วิกฤติโควิดพ่นพิษกระทบกำลังซื้อ
Loading

วิกฤติโควิดพ่นพิษกระทบกำลังซื้อ

วันที่ : 22 มิถุนายน 2565
โควิดทำห้องหลุดจอง 20% เดินหน้ารีเซลพร้อมขยับราคาขึ้น 3% รับสามย่านสมาร์ทซิตี้บูม เตรียมร่วมทุนต่างชาติขยายลงทุนแนวราบ กว่า 5,000 ล้านบาท รุกโครงการบ้านหรูราคา 30 ล้านบาท
          
          นายณัฐวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท คูน เอสเตท จำกัด เจ้าของโครงการ คูเปอร์ สยาม กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวโครงการคูเปอร์ สยาม มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ในปี 2561 สามารถปิดการขายได้ 100% แต่หลังจากเกิดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและความมั่นใจลูกค้า ทำให้มีห้องหลุดจอง 20% ทั้งลูกค้าคนไทย และต่างชาติ (สัดส่วนหลักเป็นคนจีน)

          ดังนั้นบริษัทได้รับห้องซื้อคืนมาจากลูกค้าพร้อมกับขยับราคาขึ้น 3% ตามราคาตลาดสูงขึ้น เนื่องจากราคาที่ดินในย่านปทุมวัน ราคาขั้นต่ำ 600,000 บาท/ตร.ว. ถือเป็นราคาสูงมากและปัจจุบันไม่มีซัพพลายเหลืออยู่ในตลาด เพราะเป็นย่านเมืองเก่ามีพื้นหายาก ราคาที่ดินและค่าก่อสร้างที่แพงขึ้น ทำให้ราคาขายโครงการที่จะพัฒนาขึ้นมาใหม่สูงขึ้นถึง 50 %

          จึงเป็นโอกาสของคนที่ต้องการซื้อคอนโดย่านกลางเมือง ที่เป็นฟรีโฮลด์ ในราคาเริ่มต้นที่ 4.99 ล้านบาท หรือ 117,000 บาท/ตร.ม. โดยเฉลี่ยราคาทั้งโครงการ 140,000 บาท/ตร.ม.

          นายณัฐวัฒน์ กล่าวว่า จุดขายสำคัญคือ ทำเลย่านสยาม-ปทุมวัน ห่างสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ 700 เมตร ซึ่งเดิม เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู ของบริษัทไทยยานยนตร์ จำกัด ซึ่งเป็นที่ดินฟรีโฮลด์ ขนาด 1 ไร่ 2 งาน 21.5 ตร.ว.

          โดยพัฒนาเป็นคอนโด ไฮไรส์ 24 ชั้น 188 ยูนิต แบ่งเป็นโซน Combo Loft เพดานสูง 4.6 เมตร แบบ Single และ Double ขนาด 41-71 ตร.ม. วางกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพ กลุ่มเจนวาย ที่ต้องการสร้างธุรกิจ เพราะสามารถใช้เป็นพื้นที่สำนักงานและจดทะเบียนธุรกิจ โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวก โค-เวิร์คกิ้ง สเปซ ห้องประชุมส่วนตัว และห้องอเนกประสงค์

          ส่วนโซนพักอาศัยชั้นสูง หรือ Sky Residence แบบ 1 และ 2 ห้องนอน ขนาด 30 -67 ตร.ม. และเพนท์เฮ้าส์ดูเพล็กซ์ 3 ห้องนอน ขนาด 188 -220 ตร.ม. มี 2 ยูนิต โดยใช้ลิฟท์ แยกโซน คาดภายในระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ จะสามารถขายห้องที่หลุดจองจำนวน 20% ได้หมดเนื่องจากทำเลตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าสตาร์ทอัพ สอดคล้องกับผังเมืองใหม่ในย่านสามย่านสมาร์ทซิตี้ ของจุฬาฯที่ต้องการยกระดับให้เป็นย่านต้นแบบของสตาร์ท นวัตกรรม ที่มีสามย่าน มิตรทาวน์เป็นแม่เหล็กสำคัญในการดึงดูดนิสิต นักศึกษา นักเรียน และคนนอกพื้นที่เข้ามาทำกิจกรรมในย่านนี้

          นายณัฐวัฒน์ กล่าวว่า ปีนี้มีแผนขยายการลงทุนไปยังโครงการแนวราบร่วมกับพันธมิตรต่างชาติ โดยเตรียมประกาศความร่วมมือในไตรมาส 3 เพื่อเปิดตัวโครงการบ้านหรูราคา 30 ล้านบาทขึ้นไปในทำเลที่ยังไม่มีซัพพลายโครงการบ้านในเซกเมนต์ดังกล่าว คาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการในปี 2566 เนื่องจากเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจในตลาดที่ลูกค้ามีกำลังซื้อแทนที่เป็นตลาดบ้านราคาถูก เพราะไม่สามารถแข่งขันราคากับคู่แข่งรายใหญ่อย่าง เอพี แสนสิริ ศุภาลัยได้ จึงต้องมองหาตลาดนิชมาร์เก็ตแทน
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ