รับเหมาจัดสรรดิ้นหนี 'อสังหา' ขาลง
วันที่ : 26 มิถุนายน 2568
ตลาดที่อยู่อาศัยซึมลึก กำลังซื้อฟุบ ฉุดเปิดโครงการใหม่วูบ อสังหาฯผู้รับเหมาจัดสรร รุกเจาะรับสร้างบ้าน รับรีโนเวตบ้านมือสองประคองตัว ด้าน'บิวท์ทูบิวด์'เผยบ้านหลังใหญ่ชะลอตัว 30% เหตุคนไม่มั่นใจ ศก. หวังครึ่งปีหลังคึก
รุกเจาะบ้านสร้างเอง-รับรีโนเวตตกแต่ง วงการหวั่นตลาดซบหนัก-คนว่างงานอื้อ
แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยัง ไม่ฟ้นตัวกระทบยอดขายและการเปิดโครงการใหม่ลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อชะลอ ขณะนี้เริ่มเห็น ผู้ประกอบการรายกลางและรายใหญ่ทยอยบอกเลิกหรือลดจำนวนผู้รับเหมาที่ประจำโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแล้ว เช่น เดิมในหนึ่งโครงการใช้ผู้รับเหมา 5-10 ราย จะเหลือ 50% ส่วนผู้รับเหมาที่ไม่ใช่เจ้าประจำจะไม่ใช้เลย ซึ่งการบริโภคภายในประเทศถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของภาคธุรกิจ เพราะปัจจุบันกำลังซื้อคนไทยหดตัวลงเรื่อยๆ ทำให้การทำธุรกิจลำบาก ต่อไปอาจจะเกิดปัญหาคนว่างงานมากขึ้น
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้าน กล่าวว่า หลังตลาดอสังหาฯเปิดตัวน้อยลง ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านจัดสรรเข้ามารับงานธุรกิจรับสร้างบ้านมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่กลางปี 2567 และปีนี้มีมากขึ้นเพื่อให้บริษัทอยู่ได้ สำหรับบริษัทต้องคัดเลือกไม่ได้ให้งานทุกราย เนื่องจากตลาดรับสร้างบ้านเองช่วง 6 เดือนแรกยังไม่ค่อยดีมากนัก โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ราคา 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ที่เริ่มเห็นชะลอตัว 30% และราคา 3-10 ล้านบาท ชะลอตัว 20% เมื่อเทียบกับปี 2567
"สถานการณ์ตลาดจะกลับด้านกับช่วงก่อนหน้านี้ที่บ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไปจะเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ แต่จากการเมือง เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ลูกค้าไม่มั่นใจ จึงชะลอสร้างบ้านออกไป ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับส่งออกและต้องการสร้างบ้านหลังที่ 2 และหลังที่ 3 ที่ยังชะลอการสร้างได้ หวังว่าไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้จะดีขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง สงครามตะวันออกกลาง ปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา ภาษีทรัมป์ด้วย ถ้าสถานการณ์เบาลง คนมั่นใจขึ้น คาดหวังครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะคึกคัก" นายสุธีกล่าว
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า กรณีผู้รับเหมาในโครงการจัดสรรไปทำงานด้านอื่นนั้น เป็นการปรับตัวหลังจากงานในโครงการจัดสรรลดลง ผู้รับเหมาก่อสร้างหรือแม้แต่ผู้ประกอบการอสังหาฯก็แตกไลน์ ไปทำงานรับสร้างบ้านหรือบ้านมือสอง โดยซื้อบ้านมือสองมาแล้วนำมารีโนเวต ซ่อมแซมและต่อเติม ซึ่งเป็นการปรับตัวทั้งของผู้ประกอบการ และผู้รับเหมาเองจะได้มีงาน ทำด้วย สำหรับผู้รับเหมารายย่อยที่ผ่านมา ปกติจะรับงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรืองานก่อสร้างทั่วไป งานซ่อมแซมและงานต่อเติมที่อยู่อาศัยหรืออาคารประเภทอื่นอยู่แล้ว
แหล่งข่าวจากวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยัง ไม่ฟ้นตัวกระทบยอดขายและการเปิดโครงการใหม่ลดลงต่อเนื่อง เนื่องจากผู้บริโภคไม่มั่นใจภาวะเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อชะลอ ขณะนี้เริ่มเห็น ผู้ประกอบการรายกลางและรายใหญ่ทยอยบอกเลิกหรือลดจำนวนผู้รับเหมาที่ประจำโครงการบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมแล้ว เช่น เดิมในหนึ่งโครงการใช้ผู้รับเหมา 5-10 ราย จะเหลือ 50% ส่วนผู้รับเหมาที่ไม่ใช่เจ้าประจำจะไม่ใช้เลย ซึ่งการบริโภคภายในประเทศถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของภาคธุรกิจ เพราะปัจจุบันกำลังซื้อคนไทยหดตัวลงเรื่อยๆ ทำให้การทำธุรกิจลำบาก ต่อไปอาจจะเกิดปัญหาคนว่างงานมากขึ้น
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้าน กล่าวว่า หลังตลาดอสังหาฯเปิดตัวน้อยลง ทำให้ผู้รับเหมาก่อสร้างบ้านจัดสรรเข้ามารับงานธุรกิจรับสร้างบ้านมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเริ่มเห็นสัญญาณตั้งแต่กลางปี 2567 และปีนี้มีมากขึ้นเพื่อให้บริษัทอยู่ได้ สำหรับบริษัทต้องคัดเลือกไม่ได้ให้งานทุกราย เนื่องจากตลาดรับสร้างบ้านเองช่วง 6 เดือนแรกยังไม่ค่อยดีมากนัก โดยเฉพาะบ้านหลังใหญ่ราคา 10-20 ล้านบาทขึ้นไป ที่เริ่มเห็นชะลอตัว 30% และราคา 3-10 ล้านบาท ชะลอตัว 20% เมื่อเทียบกับปี 2567
"สถานการณ์ตลาดจะกลับด้านกับช่วงก่อนหน้านี้ที่บ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไปจะเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ แต่จากการเมือง เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ลูกค้าไม่มั่นใจ จึงชะลอสร้างบ้านออกไป ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจเกี่ยวกับส่งออกและต้องการสร้างบ้านหลังที่ 2 และหลังที่ 3 ที่ยังชะลอการสร้างได้ หวังว่าไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้จะดีขึ้น แต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง สงครามตะวันออกกลาง ปัญหาชายแดนไทยกับกัมพูชา ภาษีทรัมป์ด้วย ถ้าสถานการณ์เบาลง คนมั่นใจขึ้น คาดหวังครึ่งปีหลังกำลังซื้อจะคึกคัก" นายสุธีกล่าว
นายอิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า กรณีผู้รับเหมาในโครงการจัดสรรไปทำงานด้านอื่นนั้น เป็นการปรับตัวหลังจากงานในโครงการจัดสรรลดลง ผู้รับเหมาก่อสร้างหรือแม้แต่ผู้ประกอบการอสังหาฯก็แตกไลน์ ไปทำงานรับสร้างบ้านหรือบ้านมือสอง โดยซื้อบ้านมือสองมาแล้วนำมารีโนเวต ซ่อมแซมและต่อเติม ซึ่งเป็นการปรับตัวทั้งของผู้ประกอบการ และผู้รับเหมาเองจะได้มีงาน ทำด้วย สำหรับผู้รับเหมารายย่อยที่ผ่านมา ปกติจะรับงานก่อสร้างที่อยู่อาศัยหรืองานก่อสร้างทั่วไป งานซ่อมแซมและงานต่อเติมที่อยู่อาศัยหรืออาคารประเภทอื่นอยู่แล้ว
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ