MODERNหั่นยอดขายเหลือโต5%
Loading

MODERNหั่นยอดขายเหลือโต5%

วันที่ : 5 กันยายน 2560
MODERNหั่นยอดขายเหลือโต5%

นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท โมเดอร์นฟอร์ม จำกัด (มหาชน) หรือ MODERN เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับลดเป้ายอดขายปีนี้เหลือโต 5% จากเดิมที่ตั้งไว้ 10% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ประกอบกับการแข่งขันที่สูงจากคู่แข่งประเทศจีน และประเทศเวียดนาม ที่นำเฟอร์นิเจอร์ราคาถูกเข้ามาขายในประเทศไทย โดยกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศจะเติบโต 15-20% ส่วนเฟอร์นิเจอร์บ้าน และคอนโดมิเนียมยังคงที่ และธุรกิจเกี่ยวสุขภาพเติบโต 20%

โดยบริษัทรายได้รวมในปี 2560 คาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 2559 ที่ 3,310 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้อยู่ที่ 1,382 ล้านบาท เนื่องจากลูกค้ามีการเลื่อนออเดอร์ รวมถึงสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์บ้านยังคงชะลอตัว ตามตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ทั้งนี้ในปี 2560บริษัทตั้งเป้ามีรายได้ของธุรกิจเฮลท์แคร์อยู่ที่ 350 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 300 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวของโรงพยาบาลในประเทศปัจจุบัน ประกอบกับมีออเดอร์จากลูกค้าทั้งภาครัฐ และเอกชน ประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งเหลืออีกประมาณ 50% กำลังรอการเซ็นสัญญากับลูกค้าคาดว่าประมาณกลางเดือน ก.ย.60 จะมีความชัดเจน

สำหรับปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์จากลูกค้าซึ่งเป็นสินค้าที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,700 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังประมาณ 50% หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้ากลุ่มเฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศ ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2561

นายทักษะ กล่าวว่า แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 จะดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัดยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์ออฟฟิศยังสามารถเติบโตได้ดี ประกอบกับการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น

ด้านงบลงทุนในปี 2560 บริษัทตั้งไว้ที่ 100 ล้านบาท เพื่อทำการตลาดในการเปิดแคมเปญ และกลยุทธ์ต่างๆ ในการกระตุ้นยอดขายให้กับลูกค้า โดยเฉพาะช่องทางดิจิตอล เป็นสัดส่วน 70-75% เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันมีชีวิตอยู่กับโลกออนไลน์ ส่วนอีก 25% จะเป็นการลงทุนในการตลาดรูปแบบอื่นๆ และคาดว่าจะมีงบลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาอีกในช่วงครึ่งปีหลังประมาณหลักร้อยล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทได้มีการลงทุนเกี่ยวกับการบริการ Chatbot ร่วมกับ บริษัท เฮ็ดบอท จำกัด (H bot) และบริษัท ฟินสตรีท (FinsTreet) โดยจะใช้งบการลงทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท เพื่อเสนอขายโปรดักต์สินค้าต่างๆ ให้กับลูกค้า และบริการข้อมูลผ่านช่องทางแชทออนไลน์ต่างๆ เนื่องจากปัจจุบันการใช้แชทของผู้บริโภคมีการเติบโตสูง ซึ่งมั่นใจว่าการลงทุนดังกล่าวจะเป็นแพลตฟอร์มที่ส่งเสริมธุรกิจของบริษัทได้เป็นอย่างดี

 
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ