รัตนากร ปั้นยูทิลิตี้โทเค็น พลิกธุรกิจอสังหาโกดิจิทัล
Loading

รัตนากร ปั้นยูทิลิตี้โทเค็น พลิกธุรกิจอสังหาโกดิจิทัล

วันที่ : 2 มีนาคม 2565
โควิด-19 ผลักดันให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวอย่างมาก ทำให้เรารู้ว่าไม่มีเซฟโซนอีกต่อไป ธุรกิจเก่าจะโดนดิสรัปต์ ถ้าไม่อยากโดนก็ต้องเคลื่อนให้เร็ว
          "รัตนากร กรุ๊ป" ทุนอสังหาฯภูธร ควัก 500 ล้าน ปั้น "เทคสตาร์ตอัพ" พัฒนาเทคโนโลยี "บล็อกเชน" เชื่อมธุรกิจโลกเก่า-ใหม่ นำร่องเปิดตัว "Forward โทเค็น"ผนึกเครือข่ายพันธมิตร ใช้ "ยูทิลิตี้โทเค็น" ซื้อ "บ้าน-ทอง" ยันจ่ายค่าเทอม เตรียมเปิดตัว "ดิจิทัลแบงกิ้ง" สร้างคริปโตคอมมิวนิตี้ ต่อจิ๊กซอว์ "โทเค็นโนมิกส์"

          นายจักรรัตน์ เรืองรัตนากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท รัตนากร แอสเซท จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วิกฤตโควิด-19 ทำให้มุมมองของบริษัทในฐานะผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เปลี่ยนไป เริ่มคิดถึงการปรับเปลี่ยนทรานส์ฟอร์มองค์กรจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไปสู่ "โฮลดิ้งคอมปะนี" เพื่อขยับขยายการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีเพิ่มเติม เพราะมองว่าเป็นสิ่งที่นำมาต่อยอดธุรกิจเดิม และแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ได้อีกมากในอนาคต

          "โควิด-19 ผลักดันให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องปรับตัวอย่างมาก ทำให้เรารู้ว่าไม่มีเซฟโซนอีกต่อไป ธุรกิจเก่าจะโดนดิสรัปต์ ถ้าไม่อยากโดนก็ต้องเคลื่อนให้เร็ว กลุ่มรัตนากร แม้จะแข็งแรงในโลกอสังหาริมทรัพย์ มีสินทรัพย์กว่า 36,000 ล้านบาท มีที่ดินกว่า 3,000 ไร่ ใน 32 จังหวัดทั่วประเทศ แต่ถ้าจะทำแค่สร้างบ้าน คอนโดฯ เพื่อขายอย่างเดียวต่อไปคงไม่ได้ แต่ต้องเติมความแข็งแรงด้านเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในธุรกิจใหม่"

          ปรับโครงสร้างรับโลกเปลี่ยน

          โดยตั้งบริษัท รัตนากร แอสเซท กรุ๊ป โฮลดิ้ง ขึ้นมาลงทุนด้านคริปโตเคอร์เรนซี, เทคโนโลยีบล็อกเชน, เทคโนโลยีโลกเสมือน (Metaverse) และสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ พร้อมไปกับการปรับโครงสร้างธุรกิจจากเดิมมี 4 กลุ่ม เป็น 5 กลุ่ม เพิ่มกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยี (รัตนากร เทคโนโลยี กรุ๊ป) ขึ้นมา โดยโปรเจ็กต์แรกจะลงทุน 500 ล้านบาท ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด กับพันธมิตรอีก 2 ราย คือ ไพร์มสตรีทกรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจ และฟอร์เวิร์ดกรุ๊ป บริษัทวิจัยนวัตกรรมและพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ ด้านธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

          สำหรับกลุ่มธุรกิจเดิม ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (รัตนากร เรียลเอสเต็ท กรุ๊ป) บริหารจัดการหมู่บ้าน คอนโดมิเนียม อาคารพาณิชย์เพื่อเช่า รวมถึงตลาดรัตนากรและโรงเรียน, กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมการผลิต (รัตนากร อินดัสทรี กรุ๊ป) มีโรงงานปุ๋ยอินทรีย์เคมี โรงงานผลิตสารกำจัดศัตรูพืช โรงงานสกัดสมุนไพร เป็นต้น, กลุ่มธุรกิจการเงินครบวงจร (รัตนากร ไฟแนนซ์ กรุ๊ป) มีบริการสินเชื่อบ้านและคอนโดฯ, สินเชื่อธุรกิจ, นาโนไฟแนนซ์, เช่าซื้อ, สินเชื่อดิจิทัล และกลุ่มธุรกิจด้านการลงทุน (รัตนากร อินเวสต์เม้นต์ กรุ๊ป) ลงทุนในตลาดหุ้น, สินทรัพย์ดิจิทัล และกองทุนต่าง ๆ รวมกว่า 1,000 ล้านบาท

          ยูทิลิตี้โทเค็น เชื่อมโลกเก่า-ใหม่

          นายจักรรัตน์กล่าวต่อว่า "รัตนากร เทคโนโลยี กรุ๊ป" ถือเป็นหัวใจการลงทุนที่สำคัญในการต่อยอดเชื่อมโยงธุรกิจใหม่และธุรกิจเก่าเข้าด้วยกัน เพราะการลงทุนในบริษัท ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด มีเป้าหมายเพื่อนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งบล็อกเชน, สินทรัพย์ดิจิทัล และอื่น ๆ มาต่อยอดกับธุรกิจเดิม เพื่อสร้างการเติบโตให้ธุรกิจในเครือรัตนากร รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยไปพร้อมกัน

          "ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง" ก่อตั้งโดย 3 พันธมิตร คือ กลุ่มรัตนากร,  Forward Group และไพร์มสตรีทกรุ๊ป เราต้องการผสมผสานจุดแข็งที่แต่ละฝ่ายมีเข้าด้วยกัน ทั้งด้านเงินทุน เทคโนโลยี และความเชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ธุรกิจ การเงิน การลงทุน พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ ไพร์มสตรีทจะเป็นคนนำฟอร์เวิร์ดไปสู่โลก และนำโลกมาหาฟอร์เวิร์ด ส่วนกลุ่มรัตนากรจะเป็นคนทำให้ฟอร์เวิร์ด โทเค็น ใช้ได้ในโลกความเป็นจริง เช่น นำโทเค็น มาซื้อบ้าน, คอนโดฯ หรือแลกห้องพักในโรงแรม ซื้อปุ๋ย, จ่ายค่าเทอม, ขอกู้เงิน และลงทุนต่าง ๆ

          นายจักรรัตน์กล่าวอีกว่า ไม่เฉพาะ ธุรกิจในกลุ่มรัตนากร แต่ยังจะดึงพาร์ตเนอร์รายอื่นเข้ามาร่วมในอีโคซิสเต็ม "ฟอร์เวิร์ด โทเค็น" ด้วย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์รายอื่น ๆ, เครือข่ายร้านทองรายใหญ่ หรือแม้แต่ธุรกิจด้านการเกษตร, การท่องเที่ยว เป็นต้น เพื่อสร้างความคุ้นเคย ทำให้เหรียญได้รับการยอมรับ มีการใช้งานในคอมมิวนิตี้ที่ใหญ่ขึ้น และนำไปสู่การสร้างเศรษฐศาสตร์ของเหรียญ (tokenomic)

          "เราอยากเป็นสะพานเชื่อมธุรกิจโลกเก่ากับโลกใหม่ เชื่อมเจเนอเรชั่นเก่ากับใหม่ เรามองเห็นโอกาสและเชื่อในเทคโนโลยีที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกด้วยอัตราเร่งที่เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ ต่างจากในอดีตที่เทคโนโลยีค่อย ๆ เปลี่ยนจากมือถือเครื่องใหญ่เป็นฟีเจอร์โฟนที่เครื่องเล็กลง จนเป็นสมาร์ทโฟน"

          ปั้นเทคคอมปะนีสัญชาติไทย

          ด้านนายชานน จรัสสุทธิกุล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด พูดถึงเป้าหมายของบริษัทว่าต้องการสร้าง "เทคคอมปะนี" เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบ และสร้างการเปลี่ยนแปลงให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทย มีเป้าหมายที่จะเป็นบริษัทด้านบล็อกเชนที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในภูมิภาคอาเซียน เริ่มจากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในโลกการเงินทั้ง decentralized derivative exchange และ DeFi แพลตฟอร์มสัญชาติไทยในชื่อ "Forward-ฟอร์เวิร์ด" ซึ่งจะมีบริการทยอยออกมาต่อเนื่อง อาทิ คริปโตดิจิทัลแบงกิ้ง, ตราสารอนุพันธ์แบบไร้ศูนย์กลาง, กองทุนทรัพย์สินดิจิทัล, ระบบเสนอขายโทเค็นดิจิทัล (ICO portal) เป็นต้น ทั้งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset broker)

          ล่าสุด บริษัทเพิ่งมีแคมเปญแจกเหรียญ "Forward" airdrop ได้รับการตอบรับดีมาก แจกไปแล้วกว่า 7 ล้านโทเค็น ภายใน 8 วัน มียูสเซอร์กว่า 7 หมื่นคน ถือว่าเติบโตเร็วมาก ปัจจุบันมีผู้ถือโทเค็น Forward เกือบ 1 แสนคน และในอนาคตจะขยายให้ได้ 1 ล้านคน ผ่านการจัดกิจกรรมทางการตลาดทุกเดือน

          "บริษัทใหญ่ ๆ กว่าจะสร้างคอมมิวนิตี้ได้เท่านี้ใช้เวลาเป็นปี  แต่เราใช้เวลา 8 วัน มียูสเซอร์เกือบแสนถือว่าก้าวแรกของฟอร์เวิร์ดประสบความสำเร็จ และคาดว่าเมื่อเปิดคริปโตดิจิทัลแบงกิ้งจะมีการฝากกับการยืมเหรียญในระบบของเรา อย่างน้อย ๆ 5-10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,500-3,000 ล้านบาท"

          นายอุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา บริษัท ฟอร์เวิร์ด โฮลดิ้ง จำกัด เสริมว่า ในปีที่ผ่านมาเงินที่อยู่ใน DeFi บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การซื้อขายตราสารอนุพันธ์ของ คริปโตเคอร์เรนซีในช่วงที่ราคาขึ้นไปสูง ๆ มียอดเฉลี่ยกว่า 5 ล้านล้านบาทต่อวัน หากเข้าไปมีส่วนแบ่งตลาดได้เพียง 0.1% ภายใน 1 ปี จะมีรายได้ถึง 1,000 ล้านบาท (ค่าธรรมเนียม 0.03%)