คลังปลดล็อกลูกหนี้เครดิตบูโร
Loading

คลังปลดล็อกลูกหนี้เครดิตบูโร

วันที่ : 19 ตุลาคม 2565
กระทรวงการคลัง เผยว่า มีผู้ร้องเรียนกรณีการถูกขึ้นบัญชีดำมาที่กระทรวงคลังมากกว่า 1 ล้านราย เพราะไม่สามารถกู้ในระบบได้ ทั้งๆที่ผ่อนชำระครบถ้วนหมดแล้ว
          เล็งถก ธปท.ชำระเงินครบไม่ควรติดบัญชีดำ

          นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้หารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (18 ต.ค.) เกี่ยวกับข้อเสนอของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร ที่เสนอให้แก้ไขกฎหมายพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 โดยนำสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นอนแบงก์) เช่น ธุรกิจลีสซิ่ง เช่าซื้อ รวมไปถึงนาโนไฟแนนซ์และฟิโกไฟแนนซ์ เป็นต้น ให้เป็นสมาชิกเพื่อนำส่งข้อมูลให้เครดิตบูโรได้ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการประเมินสินเชื่อให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

          โดยการนำกลุ่มนอนแบงก์เข้าร่วมเป็นสมาชิกเครดิตบูโรถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะจะมีฐานข้อมูลการปล่อยสินเชื่อขนาดใหญ่มากอย่างไรก็ตาม ส่วนตัวมีความเป็นห่วงประเด็นความไม่เป็นธรรมและสร้างผลกระทบให้กับประชาชนระดับล่างจนถึงระดับกลางที่อาจประสบปัญหาการกู้เงินในระบบในอนาคต เนื่องจากเครดิตบูโรมีเงื่อนไขว่าผู้ที่เป็นหนี้เสียขาดการชำระหนี้เกิน 3 เดือน และถึงแม้จะชำระหนี้ค้างจ่ายคนครบถ้วนหมดแล้ว แต่ก็จะถูกขึ้นบัญชีดำไปอีก 2 ปี ทำให้ขอกู้ในระบบไม่ได้ จึงเสนอให้เครดิตบูโรแก้ไขประเด็นนี้เพื่อให้ผู้กู้พ้นการถูกขึ้นบัญชีดำทันที

          "มีผู้ร้องเรียนกรณีการถูกขึ้นบัญชีดำมาที่กระทรวงคลังมากกว่า 1 ล้านราย เพราะไม่สามารถกู้ในระบบได้ ทั้งๆที่ผ่อนชำระครบถ้วนหมดแล้ว จึงมีความเป็นห่วงเมื่อนอนแบงก์เข้าระบบเครดิตบูโรและยังมีเงื่อนไขห้ามปล่อยกู้ผู้ที่เคยมีประวัติค้างชำระหนี้ไว้ 2 ปี ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่เคยเป็นหนี้เสียจะกู้เงินในระบบไม่ได้ จำเป็นต้องหันไปพึ่งหนี้นอกระบบซึ่งมีดอกเบี้ยสูง และส่งผลต่อหนี้ครัวเรือนในอนาคต จึงต้องสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ที่เคยผิดนัดชำระหนี้ แต่ได้ชำระหนี้ครบถ้วนแล้ว ส่วนผู้ที่เป็นหนี้เสียและยังไม่เคลียร์หนี้เดิมให้คงอยู่ในเงื่อนไขบัญชีดำต่อไป"

          ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อจากนี้กระทรวงการคลังจะมีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อร่างรายละเอียดนำไปสู่การแก้ไข พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากเรื่องกฎหมายเครดิตบูโรจะต้องมีการแก้ไขในบางประเด็นอยู่แล้ว หากดำเนินการเรียบร้อยแล้วจะเดินหน้าเสนอ ครม. อนุมัติต่อไป