสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง แต่ในเดือน เม.ย. จนถึงปัจจุบันก็กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง ส่งผลให้ทั้งปี สศช.จำเป็นต้องปรับประมาณการใหม่ จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 2.5-3.5% เหลือเพียง 1.5-2.5% หรือเฉลี่ย 2% โดยคนไทยมีรายได้ต่อหัวลดลงจากประมาณการเดิมคนละ 235,474 บาทต่อปี เหลือคนละ 233,190 บาทต่อปี

          ทั้งนี้ในการบริหารจัดการเศรษฐกิจในปีนี้ให้สามารถขยายตัวได้ตามเป้าหมายนั้น สศช. เสนอว่า ในช่วงต่อจากนี้จะต้องเร่งควบคุมการแพร่ระบาดและป้องกันการกลับมาระบาดรุนแรงของไวรัสโควิดในประเทศ โดยกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง รวดเร็ว และเพียงพอ ทั้งกลุ่มประชาชนและภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมด้านการส่งออก ซึ่งถือเป็นเครื่องยนต์หลักทางเศรษฐกิจของประเทศในปีนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกระจายวัคซีนไป ยังกลุ่มนี้ เพื่อปกป้องฐานการผลิตของประเทศให้สามารถดำเนินกิจกรรมต่อไปได้แบบไม่มีสะดุดหรือต้องหยุดลง

          ขณะเดียวกันยังต้องเร่งเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาด โดยเฉพาะมาตรการทางการเงินที่ออกไปแล้ว เช่น แพ็กเกจ 2.5 แสนล้านบาท สำหรับซอฟต์โลนช่วยเหลือเอสเอ็มอี และพักทรัพย์พักหนี้ อีก 1 แสนล้านบาท โดยต้องขอความร่วมมือจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารพาณิชย์เร่งปล่อยสินเชื่อออกมาให้ได้เร็วเพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีดำเนินธุรกิจต่อไปได้ และยังต้องมีมาตรการที่ช่วยรักษาการจ้างงานเอาไว้ เพราะในช่วงที่ผ่านมาเอส เอ็มอีได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องหามาตรการออกมารักษาการจ้างงานเดิมเอาไว้ ควบคู่กับการจ้างงานเด็กจบใหม่ด้วย

          อีกทั้งยังต้องเร่งขับเคลื่อนการส่งออกอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทางการค้าในภูมิภาค รวมทั้งส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนให้เกิดการลงทุนจริงในอุตสาหรรมเป้าหมายภายในปีนี้ รักษาแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยการลงทุนและใช้จ่ายภาครัฐ ต้องเบิกจ่ายงบประมาณไม่ต่ำกว่า 92.5% เบิกจ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ให้ได้ไม่น้อยกว่า 80% ของวงเงินกู้ และเตรียมความพร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านการกระจายวัคซีนลงไปในพื้นที่นำร่องทั้งภูเก็ต สมุย พัทยา เชียงใหม่ ส่วนสุดท้ายต้องรักษาบรรยากาศทางการเมืองภายในประเทศให้ดีไม่ให้ซ้ำเติมเศรษฐกิจ
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ