บ้าน-คอนโดฯมือสองฮอต
Loading

บ้าน-คอนโดฯมือสองฮอต

วันที่ : 24 พฤษภาคม 2568
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เผยว่า บ้านและคอนโดฯ มือสอง ที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะได้รับความสนใจมาก มีโอกาสเติบโตได้ดี เนื่องจากประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าโครงการนั้นสามารถรับมือแผ่นดินไหวได้ ส่วนผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว มองว่าถึงอย่างไรคนก็ยังต้องการมีบ้านอยู่ดีเพราะที่อยู่อาศัยไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย
     นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าแม้ภาพรวม การโอนที่อยู่อาศัยในไตรมาสแรกจะชะลอตัว แต่การที่รัฐบาลจัดทำมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท รวมทั้งการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ผ่อนคลายเกณฑ์แอลทีวีชั่วคราว จะสามารถแก้ปัญหาการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยได้ทันสถานการณ์ และส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป โดยประเมินว่ามีโอกาสขยายตัวได้ 7% หรือโอนได้ 374,419 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 1.05 ล้านล้านบาท

    "ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในปี 68 จากเดิมคาดว่าจะทรงตัว หรือชะลอตัวลงเพียงเล็กน้อยโดยจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยปี 68 ที่ 346,684 หน่วย ลดลงเพียง 0.3% ขณะที่มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์คาดว่าจะลดลง 972,980 หน่วย ลดลง 0.8% และจำนวนสินเชื่อที่อยู่อาศัยมีมูลค่าลดลง 0.3% แต่จากมาตรการใหม่ของภาครัฐที่ออกมา ได้ช่วยกระตุ้นให้มีการโอนเพิ่มขึ้นได้ เห็นได้จากมียอดอั้นรอโอนนับหมื่นล้านบาท และยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ของ ธอส. ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา"

    นอกจากนี้ยังพบว่า บ้านและคอนโดฯ มือสอง ที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะได้รับความสนใจมาก มีโอกาสเติบโตได้ดี เนื่องจากประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าโครงการนั้นสามารถรับมือแผ่นดินไหวได้ ส่วนผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว มองว่าถึงอย่างไรคนก็ยังต้องการมีบ้านอยู่ดีเพราะที่อยู่อาศัยไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย

    นายกมลภพ กล่าวว่า ยอดไตรมาส 1 ปี 68 ที่ผ่านมา การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศมี 65,276 หน่วย ลดลง 10.5% มูลค่า 181,545 ล้านบาท ลดลง 13% โดยเป็นการชะลอตัวในทุกภูมิภาค ส่งผลให้ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยไตรมาส 1 ลดลงเช่นเดียวกัน โดยมีสินเชื่อใหม่ทั่วประเทศ 109,368 ล้านบาท ลดลง 10%

    สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในไตรมาส 1 ปี 68 มีส่วนแบ่งทางการตลาดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ สูงถึง 42.8% สะท้อนว่า ธอส. ยังเป็นสถาบันการเงินที่มีบทบาทในการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ต่อเนื่อง ด้านการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดของคนต่างชาติทั่วประเทศ พบว่า มีการชะลอตัวลงเช่นเดียวกันโดยมีจำนวนทั้งสิ้น 3,919 ล้านบาท ลดลง 0.5% มีมูลค่าการโอนจำนวนทั้งสิ้น 16,392 ล้านบาท ลดลง 9.0% โดย 3 สัญชาติแรก ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์สูงสุด ได้แก่ จีน 1,481 หน่วย ลดลง 7.2% มูลค่า 6,117 ล้านบาท ลดลง 19.2% อันดับ 2 เมียนมา มีการโอนกรรมสิทธิ์ 439 หน่วย เพิ่มขึ้น 12% มูลค่า 1,587 ล้านบาท อันดับ 3 รัสเซีย โอนกรรมสิทธิ์ 288 หน่วย ลดลง 2.4% มูลค่า 987 ล้านบาท
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ