นายแบงก์ ชี้ปี66 เศรษฐกิจโลกถดถอย
Loading

นายแบงก์ ชี้ปี66 เศรษฐกิจโลกถดถอย

วันที่ : 2 พฤศจิกายน 2565
ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไทยในปี 2566 จะขยายตัวได้ประมาณ 2-3% จากปี 2565 ที่ขยายตัวประมาณ 3-4% โดยเฉพาะปัจจัยสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยปีหน้าที่เป็นความหวัง
          แนะกอดเงินสด-ประคองตัวฝ่าวิกฤต

          แบงก์กรุงเทพ เศรษฐกิจโลกปี 2566 คาดว่าจะมีความวุ่นวายสุดขีด แนะธุรกิจ-ชาวบ้านกอดเงินสดให้แน่น เพื่อเตรียมไว้เป็นสภาพคล่อง กรณีฉุกเฉิน โดยเลี้ยงดำเนินโครงการใหม่ คาดจีดีพีขยายตัวแค่ 2-3% ส่วนตลาดหุ้นไทยยังเนื้อหอม safe heven นักลงทุนนอก

          นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการ บริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และประธานสภาตลาดทุนไทย เปิดเผยว่า ปี 2566 จะเป็นปีที่วุ่นวายทั้งปี เพราะมีแต่ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตามทั้งปี เป็นปีที่ยากลำบาก ไม่ง่าย จากเศรษฐกิจปีนี้ที่เป็นจุดเริ่มต้นไปสู่ปีหน้าที่มีความท้าทายหลายอย่าง โดยเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) จะเห็นได้จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาที่ไม่เคยพบมาก่อน

          อาทิ อังกฤษมีการเปลี่ยนนายกฯ จากปัญหาเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นค่าเงินอ่อนเป็นพิเศษ มีการแทรกแซงค่าเงินในรอบ 20 กว่าปี ปัญหาธนาคารเครดิตสวิส ดอยช์แบงก์ ก็ต้องตามดู และช่วงที่ผ่านมาหุ้นแอมะซอนลงไป 10% รวมถึงหุ้นกูเกิ้ล สะท้อนว่าถ้าเศรษฐกิจไปได้ทำไมหลายประเทศและบริษัทขนาดใหญ่จึงยังมีปัญหา ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันเริ่มวิกฤต ดังนั้น สิ่งที่อยู่ข้างหน้าจึงไม่ธรรมดา แต่หากเตรียมการอย่างดี เพื่อรอรับวิกฤตที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเกิดในรูปแบบใด เชื่อว่าคนไทยจะฝ่าวิกฤตนำเศรษฐกิจไทยปี 2566 ให้จะยังพอไปได้ ผ่านร้ายกลายเป็นดี ประคองตัวให้พ้นภัยได้

          ส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไทยในปี 2566 จะขยายตัวได้ประมาณ 2-3% จากปี 2565 ที่ขยายตัวประมาณ 3-4% โดยเฉพาะปัจจัยสนับสนุนจากนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยปีหน้าที่เป็นความหวัง ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องยังภาคการเกษตรกรที่มีคนอยู่ในอุตสาหกรรม 20 ล้านคน ภาคการท่องเที่ยว 10 ล้านคน และอุตสาหกรรมส่งออก 3-4 ล้านคน ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะชะลอตัวแต่ไม่ถึงกับติดลบ

          สำหรับภาคธุรกิจในปีหน้า สิ่งสำคัญคือต้องมีสภาพคล่อง เพราะความท้าทายรอบนี้อย่างน้อยอีกปีกว่าๆ อะไรที่เป็นต้นทุนไม่จำเป็นต้องลดลง โครงการอะไรที่รอได้ต้องรอไปก่อน ปีหน้าต่างประเทศมีโอกาสวิกฤตรุนแรงกว่าปีนี้ เช่น อเมริกา ต้องดูว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์จะแย่แค่ไหน ที่สำคัญจีนที่ไม่เคยเกิดวิกฤต ถ้าอสังหาจีนไม่ดีเศรษฐกิจโตไม่ได้ สินค้าราคาถูกจีนก็ต้องตีตลาด มีการลดค่าเงินหยวน ของจีนถูกๆ ก็จะตีตลาดกระทบผู้ประกอบการไทย

          อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผลกระทบต่อประชาชนยังน่ากังวลใจ เพราะเพิ่งออกจากโควิด-19 ทุกคนมีแต่หนี้ เพราะใช้เงินไปเยอะแล้ว โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่จะเจองานยากเพราะไม่มีเวลาหายใจหายคอออกจากวิกฤตไปสู่วิกฤต ขณะที่ตลาดหุ้นไทยจากการไปพบนักลงทุนต่างประเทศต่างมองว่าช่วงนี้อาเซียนดูดีเป็นพิเศษ เป็นsafe heaven ของโลก นักลงทุนจึงมองหาประเทศที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดี ซึ่งปี 2566 หน้าอาจมีช่วงหุ้นตกลงบ้างตามทิศทางตลาดประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่อาจมีปัญหาส่งผลให้หุ้นตกลงในบางช่วง