MQDCดัน วิสซ์ดอม บุกแนวราบ-สูงผุด6โครงการ2หมื่นล.-ปักธงเยาวราช
Loading

MQDCดัน วิสซ์ดอม บุกแนวราบ-สูงผุด6โครงการ2หมื่นล.-ปักธงเยาวราช

วันที่ : 29 สิงหาคม 2560
MQDCดัน วิสซ์ดอม บุกแนวราบ-สูงผุด6โครงการ2หมื่นล.-ปักธงเยาวราช

นายอัษฎา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการ วิสซ์ดอม บริษัท แมกโนเลีย คอวลิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MQDC กล่าวว่าในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าจะมียอดขายที่อยู่อาศัยภายใต้แบรนด์ วิสซ์ดอม ระดับ 20,000 ล้านบาท และมีแผนจะปั้นแบรนด์ดังกล่าว โดยจะเปิด 5-6 โครงการ มูลค่า 20,000 ล้านบาทเศษ

สำหรับโครงการแนวสูงที่จะเปิดโฉมหน้าในครึ่งแรกของปี 61 มี  2 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท โครงการแรกอยู่ติดถนนอโศก-รัชดา ตั้งอยู่ติดกับอาคารเดอะเลค รัชดา ตรงข้ามศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  พื้นที่ 4ไร่ พัฒนาในรูปแบบผสมผสาน (มิกซ์ยูส) เฉพาะในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมจะเป็นอาคารสูง 30 กว่าชั้น มูลค่า 8,000 ล้านบาท และโครงการ ที่ 2 คือ โครงการวิสซ์ดอม ไชน่าทาวน์ อยู่ในเยาวราชบนพื้นที่ 2 ไร่ จำนวน 200 ยูนิตเศษ มูลค่า4,000 ล้านบาท

ในส่วนแผนธุรกิจในปีนี้ ทางกลุ่มสินค้าในแบรนด์วิสซ์ดอม จะไม่เน้นการเปิดตัวโครงการแต่จะเน้นการส่งมอบห้องชุดในโครง การที่ก่อสร้างแล้วเสร็จให้แก่ลูกค้า ปัจจุบันมียอดขาย 10,000 ล้านบาท แต่จะมีสินค้าที่รอโอนในปีนี้มูลค่า 5,000 ล้านบาท จากโครงการ วิสซ์ดอม 101 โครงการมิกซ์ยูส ซึ่งขณะนี้มีห้องชุดเหลือขายในอาคาร 1 ประมาณ 10% และอาคาร 3 ประมาณ 30% คาดว่าจะปิดยอดขายทั้งหมดในเร็วๆ นี้ และโครงการวิสซ์ดอม รัชดาอเวนิว 10% โดยสต๊อกรอโอน 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะ รับรู้ได้ทั้งหมดในปีนี้

นายสมเกียรติ หงษ์ทรัพย์ภิญโญ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า บริษัทได้พัฒนาโฮมออฟฟิศและชอปเฮาส์ 2 โครงการ ใน 2 ทำเลใหม่ มูลค่าโครงการรวม 1,060 ล้านบาท ได้แก่ทำเลเจริญกรุงและเพชรเกษม โดยพัฒนาภายใต้แบรนด์ "สิริ สแควร์" ระดับราคา 10-30 ล้านบาท ภายใต้ในชื่อโครงการ "สิริ สแควร์ เจริญกรุง 80" จำนวน 35 ยูนิต มูลค่า 530 ล้านบาท และภายใต้แบรนด์ "สิริ อเวนิว ชอปเฮาส์" ระดับราคา 5-10 ล้านบาท ชื่อโครงการ "สิริ อเวนิว เพชรเกษม 81" จำนวน 93 ยูนิต มูลค่า 530 ล้านบาท

นายสุรเชษฐ กองชีพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยคอลลิ เออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า ศักยภาพของพื้นที่ ฝั่งธนบุรีจะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะตั้งการก่อสร้างของเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์และเพชรเกษมที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี พ.ศ.2562-2563 รวมไปถึงเส้นทางรถไฟฟ้าสายอื่นๆ เช่น สายสีส้มตะวันตก สายสีม่วงตอนใต้ ที่มีการอนุมัติและกำลังจะเริ่มก่อสร้างในอนาคต รวมไปถึงสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายไปยังพุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งทั้ง 2 เส้นทางจะเข้ามาเสริมศักยภาพของพื้นที่ฝั่งธนบุรีให้มากขึ้นไปอีกรวมไปถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาและเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีทองที่เข้ามาเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งจะเห็นโครงการของผู้ประกอบการในพื้นที่ตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ มีบางโครงการเปิดขายในราคามากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร.

 
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ