'ตระกูลเชิดสุริยา' พลิกโฉมพัทยา บูม 'โรงแรม-อสังหาหรู' หมื่นล้าน
Loading

'ตระกูลเชิดสุริยา' พลิกโฉมพัทยา บูม 'โรงแรม-อสังหาหรู' หมื่นล้าน

วันที่ : 19 พฤศจิกายน 2568
ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ ระบุว่า แผนธุรกิจ 5 ปีข้างหน้า เรายังมุ่งพัฒนาอสังหาฯเพื่อขาย แต่อาจมีเพิ่มพอร์ตโรงแรมมาเสริม เพื่อสร้างรายได้ระยะยาว ขณะเดียวกันเรายังคงซื้อที่ดิน หากมีทำเลดีและเหมาะสม แต่ตอนนี้เมืองพัทยาไม่มีที่ดินขายแล้ว และราคาก็ปรับขึ้นต่อเนื่อง ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้นมากว่า 50%
   เอ่ยชื่อ "ตระกูลเชิดสุริยา" เชื่อว่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ภายใต้กลุ่มออร์เนอร์ ที่เติบโตมาจากธุรกิจ ร้านขายทอง "ห้างทองแม่ทองสุกเยาวราชพัทยา"สำหรับการขยายไลน์สู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีสองพี่น้อง "ธิดาและคริส เชิดสุริยา" เป็นแม่ทัพ ขับเคลื่อนแผนการลงทุนมากว่า 2 ทศวรรษ จากจุดเริ่มต้นโรงแรม สู่โครงการมิกซ์ยูส คอนโดมิเนียมและคอมมูนิตี้มอลล์ ถึงปัจจุบันมีพอร์ตร่วม 13,171 ล้านบาท และกำลังทะยานสู่ 15,000 ล้านบาท จากโครงการบ้านหรูและโรงแรม ซึ่งเตรียมจะเดินหน้าพัฒนาโครงการภายในปี 2569

   คริส เชิดสุริยา ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ วิเคราะห์ทำเลพัทยาเหมือน "แมวเก้าชีวิต" แม้ว่านักท่องเที่ยวบางประเทศ หายไป แต่มีนักท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยุโรป อินเดีย และเอเชีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ทำให้จังหวัดชลบุรียังคงเป็นหมุดหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ

   อีกแรงขับเคลื่อน "ชลบุรี" ถูกกำหนดเป็นพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีนักลงทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีมูลค่าการออกบัตร ส่งเสริมการลงทุนแล้วกว่า 1.8 ล้านล้านบาท อันดับหนึ่ง ยังเป็นนักลงทุนจีน ตามมาด้วยญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และอเมริกา ส่วนใหญ่สนใจลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ รวมถึงดาต้าเซ็นเตอร์

   ยังมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมขนาดใหญ่ ไม่ว่ารถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมืองสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) แม้ว่าปัจจุบันโครงการยังไม่เริ่มต้นการก่อสร้าง แต่เชื่อว่าไม่มีรัฐบาลไหนที่จะไม่ทำ ยังมี สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 จะเปิดบริการในปี 2571 และท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 จะเปิดบริการในปี 2570

   รวมถึงรถไฟฟ้าโมโนเรลเมืองพัทยาเชื่อมกับรถไฟความเร็วสูง นำร่องสายสีเขียวจากสถานีรถไฟพัทยา-เมืองพัทยา-ทัพพระยา-แหลมบาลีฮาย ถ้าหากในปี 2569 รถไฟความเร็วสูงได้ข้อยุติ โมโนเรลจะได้รับการอนุมัติตามมา ล่าสุดอยู่ระหว่างรอการอนุมัติรายงานผลกระทบด้าน สิ่งแวดล้อมหรืออีไอเอ นอกจากนี้ เมืองพัทยากำลัง ดำเนินการนำสายไฟฟ้าลงดินจะเสร็จภายในปี 2569 ยังมีท่าเรือแหลมบาลีฮาย เพื่อขับเคลื่อนเมืองพัทยาสู่การเป็น "เมืองน่าอยู่ เมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ" ในอนาคต

   "อีก 2-3 ปี ภาพจำของพัทยาเหนือจะเปลี่ยนไปทั้งหมด จะเหมือนกรุงเทพฯเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เทียบเท่าย่านหลังสวน จึงทำให้เรากล้าลงทุนอสังหาฯอย่างต่อเนื่อง" คริสกล่าว

    ด้าน ธิดา เชิดสุริยา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ ออร์เนอร์ ไทยแลนด์ ได้อัพเดตแผนธุรกิจว่า ปัจจุบันมีแลนด์แบงก์อยู่หลายแปลง ทั้งที่ดินของตระกูลและซื้อเพิ่ม ล่าสุดนำที่ดินใจกลางเมืองพัทยาเหนือ ที่เพิ่งซื้อมาไม่กี่ปีที่ผ่านมากว่า 10.5 ไร่ ติดถนนพัทยา-นาเกลือประมาณ 4 ไร่ พัฒนาโครงการ "วันซ์ วงศ์อมาตย์" คอนโดมิเนียมระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่ ฟรีโฮลด์ มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท หลังได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จโครงการ "วันซ์ พัทยา" ที่ SOLD OUT เพื่อรองรับดีมานด์ที่ยังคงมีอย่าง ต่อเนื่อง ทั้งลูกค้าในพัทยา กรุงเทพฯและต่างชาติ เพื่อสร้างให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่บนทำเลที่ดีที่สุดของพัทยาเหนือ

   "เราตั้งใจให้โครงการนี้ เป็นเหมือนโรงแรมระดับ 5 ดาว ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 2,000 ล้านบาทหรือประมาณ 40% จากทั้งโครงการ โดยจะเปิดให้ชมห้องตัวอย่างวันที่ 22 พฤศจิกายน 2568 ปัจจุบันเริ่มงานก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปี 2572" ธิดากล่าว"ธิดา" อธิบายว่า การที่โครงการมีการตอบรับค่อนข้างดี แม้ยังไม่เปิดขาย น่าเป็นเรื่องศักยภาพของทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง ใกล้วงเวียนปลาโลมา คอมมูนิตี้มอลล์ อเกณฑ์ พัทยา (again Pattaya) ที่เราซื้อโครงการเก่ามาพัฒนาใหม่ โดยใช้เงินลงทุนไป 300 ล้านบาท ตอนนี้พื้นที่เช่าเต็ม ยังใกล้ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 และห่างจากชายหาดเพียง 590 เมตร ยังเป็นคอนโดฟรีโฮลด์ที่สูงที่สุด ด้วยความสูง 56 ชั้น (239 เมตร) ยูนิตรวม 548 ยูนิต มีห้องให้เลือก 5 แบบ ขนาด 1-3 ห้องนอน พื้นที่เริ่มต้น 34.6 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.9-59.9 ล้านบาท และห้อง เพนต์เฮาส์ 6 ยูนิต ทุกยูนิตมีสระว่ายน้ำ ลิฟต์และที่จอดรถส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 150 ล้านบาท

   "ตอนนี้แบบ 1 ห้องนอนขายดี จากกว่า 100 ยูนิต เหลือ 30 ยูนิตสุดท้าย ลูกค้าที่ซื้อมีทั้งคนไทยและต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น โดยเป็นการซื้ออยู่เองและซื้อลงทุนปล่อยเช่า ได้ผลตอบแทน 6% เพราะพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวและมี ต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่อยู่ในโซนนี้มาก ยังมีกลุ่มยุโรป จีนและรัสเซีย ดังนั้น เราออกแบบ ให้ทุกยูนิตซีวิว 100% ทำให้คนได้รู้สึกถึงการพักผ่อนจริงๆ เรามีเป้าหมายพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับเมืองพัทยาเป็นเวิลด์คลาสและเป็นแลนด์มาร์ก ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนมาจากธุรกิจท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ ส่งผลมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง"
จากคอนโดลักชัวรี่ "ธิดา" เล่าว่า ยังมีโปรเจ็กต์ใหม่ที่เตรียมจะพัฒนาอีกหลายโครงการ โดยเตรียมนำที่ดินยังเหลือประมาณ 6 ไร่ จากโครงการวันซ์ วงศ์อมาตย์ พัฒนาเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ เพื่อสร้างรายได้เช่าระยะยาว ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดโครงการ เนื่องจากมองว่าปัจจุบันเมืองพัทยามีการพัฒนาคอนโดและโรงแรมมากแล้ว รวมถึงมีแผนร่วมทุนกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จากกรุงเทพฯนำที่ดินกว่า 1 ไร่ ใกล้กับ วอล์กกิ้งสตรีท พัฒนาเป็นโรงแรมขนาด 220 ห้อง มูลค่าลงทุน 700 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 2,000 บาทต่อคืน คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 2 ปี

   ยังเตรียมนำที่ดินติดอ่างเก็บน้ำมาบประชัน พัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวหรู 2 ชั้นใกล้โรงเรียนนานาชาติ ทั้งโครงการมีกว่า 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 14-19 ล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 2 เฟส มูลค่าโครงการรวม 1,000 ล้านบาท รองรับกำลังซื้อผู้ปกครองนักเรียน และนักลงทุนที่ต้องการซื้อปล่อยเช่าให้กับต่างชาติที่ส่งลูกมาเรียนที่โรงเรียนนานาชาติ ซึ่งมีอยู่ 4-5 แห่งโดยรอบโครงการ จะเปิดขายเฟสแรกในปี 2569

   "แผนธุรกิจ 5 ปีข้างหน้า เรายังมุ่งพัฒนาอสังหาฯเพื่อขาย แต่อาจมีเพิ่มพอร์ตโรงแรมมาเสริม เพื่อสร้างรายได้ระยะยาว ขณะเดียวกันเรายังคงซื้อที่ดิน หากมีทำเลดีและเหมาะสม แต่ตอนนี้เมืองพัทยาไม่มีที่ดินขายแล้ว และราคาก็ปรับขึ้นต่อเนื่อง ช่วง 1 ปีที่ผ่านมาปรับขึ้นมากว่า 50% นอกจากนี้ เรายังสนใจจะเข้าไปลงทุนภาคใต้ เช่น ภูเก็ต กระบี่ โดยมองว่าไม่ว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี คนที่ยังมีเงินอยู่ ก็ยังลงทุนซื้ออสังหาฯ ตั้งแต่ทำธุรกิจมา ไม่เคยได้ยินว่าเศรษฐกิจจะดี การที่ออร์เนอร์ เรามาถึงจุดนี้ได้ เป็นเพราะทำเลและโปรดักต์ ซึ่งธุรกิจอสังหาฯสิ่งสำคัญคือ ทำเล ทำเล และทำเล ถ้าเรายัง ไม่รอด คงไม่มีคนอื่นรอดแล้ว" ธิดากล่าวทิ้งท้าย
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ