อสังหาฯภูเก็ตพักฐานโลว์ซีซัน ชี้ศักยภาพลงทุนที่พักอาศัยระดับโลก
Loading

อสังหาฯภูเก็ตพักฐานโลว์ซีซัน ชี้ศักยภาพลงทุนที่พักอาศัยระดับโลก

วันที่ : 18 สิงหาคม 2568
สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ออกมากล่าวถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาฯภูเก็ต ว่าภาพรวมอสังหาฯภูเก็ต 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ยังคงมีความต้องการอยู่ แม้ว่าตลาดจะเริ่มชะลอลงจากช่วง 1 ปีก่อนหน้า โดยเฉพาะ ช่วงปลายเดือน มี.ค.-เม.ย. ซึ่งความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในภูเก็ตชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากได้รับปัจจัยลบเข้ามากระทบ ต่อความน่าเชื่อมั่นในการลงทุน
    SIRI จ่อผุด29โปรเจกต์3.3หมื่ล.

   ปัจจุบัน บริษัทวิจัย และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ยังคงมองทิศทางภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ว่า เป็นปี ที่บริษัทอสังหาฯยังต้องเหนื่อยกันต่อจากปี ที่แล้ว เพราะเมื่อประเมินสถานการณ์ตลาดจากยอดขายและการเปิดตัวโครงการใหม่ ที่ลดลงชัดเจน ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ภูเก็ตซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ และแม้ความต้องการซื้อจะยังมีอยู่ แต่ภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวอยู่ ทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้เงิน และการก่อหนี้ระยะยาว ประกอบกับสถาบันการเงินก็เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคหดตัว

   ปัจจัยดังกล่าวทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทอสังหาฯไม่ว่าจะเป็นรายเล็ก-กลาง-ใหญ่ ปรับตัว ด้วยการลดการปรับลดการลงทุน เปิดโครงการใหม่ และหันมาเน้นระบายสต๊อก รักษาสภาพคล่อง เพื่อประคองธุรกิจในช่วงนี้ และทำให้ปัจจุบันกำลังซื้อตลาดกรุงเทพฯ หายไปมากกว่า 50-60% และมีแนวโน้มที่จะหายไปอีก โดยเฉพาะกำลังซื้อภายในประเทศ ส่วนลูกค้าต่างชาติก็ลดลง จากเดิมเคยมีลูกค้าชาวจีนซื้อคอนโดฯ 35-40% แต่ขณะนี้เหลืออยู่เพียง 10-15% ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับตลาดอสังหาฯภูเก็ตเช่นกัน ประกอบกับ ในไตรมาส 2 เป็นช่วงหน้าโลว์ซีซันของตลาดท่องเที่ยว ทำให้บรรยากาศซื้อขายชะลอตัวเพราะต่างชาติหายไปกว่า 50% แม้ยังคงมีลูกค้ารัสเซียและจีนเข้ามาบ้าง แต่ไม่คึกคักเหมือนช่วง 1-2 ปีก่อน

   ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลงต่ำกว่าเป้าหมาย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน นักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลาง ลดลงเช่นกัน ทำให้ ณ ปัจจุบันตลาดอสังหาฯภูเก็ตชะลอตัวลงจนทำให้หลายๆ คนกังวลว่าจะเกิดภาวะโอเวอร์ซัปพลายเกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการหลั่งไหลเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก

   ภูเก็ตแค่ชะลอตัว

   ล่าสุด "พัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล" อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ออกมากล่าวถึงสถานการณ์ตลาดอสังหาฯภูเก็ต ว่าภาพรวมอสังหาฯภูเก็ต 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ยังคงมีความต้องการอยู่ แม้ว่าตลาดจะเริ่มชะลอลงจากช่วง 1 ปีก่อนหน้า โดยเฉพาะ ช่วงปลายเดือน มี.ค.-เม.ย. ซึ่งความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในภูเก็ตชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากได้รับปัจจัยลบเข้ามากระทบ ต่อความน่าเชื่อมั่นในการลงทุน เช่น นโยบายภาษีของทรัมป์ ภาวะเงินเฟ้อ สงคราม ทำให้บรรยากาศการลงทุนอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีแรกหดตัวลดลงไปบ้าง

   อย่างไรก็ตาม หากมองตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายปลายทางของชาวต่างชาติทั่วโลก ดังนั้น ถึงแม้การท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นมา แต่การชะลอตัวดังกล่าวก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ เท่านั้น เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 สถานการณ์ท่องเที่ยวจะพลิกกลับมาอีกครั้งในขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาฯทั่วประเทศยังชะลอตัว แต่ภูเก็ตเป็นเพียงตลาดเดียวที่มีแนวโน้มการขยายตัวจากกำลังซื้อภายนอกประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการจากส่วนกลาง และนักลงทุนนอกพื้นที่อาทิ สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ นครราชสีมา มองเห็นโอกาสการลงทุนในภูเก็ต จึงได้ขยายการลงทุนเข้ามาในภูเก็ตทำให้ซัปพลายมีสูง โดยเฉพาะซัปพลายที่เป็นวิลล่า พูลวิลล่า ในย่านบางโจ เชิงทะเล ป่าสัก มีเป็นจำนวนมาก ในราคาขายที่สูงถึง 30-40 ล้านบาทหลังจากราคาที่ดินที่ขยับในภูเก็ตมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 2-3 เท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา จากที่ขายกันราคาไร่ละ จากที่ขายอยู่ไร่ละ 6-7 ล้านบาท ขยับเป็นไร่ละ 10-20 กว่าล้าน และ 30 ล้านบาทในบางพื้นที่ รวมทั้งราคาวัสดุก่อสร้างก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ผู้ประกอบการ ต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นตามต้นทุน เมื่อมาประจวบเหมาะกับเศรษฐกิจโลกไม่ดี ทำให้ตลาดโดยรวมอสังหาฯภูเก็ตชะลอตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นมา

   "พัทธนันท์" กล่าวว่า แม้ตลาดภูเก็ตจะชะลอตัวบ้าง แต่ หากจะบอกว่าตลาดอสังหาฯภูเก็ตจะก้าวไปถึงขั้นโอเวอร์ซัปพลาย ตามที่หลายๆ คนกังวลนั้น ไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุน ต่างก็ระมัดระวัง ดังนั้นตลาดภูเก็ตจึงยังไปต่อได้ เพียงแต่ในการลงทุนนั้น นักลงทุนต้องมีความระมัดระวังให้มากขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่สร้างขายชาวต่างชาติ จะต้องมีการปรับกลยุทธ์ วางแผนทางการเงิน การตลาดให้มากขึ้น วิเคาะห์ดีมานด์ และซัปพลายในตลาดก่อนลงทุน

   ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาส 4 ของปี ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซันตลาด อสังหาฯภูเก็ตจะเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้น ตามภาวะการท่องเที่ยวที่เติบโตดีในช่วงปลายปีซึ่งเป็นเรื่องปกติของภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการที่จะเข้ามาลงทุนต้องติดตามสถานการณ์และวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่จะเข้ามากระทบประกอบการลงทุนให้ดี ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ในฝั่งยุโรป รัสเซีย จีน อเมริกา ว่าจะมีการขึ้นภาษีหรือกีดกันทางการค้าเพิ่มขึ้นหรือไม่ สงครามเป็นอย่างไร เพราะปัจจัยดังกล่าวมีผลต่อดีมานด์ทั้งด้านบวกและด้านลบ ถ้าหากสงครามปะทุขึ้นอีกก็จะทำให้คนที่มีกำลังซื้อย้ายมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ด้วยการมาซื้อบ้านหลังที่ 2 ในภูเก็ต เพราะภูเก็ตยังเป็นจุดหมายปลายทางของคนต่างชาติที่ต้องการบ้านหลังที่ 2 แต่กลุ่มที่ไม่ย้ายมาแต่ต้องการลงทุนก็ยังไม่ลงทุนเหมือนกัน

   "สำหรับสถานการณ์ซัปพลายในภูเก็ตขณะนี้ วิลล่า พูลวิลล่าและคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการขาย พบว่า วิลล่า และคอนโดฯ สร้างเสร็จและอยู่ระหว่างการขายยังมีจำนวนไม่มากนัก โดยปีที่ผ่านมามีวิลล่าเปิดขายกว่า 4,000 กว่ายูนิต คาดว่ามีการขายไปแล้วกว่า 50% ทำให้ขณะนี้น่าที่จะมีพูลวิลล่ารอขายอยู่ประมาณ 2,000 ยูนิตขณะที่คอนโดฯมีการเปิดขาย 30,000-40,000 ยูนิต ทำให้ยังมี ซัปพลายเหลือขายอยู่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ความต้องการของตลาดยังมีอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะตลาดต่างชาติ ที่ภูเก็ตมีหลายตลาดมาก ทั้งยุโรป รัสเซีย จีน อเมริกา ทำให้ซัปพลายคอนโดฯยังสามารถระบายออกได้ต่อเนื่อง"

   จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เชื่อว่าภูเก็ตจะยังไม่เกิดภาวะฟองสบู่ และจะไม่ก้าวไปสู่ภาวะโอเวอร์ซัปพลายในขณะนี้ เพราะความต้องการของตลาดยังมีอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ขายได้ช้าขึ้นเท่านั้นซึ่งส่วนตัวมั่นใจว่าการลงทุนอสังหาฯโครงการใหม่ๆ จะยังคงเกิดขึ้นในภูเก็ตแม้ว่าดีมานด์ในตลาดจะมีอยู่จำนวนมากก็ตาม และการลงทุนใหม่สำหรับต่างชาติจะต้องเป็นโครงการระดับลักซัวรีมากขึ้นจากราคาที่ดินที่ขยับตัวเพิ่มขึ้น

   "แค๊ปสโตน" ชี้ภูเก็ต เมืองศักยภาพการลงทุนที่พักอาศัยระดับโลก

   สอดคล้องกับ "ฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด ซึ่งมองว่า ภูเก็ตยังมีศักยภาพในการพัฒนาที่แตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวหลักอื่นในเอเชีย โดยเฉพาะในย่านบางเทา ซึ่งมีการเติบโตของกลุ่ม Digital Nomad นักลงทุนต่างชาติและผู้ย้ายถิ่นฐาน ซึ่งสอดคล้องกับ เทรนด์การย้ายถิ่นฐานสู่เมืองชายฝั่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกหลังโควิด และภูเก็ตยังคงเป็นจุดหมายสำคัญที่ดึงดูดนักลงทุน และผู้มีไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียมจากทั่วโลก ที่แสวงหาคุณภาพชีวิตควบคู่กับการ เชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการสนับสนุนจากภาครัฐนโยบาย Visa LTR (Long-term Resident Visa) การขยายท่าเรือ/สนามบินล้วนเอื้อให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางใหม่

   อีกทั้งยังเป็น Global Wellness & Coastal Lifestyle Destination-จากเดิมที่ถูกมองว่าเป็นเพียง Resort Destination โดยภูเก็ตได้ยกระดับสู่จุดหมายปลายทางด้านสุขภาพ การใช้ชีวิตระยะยาว และไลฟ์สไตล์ริมทะเลที่ทัดเทียมเมืองชั้นนำระดับโลก ซึ่งทำให้เกิดรูปแบบการลงทุนแบบ Hybrid Vacation Home- บ้านพักตากอากาศที่สามารถอยู่อาศัยระยะยาวได้ พร้อมปล่อยเช่าในช่วงที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน

   "ภูเก็ตไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์และคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะบางเทาที่ถูกยกให้เป็น Sandbox ของไลฟ์สไตล์ระดับโลก ผสานการพักผ่อน การใช้ชีวิตระยะยาว และการลงทุนไว้ในระบบนิเวศเดียวกัน โครงสร้าง พื้นฐานที่ครบ ทั้งสนามบินนานาชาติ โรงเรียนนานาชาติ โรง พยาบาลมาตรฐานสากล และคอมมูนิตี้พรีเมียมที่เติบโตอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้บางเทาเป็นจุดตัดของ Soft Power ไทย, การลงทุนในอสังหาฯ ระดับบน และโอกาสขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่เวทีโลกอย่างแท้จริง"

   "ฐิติวัฒน์" ระบุว่าภูเก็ตเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาฯ ของเมืองท่องเที่ยวที่มีอัตราเติบโตสูง ซึ่งเป็นที่ต้องการจากทั้งตลาดภายในประเทศและชาวต่างชาติ เห็นได้จากการเปิดตัวโครงการ อสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นหนึ่งในตลาดอสังหาฯที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาจังหวัดภูเก็ตเพื่อรองรับกับการเติบโตด้านการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่หลายด้าน เช่น โครงการขยายท่าอากาศยานภูเก็ต เพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารจากเดิม 12.5 ล้านคนต่อปี เป็น 18 ล้านคนต่อปี ภายในปี 2572 -2574 โดยปัจจัยบวกที่มีผลต่อการขยายตัวของการท่องเที่ยว คือ การสร้างสนามบินนานาชาติภูเก็ตแห่งที่สอง (Andaman International Airport) ในจังหวัดพังงา โดยโครงการจะเริ่มก่อสร้างในปี 2570 และเปิดใช้ระหว่างปี 2573-2575 รองรับผู้โดยสารได้ถึง 22.5 ล้านคนต่อปี โครงการขยายถนนสำคัญและสร้างทางด่วน เช่น ขยายทางหลวงหมายเลข 4027 เป็น 4 ช่องจราจร และก่อสร้างทางด่วนเชื่อมสนามบินกับป่าตองเพื่อบรรเทาปัญหาจราจร

   อย่างไรก็ตาม แต่ละทำเลในภูเก็ตมีคาแร็กเตอร์และศักยภาพรองรับการพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งทำเลหาดบางเทา ตำบลเชิงทะเล มีศักยภาพโดดเด่นทั้งในมิติการลงทุนเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และการอยู่อาศัย

   ทั้งนี้ ข้อมูล ซีบีอาร์อี ระบุว่า ตลาดคอนโดฯทำเลชายฝั่งตะวันตกกลาง เช่น บางเทา-เชิงทะเล ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีคอนโดฯที่ยังเปิดขายอยู่ 43% และคอนโดฯเปิดตัวใหม่ 66% เมื่อเทียบกับคอนโดฯในทำเลอื่นๆ ขณะเดียวกันยังพบว่าโครงการ คอนโดฯลักชัวรีบางแห่งในทำเลบางเทา-เชิงทะเล สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนปล่อยเช่าได้สูงถึง 9-10% แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าภูเก็ต เป็นเมืองที่มีศักยภาพการลงทุนด้านที่ พักอาศัยระดับโลก ด้วยอัตรายอดขาย ณ สิ้นปี 2567 โตสวน กระแสกว่า 201% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งในปี 2566 มียอดขายเพิ่มขึ้น 96% เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งถือว่าเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งตัวเลขอัตราการเข้าพัก (occupancy rate) ของทั้งปี 2567 และครึ่งปีแรกของปี 2568 สูงถึง 79% ภูเก็ตจึงเป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางท่องเที่ยว หากคือศูนย์กลางการลงทุนที่ผสานคุณค่าแห่งการอยู่อาศัยเข้ากับผลตอบแทนที่ยั่งยืน ที่รองรับด้วยโครงสร้างพื้นฐานทันสมัย การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศที่นักลงทุนต้องการ

   "แสนสิริ" กางแผน 5 ปีลงทุน 29 โครงการ

   สอดคล้องกับ แนวทางการลงทุนของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่ง "ภูมิชาย มัธยมภพภิญโญ" กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพัฒนาโครงการภาคใต้ ระบุว่า ศักยภาพของตลาดอสังหาฯภูเก็ตในฐานะเมืองท่องเที่ยว และเมืองที่คนเลือกมาอยู่อาศัย หรือมาลงทุนได้จริง โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้มีความมั่งคั่ง (Wealth) ทั้งไทยและต่างชาติ ภายใต้แผนลงทุนระยะ 5 ปี (2568-2572) แสนสิริเตรียม เปิด 29 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 33,000 ล้านบาท เป็นแนวราบ 16 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 13 โครงการ มูลค่า 21,000 ล้านบาท

   โดยยุทธศาสตร์ครั้งนี้เป็นการวางรากฐาน ให้ภูเก็ตเป็นสนามลงทุนในระดับนานาชาติด้วยการจับกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยในไทย (Expat) ระยะยาว นักลงทุนต่างชาติจากประเทศใหม่ๆ เช่น อิสราเอล รัสเซีย อินเดียรวมถึงกลุ่ม LGBTQIAN+ ที่มองหาสังคมเปิดกว้างและปลอดภัย

   และหนึ่งในสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาดอสังหาฯภูเก็ตคือ "หน้าใหม่" ของผู้ซื้อในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา โดยดีมานด์ต่างชาติเปลี่ยนหน้า เปลี่ยนพฤติกรรม อย่างชัดเจนนักลงทุนจากตลาดใหม่ เช่น กลุ่มประเทศที่ใช้ภาษารัสเซีย อิสราเอล อินเดีย กลุ่มอดีตผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ในซิลิคอน วัลเลย์ที่ต้องการคุณภาพชีวิตระดับโลกแต่เข้าถึงได้ กลุ่ม LGBTQIAN+ ที่ได้รับแรงจูงใจจากกฎหมายสมรสเท่าเทียม ของไทย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภูเก็ตเป็นทางเลือกสำหรับการใช้ชีวิต และวางแผนระยะยาว
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ