อสังหาฯภูเก็ต ส่งสัญญานฟื้นตัวรับเปิดประเทศซีบีอาร์อีเผยจีนนิยมซื้อวิลล่าเพื่อการลงทุน
Loading

อสังหาฯภูเก็ต ส่งสัญญานฟื้นตัวรับเปิดประเทศซีบีอาร์อีเผยจีนนิยมซื้อวิลล่าเพื่อการลงทุน

วันที่ : 29 เมษายน 2565
ซีบีอาอีเชื่อว่าตลาดวิลล่าหรูในภูเก็ตจะยังคงไปได้ดี เพราะผู้ซื้อกำลังมองหาพื้นที่สำหรับการทำงานนอกสำนักงานและพื้นที่ที่ หลบจากความวุ่นวายเพื่อความเป็นส่วนตัวของครอบครัว
          นางสาวประกายเพชร มีชูสาร หัวหน้าแผนกซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ได้ความเห็นว่า "โมเดลภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 อาจไม่ได้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังสนามบินภูเก็ตเพิ่มขึ้นเป็น 219,144 คน และถึงแม้จำนวนดังกล่าวจะถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวจำนวน 4.4 ล้านคน ที่เดินทางมาในช่วงหลังครึ่งของปี 2562 แต่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตเริ่มฟื้นตัวขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาพักอาศัยระยะยาวและความต้องการวิลล่าหรูจากชาวไทย และ ชาวต่างชาติในกรุงเทพฯ

          "ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ซีบีอาร์อีปิดการขายวิลล่าจำนวนหลายหลังกับผู้ซื้อในประเทศที่มองหาบ้านพักตากอากาศหรูในภูเก็ต ซีบีอาอีเชื่อว่าตลาดวิลล่าหรูในภูเก็ตจะยังคงไปได้ดี เพราะผู้ซื้อกำลังมองหาพื้นที่สำหรับการทำงานนอกสำนักงานและพื้นที่ที่ หลบจากความวุ่นวายเพื่อความเป็นส่วนตัวของครอบครัว ความต้องการสะสมที่เพิ่มขึ้นมาจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่ มองหาโอกาสในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตในราคาพิเศษ ทั้งในรูปแบบคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว ซึ่งเสนอขายในราคาที่ต่ำลง เนื่องจากเจ้าของเดิมไม่สามารถเดินทางกลับมายังเกาะภูเก็ตได้เนื่องจากโควิด-19 หรือบางรายอาจต้องการปลดภาระทรัพย์สิน"

          นอกจากนี้ จำนวนนักลงทุนชาวจีนและชาวรัสเซียในตลาดคอนโดมิเนียมภูเก็ตลดลง เนื่องจากมีการจำกัดการเดินทาง รวมถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศที่กำลังดำเนินอยู่ หากกลุ่มผู้ซื้อเหล่านี้กลับมา ซีบีอาร์อีเชื่อว่าตลาดการซื้อของลูกค้าดังกล่าว จะขยายครอบคลุมทั้งการซื้อเพื่อการลงทุนและเพื่ออยู่อาศัยเอง ในขณะเดียวกัน ตลาดลูกค้าชาวจีนจะเป็นความท้าทายสำหรับผู้พัฒนาโครงการ เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องเพดานการโอนเงินออก นอกประเทศ ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการร่วมทุนกับบริษัทจีนอาจ มีข้อได้เปรียบในเรื่องความมั่นใจในโครงการที่จะได้รับจากลูกค้าชาวจีนที่มากกว่า

          ซีบีอาร์อีมีความเห็นว่า กลุ่มผู้ซื้อชาวจีนที่มีศักยภาพสำหรับภูเก็ตมีด้วยกันสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ นักลงทุนที่แสวงหาผล ตอบแทนที่มีการการันตีและการบริหารการเช่า และกลุ่มที่สองคือ ผู้ซื้อเพื่ออยู่เองที่มองหาวิลล่าสุดหรูเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ พร้อมโอกาสที่จะนำมาปล่อยเช่าได้ด้วย

          จากข้อมูลของแผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่าในช่วงครึ่งหลังของ ปี 2564 ตลาดอพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียมภูเก็ตมียอดขาย 115 ยูนิต เพิ่มขึ้น 113% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ที่มียอดขายเพียง 54 ยูนิต หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 74.2% เมื่อ เทียบกับช่วงครึ่งแรกปี 2564 ที่มียอดขาย 66 ยูนิต ในภูเก็ต ไม่มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่มาเป็นเวลาสองปี ติดต่อกันนับตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2562 ในขณะที่มียูนิตใหม่ที่ สร้างเสร็จจำนวน 200 ยูนิตมาจากเพียงโครงการเดียว และมี มากกว่า 4,700 ยูนิตอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560 โดยโครงการส่วนใหญ่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกตอนกลางและชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้

          สำหรับตลาดวิลล่าภูเก็ต แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี พบว่ามีวิลล่า ทั้งหมด 81 หลังที่ปิดการขายไปในช่วงครึ่งหลังปี 2564 เพิ่มขึ้น 32.8% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2564 และเพิ่มขึ้นถึง 125% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของปี 2563 นอกจากนี้ ยอดขายยังเพิ่มขึ้นทุกไตรมาส โดยในไตรมาส 3 ปี 2564 มีวิลล่าขายไปได้ 36 หลัง ขณะที่ในไตรมาส 4 ปี 2564 มีการขายวิลล่า 45 หลัง ซึ่งเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 เนื่องจาก ความต้องการจำนวนมากที่มาจากผู้ซื้อในประเทศที่มองหาบ้าน พักตากอากาศและบ้านหลังที่สอง ดังนั้น แนวโน้มตลาดวิลล่าภูเก็ตในปี 2565 จึงเป็นไปในทิศทางบวกมากกว่าปีก่อน ๆ แต่จะเป็นการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหรือไม่นั้นยังยากต่อการคาดการณ์

          ในด้านตลาดโรงแรมภูเก็ต หากพิจารณาปริมาณห้องพักในโรงแรม แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี รายงานว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 มีห้องพักโรงแรมเพิ่มขึ้น 1,180 ห้องจากการเปิดโรงแรมใหม่ 9 แห่ง ส่งผลให้ปริมาณห้องพักทั้งหมดของโรงแรมบนเกาะแห่งนี้ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 43,000 ห้อง ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้อัตราการเข้าพักใน ช่วงครึ่งหลังของปี 2564 เพิ่มขึ้น 16.8% จาก 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนจากข้อมูลของ STR และภายในปี 2567 ปริมาณห้องพักโรงแรมในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้น 7.3% จากโรงแรมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 15 แห่ง รวมทั้งสิ้น 3,120 ห้อง

          นายอรรถกวี ชูแสง หัวหน้าแผนกธุรกิจโรงแรม ซีบีอาร์อี ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ตลาดโรงแรมในภูเก็ตมีการปรับตัวดีขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราการฉีดวัคซีนที่สูงขึ้น ความมั่นใจในการเดินทาง และนโยบายจากภาครัฐที่ส่งเสริมการเดินทางภายในประเทศ รวมถึงการปรับนโยบายการเดินทางเข้าประเทศ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2563 ทั้งนี้ ในไตรมาสปีนี้ อัตราการเข้าพักโรงแรมในภูเก็ตกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลให้อัตราการเข้าพักในช่วงโควิด-19 เพิ่มขึ้นเป็น 60%-90% สำหรับโรงแรมที่แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ทำการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ แต่รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก หรือ RevPAR ยังอยู่ในระดับต่ำเนื่องจากเจ้าของโรงแรมยังคงเสนอแพ็คเกจราคาพิเศษ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้กลับมาเข้าพัก

          "เนื่องจากจีนยังคงปิดพรมแดน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเป็นชาวยุโรป ชาวอเมริกัน และชาวรัสเซียที่ตกค้างอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ การระบาดของไวรัสโควิดด-19 ระลอกล่าสุดในจีนอาจส่งผลให้นักท่อง เที่ยวชาวจีนที่จะเดินทางออกจากจีนและเข้าสู่ประเทศไทยนั้นเป็นไปได้ยาก นายอรรถกวี กล่าวสรุป"