ภูเก็ตบูมลงทุนอสังหาฯข้ามปี บิ๊กเนม-ทุนท้องถิ่นแข่งชิงดำ
วันที่ : 1 มกราคม 2569
ภูเก็ตกระเพื่อมหนักมาก อสังหาฯบูมลงทุนข้ามปี เผย 3 เดือนสุดท้ายเปิดหน้าลงทุนใหม่เฉียดแสนล้านบาท ทุนท้องถิ่นตระกูลวานิช ปัดฝุ่น แลนด์แบงก์เหมืองเก่าผุดมิกซ์ยูส 5 หมื่นล้าน บิ๊กแบรนด์เติมซัพพลาย ไม่อั้นทั้งแสนสิริ-แอสเซทไวส์-ไซมิสฯ-พราว เรียลเอสเตท บ้าน-คอนโดตากอากาศภูเก็ตแข่งลงทุนแบบไม่มีใครเกรงใจใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวโน้มจีดีพี ปี 2569 คาดการณ์ระหว่าง 1-2% ซึ่ง หมายถึงเติบโตตกต่ำในรอบ 10 ปี ทำให้นักธุรกิจตั้งความหวังกับการเลือกตั้ง ทั่วไปที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ อย่างไรก็ตาม สำหรับภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้ภาพรวมตลาดทั่วประเทศจะถดถอยและหดตัวแรง แต่มีทำเลเดียวที่ยืนหนึ่งนับตั้งแต่สถานการณ์โควิดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็คือจังหวัดภูเก็ต เมืองที่เป็นเดสติเนชั่นด้านการท่องเที่ยว และอสังหาฯระดับโลกของไทย โดยเส้นกราฟการลงทุนชี้ทิศทางขาขึ้นตลอดเวลา
ล่าสุดในภาวะที่กำลังซื้อถดถอย กำลังใจคนทำธุรกิจก็กล้า ๆ กลัว ๆ แต่ไม่ใช่ที่ภูเก็ต โฟกัสเฉพาะไตรมาส 4/68 เพียงไตรมาสเดียวมีการประกาศลงทุนใหม่รวมกันเฉียดแสนล้านบาท ในขณะที่ยังคงมีอีกจำนวนมากที่ซุ่มรอเปิดตัวโครงการใหม่ เจาะดีมานด์ลูกค้าต่างชาติ มั่งคั่งจากทั่วทุกมุมโลก
แสนสิริ-แอสเซทไวส์แข่งชิงดำ
ไฮไลต์การลงทุนในไตรมาส 4/68 เริ่มต้น ที่บิ๊กแบรนด์อสังหาฯ ค่ายแสนสิริที่มีการลงทุนตลาดอสังหาฯภูเก็ตยาวนาน 16 ปี นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริ เปิดตัว 2 โครงการใหม่เมื่อเดือนตุลาคม 2568 ได้แก่ "ดีคอนโด โคฟ" มูลค่า 2,100 ล้านบาท สร้างบนพื้นที่ 8 ไร่ ออกแบบเป็น คอนโดฯโลว์ไรส์ 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 862 ยูนิต อาคารส่วนกลางสูง 2 ชั้น
อีกโครงการเป็นบ้านเดี่ยวแบรนด์แข็งแกร่ง "เศรษฐสิริ เกาะแก้ว รีทรีต" มูลค่า 1,700 ล้านบาท จำนวน 110 ยูนิต บนพื้นที่ 66.99 ไร่ จุดเด่นทำเลอยู่ติด British International School Phuket และอยู่ห่างจากถนนหลักเทพกระษัตรี 2.7 กิโลเมตร
บิ๊กแบรนด์อีกราย นายดรงค์ หุตะจูฑะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ในเครือแอสเซทไวส์ (ASW) เปิดเผยว่า จุดเน้น ASW มีพอร์ตการลงทุนในภูเก็ต คิดเป็นสัดส่วน 82% ของ พอร์ตรวมของบริษัท พัฒนา 5 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท
รายละเอียดแบ่งเป็นเปิดตัว 3 โครงการ Leisure Condominium ใหม่ในภูเก็ต มูลค่ารวม 9,700 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โคราลิน่า กมลา-Coralina Kamala คอนโดฯสไตล์รีสอร์ต ใกล้หาดกมลา 564 ยูนิต มูลค่ารวม 3,900 ล้านบาท 2.เดอะ ไทเทิล เซียร่า-The TITLE Sierra 452 ยูนิต มูลค่า 2,000 ล้านบาท และ 3.เดอะ บาลโคนี ในยาง-The Balcony Naiyang 542 ยูนิต มูลค่า 3,800 ล้านบาท
การลงทุนทิ้งทวนช่วงรอยต่อปีเก่าไป ปีใหม่มา ASW มีบิ๊กเซอร์ไพรส์ด้วยการประกาศดีลร่วมทุน (JV-Joint Venture) กับยักษ์อสังหาฯภูเก็ต กลุ่มโบ๊ทพัฒนาของตระกูลยงสกุล พัฒนาพูลวิลล่าหรู บนทำเลเกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต มูลค่า 5,700 ล้านบาท บนพื้นที่รวม 75 ไร่ จำนวน 2 โครงการ ภายใต้แบรนด์ Casa de Monte และ Villa del Luna
วานิชแข่งมิกซ์ยูส 5 หมื่นล้าน
โปรเจ็กต์เร้าใจเป็นของตระกูลวานิช หนึ่งในตระกูลดังของภูเก็ต นางจันทร์ทิพย์ วานิช กรรมการผู้จัดการ และผู้บริหารกลุ่มบริษัทซีวี เปิดเผยว่า กลุ่มซีวีเพิ่งเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 50,000 ล้านบาท ด้วยการปัดฝุ่นแลนด์แบงก์ผืนใหญ่ 491 ไร่ อดีตทำเหมืองแร่ดีบุกเก่าและสวนปาล์ม ล่าสุดตัดสินใจลงทุนพัฒนา อสังหาฯ ในรูปแบบโครงการมิกซ์ยูส แบรนด์ "Synthesis Ark Phuket" ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ต.เกาะแก้ว อ.ถลาง ติดถนนเทพกระษัตรี
คอนเซ็ปชวลดีไซน์นำเสนอภายใต้แนวคิด ใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนในรูปแบบ 15-Minute Neighborhood เดินถึงทุกที่ภายใน 15 นาที ภายในโครงการ ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร วิลล่าหรู อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ สถานศึกษา ศูนย์สุขภาพและความงาม และศูนย์การค้าระดับโลก ตามแผนวางไทม์ไลน์เริ่มตอกเข็มต้นแรกภายในปี 2568 แบ่งพัฒนา 3 เฟส และคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จทั้งหมดภายในปี 2575
บูม Branded Residence
สำหรับเทรนด์ลงทุนข้ามปีบนเกาะภูเก็ต ต้องนับรวมแนวคิดรูปแบบ Branded Residence หรือโครงการที่พักอาศัยระดับพรีเมี่ยมพ่วงบริการโรงแรม ห้าดาว ล่าสุด นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PROUD เปิดเผยว่า กลุ่มพราวเปิดตัว แบรนด์ใหม่หมาด "The Residences at InterContinental Phuket Resort" โครงการระดับลักเซอรี่แห่งใหม่บนหาดกมลา จ.ภูเก็ต ชูความพิเศษของไลฟ์สไตล์ที่เชื่อมต่อกับโรงแรมหรูในเครือ InterContinental (IHG) ที่ได้รับรางวัล 2 Michelin Keys การันตีมาตรฐานการบริการ
รายละเอียดโครงการมูลค่า 2,700 ล้านบาท บนพื้นที่ 3.5 ไร่ ออกแบบเป็นอาคารที่พักอาศัย 2 อาคาร พื้นที่ส่วนกลาง 1 อาคาร มีห้องชุดให้เลือก 5 แบบหลัก พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 59-425 ตร.ม. จำนวน 111 ยูนิต ชูจุดขายห้องชุดยูนิตหน้ากว้าง ฟังก์ชั่น 1-5 ห้องนอน เคาะราคาเริ่มต้น 15-100 ล้านบาท
ความคืบหน้าดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว มียอดพรีเซล 20% ของยูนิตทั้งหมด และจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ในไตรมาส 3/70
ถัดมา นายฐิติวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แค๊ปสโตน แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า แค๊ปสโตน แอสเสท ร่วมกับแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล เชนโรงแรมท็อป 3 ของโลก เปิดตัวแบรนด์ "เพย์ลา ภูเก็ต ออโตกราฟ คอลเล็คชั่น เรสซิเดนซ์ส" ปักหมุดทำเลใจกลางย่านบางเทา นำเสนอ เรสซิเดนซ์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับโรงแรมออโตกราฟ คอลเล็คชั่น จำนวน 408 ห้อง เป็นห้องชุดฟูลลี่เฟอร์นิชหรือตกแต่งพร้อมอยู่ คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จในปี 2570
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาสเตอร์แพลนแบบมิกซ์ยูสโปรเจ็กต์ ประกอบด้วย โรงแรมออโตกราฟ คอลเล็คชั่น 126 ห้อง กับพื้นที่รีเทล บนเนื้อที่ 10 ไร่ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวลงทุนยังรวมถึงบิ๊กแบรนด์อสังหาฯอีกราย นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) หรือ SA ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ประกาศแผนลงทุนกำลังจะวางมัดจำ ซื้อที่ดิน 2 แปลงในภูเก็ต ได้แก่ ที่ดินย่าน บางเทา 10 ไร่ กับย่านหาดกมลา 37 ไร่
โดยจะเป็นโครงการร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์ อยู่ระหว่างพิจารณาดีลร่วมทุนที่ดีที่สุดระหว่างบริษัทอสังหาฯจากสหรัฐ กับบริษัท คอนเนอร์ สโตน ที่เคยร่วมทุนแล้วในคอนโดฯ Siamese Bangtao โดยแบ่งการลงทุน 2 โครงการ มูลค่ารวมกัน 9,000 ล้านบาท
ภูเก็ตคอนโดฯตากอากาศย่อตัว
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศในภูเก็ต ซึ่งขึ้น แท่นเมืองศูนย์กลาง Branded Residence แห่งเอเชีย ดันตลาดอสังหาฯ จากเมืองท่องเที่ยวระดับโลก บิ๊กแบรนด์และ นักลงทุนจำนวนมากเริ่มปรับกลยุทธ์ หันไปมองหาโอกาสใหม่ในตลาดต่างจังหวัด เจาะดีมานด์พักอาศัยระยะยาว (Long-stay Demand) และดีมานด์เพื่อการลงทุน (Investment Demand) ภูเก็ตตอบโจทย์การเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูงจากลูกค้าไทยและนักลงทุนต่างชาติ
สถิติ ณ ไตรมาส 3/68 มีบ้านและ คอนโดฯตากอากาศเปิดใหม่ 85 โครงการ มูลค่าลงทุนรวม 73,146 ล้านบาท ซัพพลายรวม 5,500 ยูนิต ส่วนใหญ่สามารถ ทำยอดขาย 50-70% หรือปิดโครงการ 100% หลังจากการเปิดการขายได้ไม่ถึง 1 เดือน เป็นสัญญาณบวกอย่างชัดแจ้ง
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตช่วง 9 เดือนแรก (มกราคมกันยายน 2568) ถือเป็นช่วงเวลาปรับตัวหลังจากแข่งกันเติมซัพพลายใหม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เบ็ดเสร็จมีคอนโดฯ เปิดใหม่ 4,648 ยูนิต จำนวน 18 โครงการ มูลค่ารวม 36,420 ล้านบาท ทำเลแข่งขันหลัก อยู่ที่ย่านบางเทา เชิงทำเล กะตะ กะรน ราไวย์ และใจกลางเมืองภูเก็ต
เทรนด์ปี 2569 ตลาดคอนโดฯภูเก็ตยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง แต่ซัพพลายใหม่อาจปรับตัวลดลงเล็กน้อย 6,000-10,000 ยูนิต เนื่องจากมีการแข่งขันเปิดใหม่ 20,000 ยูนิต ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2567-2568) ภาวะการแข่งขันสูงมาจากบิ๊กแบรนด์อสังหาฯเมืองกรุงที่หันเข็มทิศไปลงทุนภูเก็ตมากขึ้น
พูลวิลล่า 30-50 ล้านขายดี
ส่วนตลาดบ้านตากอากาศในภูเก็ต ณ สิ้นไตรมาส 3/68 เปิดขายใหม่มากถึง 872 ยูนิต จำนวน 60 โครงการ มูลค่ารวม 36,726 ล้านบาท ทำเลแข่งขันหลักกระจุกตัวที่ย่านเชิงทะเล 55.90% โดยเฉพาะกำลังซื้อชาวรัสเซียให้ความนิยมเป็นอย่างมาก
ถัดมา ทำเลการลงทุนตั้งอยู่ตามแนวชายหาดและพื้นที่ใกล้แนวชายหาด ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอถลางมากที่สุด ตามแนวชายฝั่งตะวันตกของเกาะ ย่านหาดบางเทา หาดสุรินทร์ หาดลายัน เชิงทะเล รองลงมา หาดในทอน บริเวณอ่าวฉลอง หาดราไวย์ หาดกมลา ป่าตอง แนวโน้มมีการแข่งขันสูงในระดับราคา 30-50 ล้านบาท แม้ราคาสูงแต่ดูเหมือนทำเลตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างจากชายหาดมากขึ้น เพราะต้นทุนราคาที่ดินไม่แพง มีบรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับการอยู่อาศัย
เทรนด์บ้านตากอากาศภูเก็ตมีภาพเช่นเดียวกับคอนโดฯตากอากาศ ที่มีการ แข่งขันลงทุนอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มปี 2569 ซัพพลายเปิดใหม่ อาจลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 1,000-1,500 ยูนิต
สำหรับข้อแนะนำต่อดีเวลอปเปอร์ นายภัทรชัยกล่าวว่า มี 5 กลยุทธ์ ได้แก่ 1.เลือกทำเลที่มีศักยภาพสูงและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว จุดโฟกัสอยู่ที่พื้นที่ตอนเหนือภูเก็ต หรือโซนใกล้แหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกหลัก แต่มีต้นทุนราคาที่ดินต่ำกว่าทำเลชายหาดหลัก จะช่วยให้บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ รักษาเอกลักษณ์ของโครงการในเชิงคุณภาพและความพิเศษของทำเลได้เป็นอย่างดี
2.กลยุทธ์ด้านราคาและการกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างเหมาะสม ช่วงราคาที่มีดีมานด์ซื้อสูงสุดอยู่ที่ 30-50 ล้านบาท/ ยูนิต โดยเฉพาะกลุ่มกำลังซื้อสูงและมองหาทรัพย์สินเพื่อการลงทุนระยะยาว ผู้ซื้อที่ต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับการพักผ่อนในระดับพรีเมี่ยม 3.เพิ่มมูลค่าโครงการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการระดับพรีเมี่ยม เช่น คลับเฮาส์ ส่วนตัว สปามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว ฟิตเนสครบวงจร ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ และบริการดูแลผู้พัก อาศัยแบบครบวงจร (Property Management & Concierge Service) เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยในระดับรีสอร์ต ช่วยเพิ่มโอกาสในการปล่อยเช่าระยะยาว หรือให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่มั่นคงมากขึ้น
4.เน้นกลุ่มลูกค้านักลงทุนและผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยระยะยาว กลุ่มนักลงทุนต่างชาติ โฟกัสลูกค้า รัสเซีย จีน ยุโรป ยังคงมองหาทรัพย์สินในภูเก็ต เพื่อการลงทุนและอยู่อาศัยระยะยาว โมเดลนำเสนอ ที่ใช้ได้ผล อาทิ การลงทุนแบบการันตีผลตอบแทน (Guaranteed Yield) หรือโครงการที่สามารถปล่อยเช่าได้อย่างถูก กฎหมาย และ 5.วางแผนโครงการภายใต้แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) นำแนวทาง Green Building Concept มาใช้ในกระบวนการออกแบบและก่อสร้าง การใช้วัสดุรักษ์สิ่งแวดล้อม ออกแบบอาคารให้ประหยัดพลังงาน และการบริหารจัดการน้ำและของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
"โครงการที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนไม่เพียงช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ และเพิ่มโอกาสในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมี่ยมที่ใส่ใจต่อ สิ่งแวดล้อม" นายภัทรชัยกล่าว
ข่าวอสังหาริมทรัพย์ภูมิภาค อื่นๆ