ลุมพินีฯ รุกบริหารโครงการนอกLPN เผยกว่า50แห่งเสนอให้เข้าบริหารตึก
ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ฯ สยายปีกรับงานนอก หลังบริหารอาคารให้ LPN มากว่า 20 ปี 400 อาคาร เผยมีกว่า 50 โครงการเสนอให้บริหารอาคารให้ พร้อมเปิดเกณฑ์ 5 ข้อรับบริหารอาคาร ตั้งเป้าปีแรกรับ 15 โครงการ เป้ารายได้ 520 ล้านบาท
นางสาวสมศรี เตชะไกรศรี กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด (LPP) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) LPN เปิดเผยว่า LPP เป็นบริษัทดูแลงานบริการหลังการขายและบริหารโครงการของ LPN ภายใต้กลยุทธ์ "ชุมชนน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย" ซึ่งเป็นจุดแข็งของแบรนด์ "ลุมพินี" ตามคุณค่าการบริการหลังการขาย (FBLES+P) โดยได้พัฒนาการบริหารชุมชนที่เป็นโครงการคอนโด มิเนียมของ LPN มากว่า 25 ปี จนปัจจุบัน LPP บริหารโครงการในมือ 143 โครงการ 400 อาคาร กว่า 130,000 ครอบครัว
การบริหารชุมชนถือเป็นจุดแข็งของ LPP ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะรับบริหารโครงการอาคารชุดที่เป็นโครงการของผู้ประกอบการรายอื่น โดยตั้งเป้าในปีแรกรับบริหาร 15 โครงการ ตั้งเป้าหมายรายได้ 520 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมีโครงการมาเสนอให้บริษัทเข้าไปบริหารโครงการให้เกือบ 50 โครงการ รับเข้ามาบริหารแล้ว 3 โครงการ ได้แก่ ศุภาลัย พรีม่า 4-5 อาคาร, เซ็นทริก และศุภาลัยปาร์ค เอกมัย-ทองหล่อ นอกจากนี้ยังมีโครงการของบริษัทอนันดา ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) อีกราว 3-4 โครงการที่จะให้บริษัทบริหารอาคารให้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่วมวางแผนบริหารอาคาร
"งานบริหารอาคารต้องเกี่ยวข้องกับ 3 ฝ่าย คือ ชุมชนผู้อยู่อาศัย ซึ่งเราต้องให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตผู้พักอาศัย เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุด และทีมงานของเราคือฝ่ายบริหารซึ่งทั้ง 3 ฝ่ายต้องไปด้วยกัน หากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีความเห็นที่แตกต่างหรือไปด้วยกันไม่ได้ การบริหารชุมชนก็จะไม่เกิดขึ้น" นางสาวสมศรีกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกบริษัทได้กำหนดคุณสมบัติเบื้องต้นของโครงการที่จะเข้าไปบริหาร ได้แก่ 1.อาคารต้องมีอายุไม่เกิน 3 ปี เนื่องจากต้องจัดทำแผนในการซ่อมบำรุงงานระบบระยะ 5 ปี ซึ่งงานซ่อมบำรุงบางประเภทต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงต้องมีการวางแผนเก็บเงินค่าส่วนกลางเพื่อไว้ใช้ในการซ่อมบำรุงล่วงหน้า
2.จำนวนไม่เกิน 1,000 ยูนิต ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไป, 3.ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง ไม่น้อยกว่า 35 บาท/ตร.ม. หากราคาต่ำกว่านี้ การบริหารจัดการจะไม่มีประสิทธิภาพ 4.มีเงินกองทุน 100% 5.คณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ในการให้ LPP เป็นผู้บริหารโครงการ เพื่อลดความกดดันในการบริหาร ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าวถือเป็นเกณฑ์เบื้องต้น เพื่อประกอบการพิจารณารับบริหารโครงการ เพื่อให้การบริหารอาคารชุดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในอนาคตหากบริษัทได้วางระบบบริหารจัดการอาคารของโครงการภายนอกดีแล้วอาจขยายไปรับบริหารโครงการที่มีอายุอาคารที่มากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะขยายรับงานบริหารอาคารในต่างจังหวัด ที่มีโครงการของ LPN อยู่อีกด้วย
"LPP เกิดมาเพราะ LPN ต้องการให้เกิด เพื่อต้องการให้ LPP บริหารชุมชน บริหารหลังการขายให้ลูกค้าหรือลูกบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพ โดยโครงการแรกที่ LPP บริหารคือ อาคารลุมพินี ทาวเวอร์ ซึ่งพัฒนาเป็นอาคารชุดสำนักงานสร้างเสร็จเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ปัจจุบันบริษัทยังบริหารอยู่ ซึ่งอนาคต LPN มีแนวคิดที่จะพัฒนาอาคารชุดสำนักงานขึ้นมาในทำเลที่มีศักยภาพแต่อยู่รอบนอกเมือง โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นบริษัทขนาดกลาง-ขนาดเล็กที่มีความต้องการอาคารสำนักงานเป็นของตนเอง"
นางสาวสมศรี กล่าวต่อว่า อนาคตเมื่อ LPN ขยับไปพัฒนาสินค้าในระดับกลาง-บน LPP ก็พร้อมที่จะรับบริหารอาคารให้ แต่จะต้องปรับรูปแบบการบริหาร ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวให้มากที่สุด โดยจะทำการสำรวจจากความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ซึ่งบริษัทมีเวลาเตรียมพร้อมนับ จากวันที่ลูกค้าซื้อไปจนถึงก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมทั้งยกระดับบุคลากรเพื่อให้การบริหารอาคารมีประสิทธิภาพตรงความต้องการของลูกค้าที่มีเฉพาะกลุ่ม