YONG โชว์แบ็กล็อก 520 ล้าน จ่อปิดดีลงานคอนกรีตเพิ่มอีก 300 ล้านใน Q3 นี้
Loading

YONG โชว์แบ็กล็อก 520 ล้าน จ่อปิดดีลงานคอนกรีตเพิ่มอีก 300 ล้านใน Q3 นี้

วันที่ : 18 มิถุนายน 2567
ยงคอนกรีต เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทมองว่ารัฐบาลจะมีนโยบายออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้กำลังซื้อ และช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ดี
         
         “ยงคอนกรีต” ลั่นผลงานไตรมาส 2/67 โตกว่าไตรมาส 2/66 แต่ลดลงจากไตรมาสแรก เหตุเป็นโลว์ซีซั่น-เข้าฤดูฝน  โชว์แบ็กล็อก 520 ล้านบาท ล่าสุดคว้างานเสาเข็มเพิ่ม 40 ล้านบาท จ่อปิดดีลงานคอนกรีตเพิ่มอีก 300 ล้านบาท ภายในไตรมาส 3/67 ลุ้นครึ่งปีหลังรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ-ภาคอสังหาฯ หนุนยอดขายปีนี้โต 12-15%

        นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 จะเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามการขยายธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง แต่จะลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2567 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ มีวันหยุดหลายวันในเดือนเมษายน และเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ทำให้งานภาคการก่อสร้างชะลอตัวลง แต่ยอดขาย และกำไรในไตรมาส 2/2567 จะปรับตัวลดลงไม่มาก เพราะมีงานเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งในแต่ละไตรมาสบริษัทจะพยายามผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโต ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และต้นทุนโดยรวมที่มีประสิทธิภาพ
  
         โดยปัจจุบันบริษัทยังมีคำสั่งซื้อรอส่งมอบ (Backlog) มูลค่ามากกว่า 520 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบสินค้าตามระยะเวลาที่ลูกค้าแต่ละรายกำหนด และอยู่ระหว่างการติดตามงานใหม่ เพื่อรักษา Backlog ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้รับงานใหม่เกี่ยวกับเสาเข็มจากลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม มูลค่า 30-40 ล้านบาท (ยังไม่รวมใน Backlog) ถือเป็นลูกค้าอีกหนึ่งกลุ่มที่มีการขยายตัวสูงมาก และยังช่วยชดเชยงานจากลูกค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ชะลอตัวไปได้

         นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเข้าประมูลงานใหญ่เกี่ยวกับงานคอนกรีต มูลค่า 200-300 ล้านบาท ระยะเวลาส่งมอบ และทยอยรับรู้รายได้ 2 ปี คาดว่าจะชัดเจนในไตรมาส 3/2567 หากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

         ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทมองว่ารัฐบาลจะมีนโยบายออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะช่วยให้กำลังซื้อ และช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ดี เช่น นโยบายการปรับดอกเบี้ย นโยบายการลดความเข้มงวดปล่อยสินเชื่อบ้านของธนาคาร หลังบ้านราคาต่ำ 3 ล้านบาท มียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงมาก เป็นต้น

         "หากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และภาคอสังหาฯ อีกครั้ง บวกกับเม็ดเงินงบประมาณประจำปี 2567 และปี 2568 ที่เร่งใช้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่าทุกภาคส่วนและงานภาครัฐจะเริ่มฟื้นตัว ส่วนงานภาคเอกชนได้ผลบวกค่อนข้างมากจากฐานทุนที่ย้ายเข้ามาตั้งโรงงานในไทย ซึ่งมีทิศทางเติบโตได้อีก และเป็นโอกาสเข้าไปรับงาน ส่วนการปรับขึ้นค่าแรง 400 บาท บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเพราะเป็นการทำงานแบบเหมาชิ้น ซึ่งมีค่ารายได้สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว"

         ด้านการลงทุนบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการรับงาน และสร้างโรงงานใหม่จังหวัดระยอง มูลค่า 200-250 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบก่อสร้าง บนพื้นที่ 76 ไร่ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้ไขแบบก่อสร้าง เพื่อทำผลิตภัณฑ์พรีคาสต์ และคอนกรีตผสมเสร็จ หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่มีความชำนาญ คาดดำเนินการได้ภายในไตรมาส 3/2567 หรือช้าสุดไตรมาส 4/2567 ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่าภาพรวมทั้งปี 2567 บริษัทจะมียอดขายเติบโต 12-15% จากปี 2566 ที่มียอดขายรวมประมาณ 1,150 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2567 มียอดขายรวมแล้วประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามการขยายธุรกิจ และการสร้าง Backlog จากกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น แม้ระหว่างปีจะมีแรงกดดันกำลังซื้อ การจับจ่ายใช้สอย และปัจจัยกดดันอื่น ๆ เป็นต้น

 
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ