คาดกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย0.25% แบงก์รอดูผลการประชุม-เน้นดูแลลูกหนี้
Loading

คาดกนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ย0.25% แบงก์รอดูผลการประชุม-เน้นดูแลลูกหนี้

วันที่ : 25 มกราคม 2566
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยว่า เป็นเรื่องปกติที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจะต้องถูกส่งผ่านไปสู่ตลาดเงิน และสถาบันการเงิน แต่การที่สถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์จะปรับตามเมื่อไหร่ ในอัตราเท่าไหร่ ก็จะขึ้นอยู่กับโจทย์ย่อยของแต่ละแห่ง
          นายเชาว์ เก่งชน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ในการประชุมวันที่ 25 มกราคมนี้ สอดรับกับทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังทีการเปิดประเทศ ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น รวมทั้งเพื่อรองรับกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ยังคงเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่สูงอยู่

          อย่างไรก็ตาม การปรับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์นั้น นอกจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของทางการแล้ว ก็จะต้องพิจารณาถึงประเด็นรายละเอียดเฉพาะของแต่ละแห่งเองด้วย ดังนั้น จึงขึ้นอยู่แต่ละธนาคารว่าจะพิจารณาในเรื่องนี้อย่างไร แต่โดยภาพรวมของระบบเศรษฐกิจแล้วทิศทางอัตราดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้น

          "เป็นเรื่องปกติที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจะต้องถูกส่งผ่านไปสู่ตลาดเงิน และสถาบันการเงิน แต่การที่สถาบันการเงินหรือธนาคารพาณิชย์จะปรับตามเมื่อไหร่ ในอัตราเท่าไหร่ ก็จะขึ้นอยู่กับโจทย์ย่อยของแต่ละแห่ง ซึ่งต้องดูถึงโครงสร้างลูกค้า และอื่นอันเป็นปัจจัยภายในของแต่ละแห่ง แต่โดยภาพรวมแล้วสถาบันการเงินก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจเดียวกัน ทิศทางของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงเป็นทิศทางของดอกเบี้ยโดยรวมด้วย"

          แบงก์รอดูผลประชุม กนง.

          นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ธนาคารจะต้องรอผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ก่อน จึงจะมีความชัดเจนถึงทิศทางดอกเบี้ยของธนาคาร โดยปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลลูกค้าทียังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้สามารถกลับดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น รวมถึงให้สามารถก้าวข้ามไปสู่ Business Model ใหม่ได้ เพื่อให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารก็ได้ให้สินเชื่อทั้งในส่วนของการเสริมสภาพคล่อง และเพื่อปรับปรุงหรือขยายธุรกิจในช่วงที่เศรษฐกิจเอื้ออำนวย

          "เรื่องดอกเบี้ยเราคงต้องรอฟังผลการประชุมกนง.ออกมาก่อน แต่สิ่งที่เรายังต้องทำอย่างต่อเนื่อง ก็คือการดูแลลูกค้า ซึ่งแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่ก็ยังมีบางกลุ่มที่ยังมีความเปราะบางและต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่อง เพราะเศรษฐกิจก็ยังฟื้นตัวอย่างไม่ทั่วถึงทุกกลุ่ม และที่สำคัญเราเชื่อมั่น ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น จะดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าได้อย่างยั่งยืนต่อไป ส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) นั้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นก็น่าจะดีขึ้นตามเช่นกัน ซึ่ง NPL ของธนาคารปัจจุบันยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้"
ข่าวนโยบายการเงิน-การคลัง อื่นๆ