'แบงก์-AMC' จ่อร่วมทุนแก้หนี้ เครื่องมือสางNPL-เพิ่มพื้นที่ปล่อยกู้ใหม่
วันที่ : 13 พฤศจิกายน 2568
แบงก์-เอเอ็มซี ขานรับโมเดลตั้ง JVAMC แก้หนี้ "ยูโอบี" หวังแก้หนี้เสียอสังหาฯ ลอตใหญ่ ชี้บริหารเองใช้เวลานาน-คนรับซื้อมีทุนจำกัด-ราคาซื้อเริ่มไม่ดี ขณะที่ "ไทยพาณิชย์-กรุงไทย" หนุนเพิ่มเครื่องมือบริหารจัดการหนี้เสีย-ช่วยแบงก์มีพื้นที่ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ ปักธงต้นปี'69 เริ่มเห็นการจัดตั้ง ฟาก "BAM" แย้มเจรจาแบงก์ใหญ่อยู่ 3 ราย คาดชัดเจน พ.ย.นี้
นายยุทธชัย เตยะราชกุล กรรมการผู้จัดการ บุคคลธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่าตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดทางให้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนระหว่างสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (JVAMC) เพื่อเป็นเครื่องมือบริหารจัดการหนี้เสีย (NPL) นั้น มีความน่าสนใจ เพราะเปิดให้สินเชื่อมีหลักประกันด้วย เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์เป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ ทั้งระบบมียอดสินเชื่อคงค้างมากกว่า 3 ล้านล้านบาท
"กระบวนการบริหารจัดการหนี้เสียสินเชื่อที่มีหลักประกันใช้เวลานาน และหากธนาคารไม่ได้ปรับโครงสร้างหนี้เอง ก็จะตัดขายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ซึ่งปัจจุบันมีรายใหญ่ไม่กี่ราย ทำให้ทุนจำกัด ไม่สามารถรับซื้อได้หมด ดังนั้น หากมีกระบวนการหรือมาตรการที่เป็นรูปธรรมที่สามารถรองรับหนี้ได้มากขึ้นน่าจะเป็นสิ่งที่ดี"
"การร่วมทุนเราสนใจอยู่แล้ว เพราะเรามองว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถบริหารจัดการหนี้ได้เร็วขึ้น เพราะวันนี้สินทรัพย์ที่ปัจจุบันทั้งของธนาคารและระบบอยู่ในสต๊อกจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาที่เข้ามาซื้อเริ่มไม่ดีแล้ว ก็คิดอยู่ว่าเราจะ JV ดีหรือไม่ เพื่อที่จะขายหนี้เสียได้ราคาดีขึ้น กำลังดูเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งนี้ เรามองว่าเป็น Solution แก้หนี้ ไม่ได้จะตั้ง AMC เพื่อกำไรอยู่แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา ดูข้อมูลกันอยู่"
นายยุทธชัยกล่าวว่า สำหรับแนวทางแก้หนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาทของภาครัฐนั้น ธนาคารยูโอบีมีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวค่อนข้างน้อย เพราะจะโฟกัสกลุ่มลูกค้ารายได้ 3 หมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งปกติวงเงิน 5 เท่า ลูกค้าก็ไม่น่าจะเข้าข่ายกลุ่มเป้าหมายแก้หนี้มากนัก โดยธนาคารต้องขอดูรายละเอียดเงื่อนไขก่อน หากสามารถช่วยลูกค้าแก้หนี้ได้ธนาคารพร้อมจะช่วยเหลือ แต่จะต้องไม่สร้างวัฒนธรรมจงใจผิดนัดชำระหนี้ (Moral Hazard) ไม่ได้ล้มบนฟูก ต้องมั่นใจว่าเป็นครั้งเดียว (One Time)
"เข้าใจ ธปท.ที่ต้องการช่วยกลุ่มที่มีหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท เพราะเป็นกลุ่มคนตัวเล็ก แต่มีปริมาณคนจำนวนมาก ซึ่งหากเรามีมาตรการช่วยเหลือ ก็จะช่วยให้คนเหล่านี้หลุดจากหนี้ออกไปได้"
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า BAM อยู่ระหว่างคุยกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 3 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ย.นี้
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ธนาคารมีความสนใจการจัดตั้ง JVAMC โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุย อย่างไรก็ดี การจัดตั้งบริษัทใหม่จะต้องมีการทดลองระบบ และภายในต้นปี 2569 อาจจะได้เห็นการนำร่องของ JVAMC ซึ่งธนาคารมองว่าการตั้ง JVAMC มีความจำเป็นในภาวะปัจจุบัน เนื่องจากหากมีการบริหารจัดการหนี้เสียได้ดี ธนาคารจะมีพื้นที่และสภาพคล่องในการปล่อยสินเชื่อต่อได้
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย (TBA) กล่าวว่า ภายในต้นปี 2569 น่าจะได้เห็นการจัดตั้ง JVAMC โดยขณะนี้กำลังพิจารณาเกี่ยวกับจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งไม่จำเป็นต้องตั้งพร้อมกัน ทั้งนี้ ธนาคารมองว่าการจัดตั้ง JVAMC เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเป็นเครื่องมือในการแก้หนี้
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทีทีบียังไม่มีแผนจัดตั้ง JVAMC เพราะพอร์ตของธนาคารค่อนข้างเล็ก ประกอบกับ ธนาคารมีบริษัทลูก ภายใต้บริษัท บริหารสินทรัพย์พหลโยธิน จำกัด หรือ PAMCO ที่ช่วยบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพอยู่แล้ว ซึ่งก็อาจจะมีหนี้บางส่วนที่ตัดขายออกไปบ้าง
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ต้องขอพิจารณารายละเอียดของประกาศ และความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง JVAMC ตามประกาศของ ธปท. โดยยอมรับว่าที่ผ่านมามีสถาบันการเงินเข้ามาพูดคุย แต่การจัดตั้ง JVAMC จะต้องดูพันธมิตร เพราะเป็นการจัดตั้งบริษัทที่มีสัญญาต่อกัน 14-15 ปี โดยจะต้องพิจารณาโมเดลธุรกิจ และความคุ้มค่าของผลตอบแทน หากเป็นการแก้หนี้ระยะสั้นสามารถใช้โมเดลการซื้อขายปกติได้ ก็ไม่จำเป็นต้องจัดตั้งบริษัท เพราะมีต้นทุน
"เรามอง JVAMC เหมือนเหล้าใหม่ในขวดเดิม ซึ่งต้องดูเงื่อนไข ความคุ้มค่า และผลตอบแทนก่อน โดยหากเราซื้อหนี้เองและผลตอบแทนสูงกว่า เราจะซื้อเอง แต่หาก JVAMC ซื้อผลตอบแทนเท่ากัน เราก็คงต้องดูว่าแบงก์ที่เราร่วมมืออยากได้แบบไหน แต่อยากให้ช่วยเพิ่มแรงจูงใจการตั้ง JVAMC เช่น วงเงินซอฟต์โลนมาช่วย Black up ให้ AMC และมีกติกามาเซต"
"กระบวนการบริหารจัดการหนี้เสียสินเชื่อที่มีหลักประกันใช้เวลานาน และหากธนาคารไม่ได้ปรับโครงสร้างหนี้เอง ก็จะตัดขายให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ซึ่งปัจจุบันมีรายใหญ่ไม่กี่ราย ทำให้ทุนจำกัด ไม่สามารถรับซื้อได้หมด ดังนั้น หากมีกระบวนการหรือมาตรการที่เป็นรูปธรรมที่สามารถรองรับหนี้ได้มากขึ้นน่าจะเป็นสิ่งที่ดี"
"การร่วมทุนเราสนใจอยู่แล้ว เพราะเรามองว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถบริหารจัดการหนี้ได้เร็วขึ้น เพราะวันนี้สินทรัพย์ที่ปัจจุบันทั้งของธนาคารและระบบอยู่ในสต๊อกจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาที่เข้ามาซื้อเริ่มไม่ดีแล้ว ก็คิดอยู่ว่าเราจะ JV ดีหรือไม่ เพื่อที่จะขายหนี้เสียได้ราคาดีขึ้น กำลังดูเงื่อนไขต่าง ๆ ทั้งนี้ เรามองว่าเป็น Solution แก้หนี้ ไม่ได้จะตั้ง AMC เพื่อกำไรอยู่แล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา ดูข้อมูลกันอยู่"
นายยุทธชัยกล่าวว่า สำหรับแนวทางแก้หนี้เสียไม่เกิน 1 แสนบาทของภาครัฐนั้น ธนาคารยูโอบีมีลูกค้ากลุ่มดังกล่าวค่อนข้างน้อย เพราะจะโฟกัสกลุ่มลูกค้ารายได้ 3 หมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งปกติวงเงิน 5 เท่า ลูกค้าก็ไม่น่าจะเข้าข่ายกลุ่มเป้าหมายแก้หนี้มากนัก โดยธนาคารต้องขอดูรายละเอียดเงื่อนไขก่อน หากสามารถช่วยลูกค้าแก้หนี้ได้ธนาคารพร้อมจะช่วยเหลือ แต่จะต้องไม่สร้างวัฒนธรรมจงใจผิดนัดชำระหนี้ (Moral Hazard) ไม่ได้ล้มบนฟูก ต้องมั่นใจว่าเป็นครั้งเดียว (One Time)
"เข้าใจ ธปท.ที่ต้องการช่วยกลุ่มที่มีหนี้ไม่เกิน 1 แสนบาท เพราะเป็นกลุ่มคนตัวเล็ก แต่มีปริมาณคนจำนวนมาก ซึ่งหากเรามีมาตรการช่วยเหลือ ก็จะช่วยให้คนเหล่านี้หลุดจากหนี้ออกไปได้"
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM กล่าวว่า BAM อยู่ระหว่างคุยกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 3 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือน พ.ย.นี้
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวว่า ธนาคารมีความสนใจการจัดตั้ง JVAMC โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุย อย่างไรก็ดี การจัดตั้งบริษัทใหม่จะต้องมีการทดลองระบบ และภายในต้นปี 2569 อาจจะได้เห็นการนำร่องของ JVAMC ซึ่งธนาคารมองว่าการตั้ง JVAMC มีความจำเป็นในภาวะปัจจุบัน เนื่องจากหากมีการบริหารจัดการหนี้เสียได้ดี ธนาคารจะมีพื้นที่และสภาพคล่องในการปล่อยสินเชื่อต่อได้
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย (TBA) กล่าวว่า ภายในต้นปี 2569 น่าจะได้เห็นการจัดตั้ง JVAMC โดยขณะนี้กำลังพิจารณาเกี่ยวกับจำนวนที่เหมาะสม ซึ่งไม่จำเป็นต้องตั้งพร้อมกัน ทั้งนี้ ธนาคารมองว่าการจัดตั้ง JVAMC เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเป็นเครื่องมือในการแก้หนี้
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต (ทีทีบี) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ทีทีบียังไม่มีแผนจัดตั้ง JVAMC เพราะพอร์ตของธนาคารค่อนข้างเล็ก ประกอบกับ ธนาคารมีบริษัทลูก ภายใต้บริษัท บริหารสินทรัพย์พหลโยธิน จำกัด หรือ PAMCO ที่ช่วยบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพอยู่แล้ว ซึ่งก็อาจจะมีหนี้บางส่วนที่ตัดขายออกไปบ้าง
นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ต้องขอพิจารณารายละเอียดของประกาศ และความเป็นไปได้ในการจัดตั้ง JVAMC ตามประกาศของ ธปท. โดยยอมรับว่าที่ผ่านมามีสถาบันการเงินเข้ามาพูดคุย แต่การจัดตั้ง JVAMC จะต้องดูพันธมิตร เพราะเป็นการจัดตั้งบริษัทที่มีสัญญาต่อกัน 14-15 ปี โดยจะต้องพิจารณาโมเดลธุรกิจ และความคุ้มค่าของผลตอบแทน หากเป็นการแก้หนี้ระยะสั้นสามารถใช้โมเดลการซื้อขายปกติได้ ก็ไม่จำเป็นต้องจัดตั้งบริษัท เพราะมีต้นทุน
"เรามอง JVAMC เหมือนเหล้าใหม่ในขวดเดิม ซึ่งต้องดูเงื่อนไข ความคุ้มค่า และผลตอบแทนก่อน โดยหากเราซื้อหนี้เองและผลตอบแทนสูงกว่า เราจะซื้อเอง แต่หาก JVAMC ซื้อผลตอบแทนเท่ากัน เราก็คงต้องดูว่าแบงก์ที่เราร่วมมืออยากได้แบบไหน แต่อยากให้ช่วยเพิ่มแรงจูงใจการตั้ง JVAMC เช่น วงเงินซอฟต์โลนมาช่วย Black up ให้ AMC และมีกติกามาเซต"
ข่าวบ้านมือสอง อื่นๆ
