ตลาดบ้านมือสองคืนชีพรับอานิสงส์มาตรการรัฐ
Loading

ตลาดบ้านมือสองคืนชีพรับอานิสงส์มาตรการรัฐ

วันที่ : 5 พฤษภาคม 2568
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า กลุ่มของต่างชาติที่ติดต่อเข้ามาค่อนข้างมาก คือ เมียนมา ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และการสู้รบที่ต้องการย้ายมาอยู่อาศัยในประเทศไทย และมองหาคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ที่มองว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า ปัจจุบันตัวเลขในตลาดแต่ละปี มีที่อยู่อาศัยประมาณ 1.2 ล้านหน่วย ซึ่งมือหนึ่งประมาณ 4 แสนหน่วยนอกนั้นจะเป็นบ้านมือสอง
   ตลาดบ้านมือสองฟื้นตัว รับอานิสงส์ 2 เด้ง เด้งแรกแผ่นดินไหว เด้งสองมาตรการรัฐหนุน ลดค่าธรรมเนียมการโอน และจดจำนองลดค่าใช้จ่าย แบงก์ปล่อยกู้ง่ายกว่า

   นายประวิทย์ อนุศิริ นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า ตลาดบ้านมือสอง เติบโตมาโดยตลอด ตั้งแต่ก่อนเกิดสถานการณ์โควิดจนถึงปัจจุบันซึ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหว สำหรับสาเหตุที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ เพราะสินค้าเปลี่ยนมือไม่นาน สภาพใกล้เคียงกับคุณภาพบ้านใหม่แต่ราคาถูกกว่าค่อนข้าง มากต่อรองราคาได้ สามารถเลือกทำเลในเมืองใกล้แหล่งงานได้ ขณะบ้านใหม่ ราคาจะสูงกว่า ทำเลไกลกว่า ที่สำคัญเมื่อเกิดเหตุแผ่นดินไหวล่าสุดจะเห็นร่องรอยสภาพได้ชัดเจนกว่า ว่าอาคารดังกล่าว ได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน

    อีกทั้ง สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อได้ง่ายกว่า บ้านใหม่เพราะผู้ซื้อและผู้ขายสามารถต่อรองราคากันได้ มีเงินก้อนวางดาวน์ รวมถึงสถาบันการเงินเองได้เห็นสภาพทรัพย์ที่ชัดเจนมากกว่าโครงการใหม่ตลาดบ้านมือสองได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากราคาถูกกว่า ตัดสินใจซื้อได้เลยโดยไม่ต้องรอผู้บริโภคได้เห็นสภาพทรัพย์ก่อนตัดสินใจซื้อ

   ทั้งนี้การขายบ้านมือสองจะเน้นคัด เลือกทรัพย์มาจากทรัพย์สินรอการขายหรือ NPA ของสถาบันการเงินที่ประเมินว่าจะขายได้ และทำเลที่มีศักยภาพทั้งกรุงเทพและจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั้งแนวราบและแนวสูง โดยมีตัวแทนขายผ่านการอบรมของสมาคม เจาะตลาดทั้งไทยและต่างชาติ

    "กลุ่มของต่างชาติที่ติดต่อเข้ามาค่อนข้างมาก คือ เมียนมา ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว และการสู้รบที่ต้องการย้ายมาอยู่อาศัยในประเทศไทย และมองหาคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองที่มองว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงที่น้อยกว่า ปัจจุบันตัวเลขในตลาดแต่ละปี มีที่อยู่อาศัยประมาณ 1.2 ล้านหน่วย ซึ่งมือหนึ่งประมาณ 4 แสนหน่วยนอกนั้นจะเป็นบ้านมือสอง"

   นอกจากนี้ตลาดบ้านมือสอง ยังได้อานิสงส์จากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนลดจดจำนอง ปีที่ผ่านมาสำหรับบ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท ซึ่งช่วยลดภาระผู้บริโภคได้มากจากที่ต้องจ่ายค่าโอน 140,000 บาท เหลือ 700 บาท ค่าจดจำนอง จาก 70,000 บาท เหลือ 700 บาท รวมแล้วเสียค่าใช้จ่ายเพียง 1,400 บาท สำหรับบ้านราคา 7 ล้านบาท และปีนี้เช่นเดียวกัน เมื่อมีมาตรการลดค่าโอนจดจำนองเข้ามาช่วยจะช่วยให้ตลาดนี้เติบโตมากขึ้น โดยประเมินว่า บ้านมือสองเติบโตเฉลี่ยปีละ 30%

   นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ให้ความเห็นว่า ตลาดบ้านมือสองเติบโตอย่างมากซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกของผู้บริโภค และยังได้ รับอานิสงส์จากมาตรการรัฐที่จะบังคับใช้ รวมถึงกลุ่มลูกค้าจากเมียนมาที่ต้องการเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในไทยทั้งบ้านมือหนึ่งและมือสอง หลังจากได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

 
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ