YONG ตุนแบ็กล็อก 800 ล้าน บุ๊กปีนี้ 400-500 ล้าน ลั่น Q3 โตรับดีมานด์ใช้คอนกรีตพุ่ง
วันที่ : 11 กันยายน 2568
“ยงคอนกรีต” ส่งซิกผลงานไตรมาส 3/68 ฟื้นดีกว่าไตรมาส 2/68 และช่วงเดียวกันของปีก่อน หลัง 2 เดือนแรก (ก.ค.-ส.ค.) มีหลายโครงการเร่งใช้ผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จมากขึ้น หลังรุกเจาะตลาดโครงการในนิคมอุตสาหกรรม โชว์แบ็กล็อก 800 ล้านบาท รับรู้ปีนี้ 400-500 ล้านบาท
นายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยงคอนกรีต จำกัด (มหาชน) หรือ YONG เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3/2568 จะฟื้นตัวดีกว่าไตรมาส 2/2568 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2568 มีหลายโครงการที่เร่งใช้งานผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์คอนกรีตผสมเสร็จ โดยเฉพาะโครงการเปิดใหม่ภายในนิคมอุตสาหกรรม
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานรอส่งมอบ (Backlog) ประมาณ 800 ล้านบาท โดยเกือบทั้งหมดจะเป็นงานของภาคเอกชน และจะทยอยรับรู้รายได้ตามสัญญางานภายในปี 2568 ประมาณ 400-500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ลากยาวไปถึงปี 2570 อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐ และโดยเฉพาะภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
“ตลาดใหม่ที่บริษัทพยายามมุ่งเน้นเข้าไปรับงาน อย่างภาคนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีโครงการใหม่ขยายตัว และมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเข้ามาช่วยชดเชยงานภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงซบเซามาตลอด 8 เดือนแรกของปีนี้ เช่นเดียวกันงานโครงการภาครัฐที่เริ่มชะลอตัวลงเช่นกัน เนื่องจากปัญหาเรื่องการเมือง และเป็นช่วงรอยต่อของรัฐบาลใหม่ ทำให้การเบิกจ่ายงบช้าตามไปด้วย” นายสรรเพชญ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าหลังจากได้รัฐบาลใหม่ บรรยากาศโดยรวมของทุกภาคส่วนจะดีขึ้น ทั้งงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ต่อไป และจะมีมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการกระตุ้นในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้มีการพัฒนาโครงการมากขึ้นตาม รวมไปถึงภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น หลังการเมืองลงตัว และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลาย
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2568 บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้จากการขายและให้บริการเหลือเติบโต 6-7% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 10% จากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 1,002 ล้านบาท เนื่องจากระหว่างปีมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว เศรษฐกิจซบเซา ความกังวลภาษีทรัมป์ และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ผลการดำเนินงานยังเติบโต เพราะช่วงที่เหลือของปีสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลาย และปรับตัวดีขึ้น คาดจะทำให้การใช้สอยเงิน หรือการลงทุนคึกคักตาม
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานรอส่งมอบ (Backlog) ประมาณ 800 ล้านบาท โดยเกือบทั้งหมดจะเป็นงานของภาคเอกชน และจะทยอยรับรู้รายได้ตามสัญญางานภายในปี 2568 ประมาณ 400-500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ลากยาวไปถึงปี 2570 อย่างไรก็ตามปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานใหม่ ทั้งภาครัฐ และโดยเฉพาะภาคเอกชน ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
“ตลาดใหม่ที่บริษัทพยายามมุ่งเน้นเข้าไปรับงาน อย่างภาคนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันมีโครงการใหม่ขยายตัว และมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเข้ามาช่วยชดเชยงานภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงซบเซามาตลอด 8 เดือนแรกของปีนี้ เช่นเดียวกันงานโครงการภาครัฐที่เริ่มชะลอตัวลงเช่นกัน เนื่องจากปัญหาเรื่องการเมือง และเป็นช่วงรอยต่อของรัฐบาลใหม่ ทำให้การเบิกจ่ายงบช้าตามไปด้วย” นายสรรเพชญ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าหลังจากได้รัฐบาลใหม่ บรรยากาศโดยรวมของทุกภาคส่วนจะดีขึ้น ทั้งงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อเดินหน้าโครงการต่าง ๆ ต่อไป และจะมีมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการกระตุ้นในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะทำให้มีการพัฒนาโครงการมากขึ้นตาม รวมไปถึงภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น หลังการเมืองลงตัว และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาคลี่คลาย
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานทั้งปี 2568 บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้จากการขายและให้บริการเหลือเติบโต 6-7% จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 10% จากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 1,002 ล้านบาท เนื่องจากระหว่างปีมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว เศรษฐกิจซบเซา ความกังวลภาษีทรัมป์ และปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ผลการดำเนินงานยังเติบโต เพราะช่วงที่เหลือของปีสถานการณ์ต่าง ๆ คลี่คลาย และปรับตัวดีขึ้น คาดจะทำให้การใช้สอยเงิน หรือการลงทุนคึกคักตาม
ข่าววัสดุก่อสร้าง-เฟอร์นิเจอร์ อื่นๆ