อสังหาฯฮ่องกงจับมือทุนไทยยึดอโศก-เอกมัยเจาะไฮเอนด์
Loading

อสังหาฯฮ่องกงจับมือทุนไทยยึดอโศก-เอกมัยเจาะไฮเอนด์

วันที่ : 7 กันยายน 2560
อสังหาฯฮ่องกงจับมือทุนไทยยึดอโศก-เอกมัยเจาะไฮเอนด์

ทุนฮ่องกงผนึกไทย ผุดบริษัทอสังหา "เซวาส พรอพเพอตี้ส์" ลุยเจาะตลาดหรูทำเล อโศก-เอกมัย ระบุเป็นกลุ่มกำลังซื้อสูง ความเสี่ยงต่ำ ประเดิมโครงการแรกคอนโดย่านทองหล่อ เคาะราคา 17-65 ล้าน เผย 10 ปีขยายเข้าอาเซียน

นายดักลาส เฉิง นักธุรกิจจากฮ่องกง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซวาส พรอพเพอตี้ส์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทสนใจในตลาดอสังหาฯ ไทย จึงตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจนี้ด้วยการร่วมทุนกับกลุ่มนายวิวัฒน์ พิภักดิ์สมุทร ซึ่งอยู่ในธุรกิจก่อสร้างมากว่า 30 ปี ในสัดส่วน 21:79 วางแผน 5 ปีแรก เน้นพัฒนาโครงการในทำเลอโศกถึงเอกมัย ทั้งคอนโดและวิลล่า เจาะกลุ่มเป้าหมายระดับบนเป็นหลัก เบื้องต้นตั้งเป้าพัฒนาปีละ 2-3 โครงการ มูลค่าลงทุนเฉลี่ย 1,500-3,000 ล้านบาท/โครงการ

"อโศกและเอกมัยเป็นทำเลศักยภาพ แม้การแข่งขันสูง แต่เราจะใช้จุดแข็งคือการใช้วัสดุและการออกแบบที่ดี การมีผู้บริหารและทีมงานที่มีประสบการณ์ทั้งชาวไทยและชาวฮ่องกงที่เข้าใจสภาพตลาดและความต้องการของผู้บริโภคและการควบคุมคุณภาพโครงการที่เข้มงวด"

สำหรับโครงการแรกจะพัฒนาคอนโด ระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี "นิวาติ" 7 ชั้น 52 ยูนิต มูลค่า 1,600 ล้านบาท ย่านทองหล่อ ราคา 17-65 ล้านบาท โดยตั้งบริษัท 888 ทองหล่อ จำกัด ขึ้นมาดูแล โดยมีนายวิวัฒน์ เป็นกรรมการผู้จัดการ

นายวิวัฒน์ กล่าวว่า เป้าหมายการพัฒนาโครงการเน้นเจาะตลาดเกรดเอทั้งชาวไทยและต่างชาติ ส่วนการเน้นทำเลอโศกถึงเอกมัย เพราะมีกำลังซื้อคุณภาพ รวมถึงผู้เช่า ในทำเลนี้ก็เป็นกลุ่มผู้เช่าคุณภาพเช่นกัน ทำให้เป็นตลาดที่มีความเสี่ยงน้อย

"คอนโดราคาระดับ 1 ล้านบาทขึ้นไปมีตัวเลือกในตลาดเป็นจำนวนมาก ผมในฐานะผู้มาใหม่อาจจะไม่เหมาะ ที่จะพัฒนาโครงการที่ต้องลงไปใน เรด โอเชียน อีกประการหนึ่ง คือ ผมคุ้นเคยกับทำเลย่านนี้ มาทำงาน แฮงเอาท์ จึงอยากเริ่มต้นที่นี่ และที่สำคัญทีมงานของเราก็หาที่ดินละแวกนี้มาตลอด"

ทั้งนี้บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขาย ได้ศึกษาทำเลทองหล่อพบว่าผู้พัฒนาโครงการยังเชื่อมั่นในการเติบโตของตลาดคอนโด และตั้งแต่ 2 ปีก่อนถึงไตรมาส 3 ปีนี้ มีอุปทาน 1,130 หน่วย โดยเกิดขึ้นในปีนี้ 4 โครงการ 515 หน่วย แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของ ผู้ประกอบการต่อทำเลนี้ ส่วนยอดขายในระยะเวลาเดียวกันมี 671 หน่วย หรือ 59% เฉลี่ย 16 หน่วยต่อเดือน

ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าผู้พัฒนาเน้นโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี แต่ปีนี้เน้นโครงการโลว์ไรซ์ระดับลักซ์ชัวรี และโครงการ ไฮไรซ์ระดับพรีเมี่ยม โดยนำเสนอความแปลกใหม่ จุดขายที่แตกต่าง และราคาเสนอขายที่ดึงดูดความสนใจ เฉลี่ย 2.75 แสนบาทต่อตร.ม.

นายดักลาสกล่าวว่า นอกจากไทยแล้ว ในระยะ 10 ปี บริษัทมีแผนที่จะขยายเข้าสู่ตลาดอาเซียนอีกด้วย

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ