รับเหมางานอื้อแข่งไม่ดุ รัฐดันงานปรับเกณฑ์ชวย 
Loading

รับเหมางานอื้อแข่งไม่ดุ รัฐดันงานปรับเกณฑ์ช่วย 

วันที่ : 10 มิถุนายน 2564
กรมบัญชีกลาง ผ่อน หลักเกณฑ์การประมูลงานภาครัฐให้ยืดหยุ่น รองรับความผันผวนของต้นทุนราคาวัสดุก่อสร้าง ควบคู่กับการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ
      เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เร็วขึ้น นักวิเคราะห์ฟันธงรับเหมางานล้น ลดบรรยากาศแข่งดุ มาร์จิ้นฟื้น ชู CK STEC SEAFCO

      นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า รัฐบาลตระหนักถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจ็กต์ รวมถึงการลงทุนในโครงการก่อสร้างทั่วประเทศ เพื่อกระตุ้น เศรษฐกิจในภาพรวมทั้งประเทศได้อย่างรวดเร็ว กรมบัญชีกลางจึงปรับปรุงกฎกระทรวง, กำหนดพัสดุ, และวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ให้มีความยืดหยุ่น สามารถรองรับ-ตอบสนองต่อสถานการณ์เฉพาะหน้าได้มากขึ้นทั้งการประมูลในระบบปกติ และการประมูลผ่านโปรแกรมประมูลแข่งขันราคาออนไลน์ (e-Auction)

      ประกอบกับบรรยากาศการลงทุนในประเทศ ถูกกดดันด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ตั้งแต่ไตรมาส 2/2563 เป็นต้นมา ส่งผลให้การดำเนินโครงการมีความล่าช้า ผู้รับเหมาประสบ ปัญหาหลากหลายทั้งไม่สามารถเข้าพื้นที่ก่อสร้างได้ บางช่วงเวลา, ปัญหาขาดแคลนแรงงาน, ปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างที่ผันผวน ดังนั้นภาครัฐบาลจึงพร้อม ที่จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง อาทิ การพิจารณาขยายระยะเวลาการส่งมอบงานทั้งการขยายระยะเวลาในอนาคต และการพิจารณาขยายระยะเวลาย้อนหลัง, การพิจารณายืดหยุ่น หลักเกณฑ์การพิจารณาจ่ายชดเชยในส่วนของผลต่างราคาวัสดุก่อสร้าง ณ วันที่ประกวดราคาได้ เทียบกับวันส่งมอบงานในแต่ละงวด หรือ "ค่า K" ให้กับผู้ประกอบการเป็นรายกรณี

      ล่าสุดกรมบัญชีกลางอนุมัติผ่อนผัน การ ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถดำเนินกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนต่างๆ ต่อไปได้ และสามารถก่อหนี้ผูกพันได้โดยเร็ว

      การแข่งขันลด

      นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า รัฐบาลเร่งรัดทุกหน่วยงานนำโครงการต่างๆ เข้าสู่กระบวนการประมูลอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ต่อเนื่องไปยังปี 2565 โดยโครงการที่ภาคเอกชนคาดหวังในช่วงที่เหลือของปี 2564 ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์, โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ,โครงการมอเตอร์เวย์สายพระราม 3 ซึ่งล่าช้า 2 สัญญา รวมถึงการพัฒนางานสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอื่นๆ

      ต่อเนื่องในปี 2565 ที่จะมีโครงการเมกะ โปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าหลวง พระบาง, โครงการสนามบินอู่ตะเภา, รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินที่จะทยอยเข้าสู่ระบบเป็นการเพิ่ม Backlog ให้กับบริษัทในกลุ่มรับเหมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บรรยากาศการแข่งขันในการประมูลลดลง เอื้อต่อการเสนอราคาต่อโครงการให้มีระดับ Margin ที่เหมาะสม จึงแนะนำ "ทยอยสะสม" บริษัทรับเหมาขนาดใหญ่ อาทิ CK และ STEC รวมถึงบริษัทรับเหมาฐานรากขนาดใหญ่ที่มีปริมาณงานในมือสูงเพียงพอรองรับรายได้ในปี 2564 เพื่อรับอานิสงส์ปริมาณงานที่มี Margin สูงในปี 2565