รายงาน: บ้าน 3-4 ล้าน สงขลามาแรงลดโอน-จดจำนองดันตลาดโต
Loading

รายงาน: บ้าน 3-4 ล้าน สงขลามาแรงลดโอน-จดจำนองดันตลาดโต

วันที่ : 31 มกราคม 2567
ผู้ประกอบการอสังหาฯสงขลา เผยแนวโน้ม ตลาดที่อยู่อาศัยปี 2567 ทรงตัว คาดไตรมาส 3 และ 4 ดีขึ้น ชี้ กลุ่มตลาดบ้านเดี่ยวราคา 3-4 ล้านบาทมาแรง มาตรการลดค่าโอน-จดจำนอง อัตราดอกเบี้ยยังรับได้

        สมชาย สามารถ
 

         นายวรัชญ์ ปริสุทธิ์กุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาในปี 2567 ว่า ถ้าดูจากภาวะปัจจุบัน ยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ ยังอยู่ในสภาพทรงๆ แต่จะดีในบางกลุ่ม เช่น กลุ่มบ้านเดี่ยวที่ระดับราคาเจาะตลาดกลางถึงบน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจ ปีนี้เริ่มมีการเปิดตัวโครงการใหม่ในกลุ่มบ้านเดี่ยวราคาเกิน 5 ล้านบาท ซึ่งตลาดกลุ่มนี้มีความสามารถทางด้านการเงินสูง ไม่มีปัญหาในการปล่อยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน
 

        สำหรับมาตรการลดค่าโอนเหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ และค่าจดทะเบียนจำนองเหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ มองว่ามีดีกว่าไม่มี เพียงแต่ว่ามาตรการนี้ ช่วยให้กลุ่มผู้ซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งเป็น กลุ่มใหญ่ของประเทศ ตลาดบ้านที่ใหญ่ที่สุดของสงขลาอยู่ที่บ้านเดี่ยวราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท แต่ถ้ากลุ่มบ้านที่มีราคาต่ำว่า 3 ล้านบาทจะมีเงื่อนไขอัตราการปฏิเสธสินเชื่อจากสถาบันการเงินจะสูงมาก เพราะเป็นกลุ่มที่เพิ่งทำงาน สถาบันการเงินเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ แต่กลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านในราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป เป็นกลุ่มข้าราชการที่มีอายุงานมาก กลุ่มพนักงานบริษัทระดับผู้บริหาร การปล่อยสินเชื่อจะง่ายขึ้น แต่รัฐบาลไม่ได้มีมาตรการสำหรับการกระตุ้นกลุ่มนี้
 

      ในมุมของผู้ประกอบการมองว่าควรจะเป็นมาตรการ 3 ล้านบาทแรก จะได้ประโยชน์ทั่วหน้ากัน เช่น คนที่ซื้อบ้านหลังละ 4 ล้านบาท จะได้รับการลดค่าธรรมเนียมโอน ค่าจดจำนองใน 3 ล้านบาท ส่วนอีก 1 ล้านบาทที่เกินไปก็เป็นอัตราปกติ น่าจะช่วยเหลือผู้ที่ต้องการมีบ้านให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นการมีมาตรการนี้ก็ยังดีกว่าไม่มี
 

      นายธนวัตน์ พูนศิลป์ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ออกซิเจนเรียลเอสเตท จำกัด กล่าวว่า อสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาในปีนี้ น่าจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา หลังจากภาครัฐเร่งมาตรการลดค่าโอน เหลือ 1 เปอร์เซ็นต์ และค่าจดทะเบียนจำนองเหลือ 0.01 เปอร์เซ็นต์ จะทำให้ความต้องการบ้านสำหรับคนที่ซื้อบ้านน่าจะดีขึ้น ในขณะที่รัฐบาลก็เริ่มทำงานในการเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจ นโยบายต่างๆ ก็เริ่มออกมา
 

      ส่วนงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้าเหลือเวลางบประมาณเพียง 5 เดือน ทำให้ไตรมาสสามและไตรมาสสี่เงินจะออกมาเยอะ ทุกภาคส่วนต้องรีบใช้ทั้งการลงทุน การก่อสร้างต่างๆ จะทำให้เกิดเงินสะพัดในช่วงไตรมาสที่สามและไตรมาสที่สี่ สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลาในช่วงไตรมาสที่หนึ่งและไตรมาสที่สองน่าจะอยู่ในภาวะที่ทรงตัว แต่ในช่วงไตรมาสที่สามและไตรมาสที่สี่น่าจะดี
 

     สำหรับกลุ่มบ้านที่จะเป็นกลุ่มนำตลาด ที่ขายดีเป็นบ้านเดี่ยวราคา 3-5 ล้านบาท รองลงมาเป็นกลุ่มบ้านแฝด ส่วนคอนมิเนียมยังไปได้ เพราะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีการลงทุนต่อเนื่อง ส่วนกลุ่มบ้านพรีเมียมราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปยังไม่ดี เนื่องจากบ้านราคาแพงจะขายได้ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ และกลไกของตลาด แต่ขณะนี้กลุ่มที่ซื้อบ้านหรู บ้านพรีเมียม คือกลุ่มเจ้าของธุรกิจ แต่ในขณะนี้ธุรกิจขนาดใหญ่ การค้าการขายยังไม่ดี หรือยังอยู่ในช่วงการฟื้นตัว ขณะที่กลุ่มที่ศักยภาพ เช่น กลุ่มแพทย์ วิศวกร เรือน้ำมัน ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันเขาจะมองที่บ้านราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท
 

      นายพีระ หงส์ชยางกูร กรรมการ บริษัท หาดใหญ่นครินทร์ จำกัด (ในเครือศุภาลัย) กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 มีการกลับมาของผู้พัฒนา อสังหาริมทรัพย์ค่อนข้างเยอะ มีเปิดตัวหลายโครงการ น่าจะคึกคัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น การค้าขาย โรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่กลัวปัจจัยภายนอก การเมือง หรือปัจจัยอื่นๆ ของเศรษฐกิจโลกบ้าง แต่สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่พึ่งตลาดคนไทยเป็นหลัก ส่วนดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นมาน่าจะเหมาะสม ไม่ถือว่าสูงเกินไป
 

       สำหรับกลุ่มสินค้าที่จะเป็นดาวรุ่งหรือดาวร่วงของอสังหาริมทรัพย์จังหวัดสงขลา ธนาคารอาจจะเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการเข้มงวดของธนาคารหรือธนาคารไม่ อนุมัติสินเชื่อนั้นเป็นกลุ่มลูกค้าระดับกลางลงมา ถือว่าค่อนข้างมากที่ธนาคารปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อ จึงได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ ส่วนผู้ที่มีรายได้กลางขึ้นสูงได้รับกระทบน้อยกว่า
 

       ส่วนกลุ่มบ้านที่อาจได้รับผลกระทบ เช่น ทาวน์เฮ้าส์ บ้านชั้นเดียว ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งกำลังซื้อไม่เพียงพอสินเชื่อธนาคารไม่ได้รับการอนุมัติ กลุ่มนี้จะเพิ่มมากขึ้น ส่วนบ้านราคาขนาดกลาง 5 ล้านบาทขึ้นไป อาจจะกระทบน้อย สำหรับปัจจัยบวกที่เด่นชัด คือการท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามา สร้างกระแสเงินหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้น ส่วนปัจจัยลบ เช่น การส่งออก ราคาน้ำมัน การสู้รบต่างประเทศ หากยืดเยื้อบานปลาย ทำให้การขนส่งมีปัญหา จะกระทบการส่งออกโดยตรง เนื่องจากสงขลามีการส่งออกสินค้าพอสมควร