'ตลาดเปราะบาง-กำลังซื้อไม่ฟื้น'
วันที่ : 29 พฤษภาคม 2568
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) สะท้อนภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วงไตรมาสแรก ที่ผ่านมากำลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนก่อสร้างและหนี้ครัวเรือน แม้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมโดยรวมยังปรับเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตเริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑลบางโซนเริ่ม ลดราคาเพื่อเร่งระบายสต็อก
หวังมาตรการรัฐเร่งฟื้นดีมานด์ครึ่งปีหลัง
4 ดัชนีอสังหาฯ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสแรกสะท้อนตลาดชะลอตัวจากแรงกดดัน ต้นทุนพุ่ง เศรษฐกิจซึม แม้ราคายังไปต่อในบางโซน ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการร่วง ต่ำกว่าค่ากลาง หวังมาตรการรัฐฟื้นดีมานด์ครึ่งปีหลัง
รายงานจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) สะท้อนภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วงไตรมาสแรก ที่ผ่านมากำลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนก่อสร้างและหนี้ครัวเรือน แม้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมโดยรวมยังปรับเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตเริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑลบางโซนเริ่ม ลดราคาเพื่อเร่งระบายสต็อก
บ้านแนวราบชะลอ ปริมณฑลเร่งระบาย
ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 131.8 จุด (+0.2% YoY) แต่เมื่อแยกตามประเภท พบว่า "บ้านเดี่ยว" ในกรุงเทพฯ ยังไปต่อจากดีมานด์ระดับกลางบน ขณะที่ "ทาวน์เฮ้าส์" และบ้านในพื้นที่ปริมณฑล เริ่มเห็นราคาลดลง โดยเฉพาะ กลุ่มราคาต่ำ ที่ต้องอาศัยโปรโมชั่นแรง เช่น ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน หรือ ส่วนลดเงินสด เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
ต้นทุนสะสมหนุนคอนโดใหม่แพง
ดัชนีราคาห้องชุดใหม่อยู่ที่ 160.4 จุด (+3.4% YoY) โดยต้นทุนที่ดินและค่าก่อสร้างเป็นปัจจัยหลัก โดยเฉพาะทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ เช่น สุขุมวิทตอนต้น และย่านสมุทรปราการ ในระดับราคากลาง ทำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนกลยุทธ์จากลดราคา มาใช้ "แจกของแถม" เป็นหลัก เพื่อประคองระดับราคาขาย
ราคาก่อสร้างสูง กดราคาบ้านใหม่
ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐานเพิ่มเป็น 140.2 จุด (+2.0% YoY) โดยเฉพาะหมวดระบบไฟฟ้าและสุขภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นถึง 10.7% และ 9.5% ตามลำดับ แม้ราคาเหล็กลดลง แต่ไม่สามารถชดเชยต้นทุนรวมได้ ประกอบกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำช่วงต้นปี ยิ่งเพิ่มภาระต้นทุนให้ผู้ประกอบการ สะท้อนผ่านราคาบ้านใหม่ที่ยังต้องปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการยังอ่อนแรง
แม้ราคายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการยังคงอ่อนแรง โดยดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาสแรก ปี 2568 อยู่ที่ 42.0 ต่ำกว่าค่ากลาง 50 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่ได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนสูง การเข้าถึงสินเชื่อที่ยังจำกัด และความไม่ชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ความหวังเริ่มกลับมา ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ เมื่อมาตรการรัฐ เช่น "คุณสู้ เราช่วย" และการผ่อนคลายเกณฑ์ควบคุมสินเชื่อ LTV เริ่มมีผลบังคับใช้
รอรัฐกระตุ้นครึ่งปีหลัง
ภาพรวมตลาดยังอยู่ในภาวะ "ทรงตัว" ท่ามกลางต้นทุนสูงและกำลังซื้อที่ไม่ฟื้นเต็มที่ แม้เศรษฐกิจโดยรวมไตรมาสแรกที่ผ่านมา ขยายตัว 3.1% จากแรงส่งของการส่งออก แต่การบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนยังซบเซา โดยเฉพาะภาคก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่หดตัว -3.8% สะท้อนว่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังต้องพึ่งพานโยบายกระตุ้นจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
4 ดัชนีอสังหาฯ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาสแรกสะท้อนตลาดชะลอตัวจากแรงกดดัน ต้นทุนพุ่ง เศรษฐกิจซึม แม้ราคายังไปต่อในบางโซน ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการร่วง ต่ำกว่าค่ากลาง หวังมาตรการรัฐฟื้นดีมานด์ครึ่งปีหลัง
รายงานจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) สะท้อนภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑลช่วงไตรมาสแรก ที่ผ่านมากำลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนก่อสร้างและหนี้ครัวเรือน แม้ดัชนีราคาบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมโดยรวมยังปรับเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตเริ่มชะลอตัว โดยเฉพาะพื้นที่ปริมณฑลบางโซนเริ่ม ลดราคาเพื่อเร่งระบายสต็อก
บ้านแนวราบชะลอ ปริมณฑลเร่งระบาย
ดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ยังเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 131.8 จุด (+0.2% YoY) แต่เมื่อแยกตามประเภท พบว่า "บ้านเดี่ยว" ในกรุงเทพฯ ยังไปต่อจากดีมานด์ระดับกลางบน ขณะที่ "ทาวน์เฮ้าส์" และบ้านในพื้นที่ปริมณฑล เริ่มเห็นราคาลดลง โดยเฉพาะ กลุ่มราคาต่ำ ที่ต้องอาศัยโปรโมชั่นแรง เช่น ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน หรือ ส่วนลดเงินสด เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
ต้นทุนสะสมหนุนคอนโดใหม่แพง
ดัชนีราคาห้องชุดใหม่อยู่ที่ 160.4 จุด (+3.4% YoY) โดยต้นทุนที่ดินและค่าก่อสร้างเป็นปัจจัยหลัก โดยเฉพาะทำเลศักยภาพในกรุงเทพฯ เช่น สุขุมวิทตอนต้น และย่านสมุทรปราการ ในระดับราคากลาง ทำให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนกลยุทธ์จากลดราคา มาใช้ "แจกของแถม" เป็นหลัก เพื่อประคองระดับราคาขาย
ราคาก่อสร้างสูง กดราคาบ้านใหม่
ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐานเพิ่มเป็น 140.2 จุด (+2.0% YoY) โดยเฉพาะหมวดระบบไฟฟ้าและสุขภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นถึง 10.7% และ 9.5% ตามลำดับ แม้ราคาเหล็กลดลง แต่ไม่สามารถชดเชยต้นทุนรวมได้ ประกอบกับการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำช่วงต้นปี ยิ่งเพิ่มภาระต้นทุนให้ผู้ประกอบการ สะท้อนผ่านราคาบ้านใหม่ที่ยังต้องปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการยังอ่อนแรง
แม้ราคายังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการยังคงอ่อนแรง โดยดัชนีความเชื่อมั่นไตรมาสแรก ปี 2568 อยู่ที่ 42.0 ต่ำกว่าค่ากลาง 50 อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่ได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนสูง การเข้าถึงสินเชื่อที่ยังจำกัด และความไม่ชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ความหวังเริ่มกลับมา ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ เมื่อมาตรการรัฐ เช่น "คุณสู้ เราช่วย" และการผ่อนคลายเกณฑ์ควบคุมสินเชื่อ LTV เริ่มมีผลบังคับใช้
รอรัฐกระตุ้นครึ่งปีหลัง
ภาพรวมตลาดยังอยู่ในภาวะ "ทรงตัว" ท่ามกลางต้นทุนสูงและกำลังซื้อที่ไม่ฟื้นเต็มที่ แม้เศรษฐกิจโดยรวมไตรมาสแรกที่ผ่านมา ขยายตัว 3.1% จากแรงส่งของการส่งออก แต่การบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนยังซบเซา โดยเฉพาะภาคก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่หดตัว -3.8% สะท้อนว่าอสังหาริมทรัพย์ไทย ยังต้องพึ่งพานโยบายกระตุ้นจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ