ต่างชาติแห่ซื้อคอนโดฯไทย
Loading

ต่างชาติแห่ซื้อคอนโดฯไทย

วันที่ : 4 เมษายน 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ในปี 66 มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 14,449 หน่วย เพิ่มขึ้น 25% มูลค่า 73,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% สูงกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด โดยผู้ซื้อสัญชาติจีนเป็นกลุ่มที่ซื้อมากที่สุด ทั้งจำนวนและมูลค่า
         นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติ ในปี 66 มีหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ 14,449 หน่วย เพิ่มขึ้น 25% มูลค่า 73,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% สูงกว่าช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด โดยผู้ซื้อสัญชาติจีนเป็นกลุ่มที่ซื้อมากที่สุด ทั้งจำนวนและมูลค่า มีสัดส่วนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์เป็น 45.8% รองลงมา คือ รัสเซีย สหรัฐ และ เมียนมา โดยห้องชุดราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นที่นิยมมากสุด 49.4% ขณะที่ขนาดห้องที่นิยมมากสุดคือ 31-60 ตารางเมตร ส่วนจังหวัดที่มีโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติสูงสุด คือ ชลบุรี โดยคนต่างชาติที่รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดจำนวนมากสุด คือ ชาวจีน 6,614 หน่วย รองลงมาเป็น รัสเซีย จำนวน 1,260 หน่วย สหรัฐอเมริกา 631 หน่วย เมียนมา 564 หน่วย และไต้หวัน 532 หน่วย ส่วนมูลค่าการโอนมากสุด เป็นชาวจีน 34,132 ล้านบาท รัสเซีย 4,455 ล้านบาท เมียนมา 3,707 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 3,227 ล้านบาท และไต้หวัน 2,908 ล้านบาท

        นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. แอสเซทไวส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ในภาวะทรงตัว ขณะที่ไตรมาส 2 คาดว่าตลาดเริ่มส่งสัญญาณความคึกคัก จากล่าสุดคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางได้เห็นชอบในหลักการปรับลดขนาดที่ดินขั้นต่ำในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร และอยู่ระหว่างพิจารณาของกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เช่น การลดค่าธรรมเนียมการโอนและขยายเพดานราคาบ้านที่ได้รับการลดหย่อนมาตรการทางภาษีค่าธรรมเนียมอสังหาฯ จากบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยไตรมาสแรกบริษัทมียอดขายรวม 6,269 ล้านบาท เติบโต 65% จากการตอบรับที่ดีของโครงการคอนโดมิเนียม ในจังหวัดภูเก็ต ที่เป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ

     นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. แสนสิริ กล่าวว่า ในไตรมาสแรก มียอดขายสูงถึง 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 8,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 4,000 ล้านบาท และคิดเป็น 23% จากเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่วางไว้ 52,000 ล้านบาท จากความเชื่อมั่นในแบรนด์ ส่งผลให้ลูกค้าให้การตอบรับที่ดีทั้งจากการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาสแรก 7 โครงการ มูลค่ารวม 9,400 ล้านบาท รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย.