CPNเตรียมเปิดขายคอนโดฯ Q4ผุดศูนย์การค้าใหม่2แห่ง
CPN ปรับเป้ารายได้ปี 60 เหลือโต 6% จากเดิมคาดโต 6-8% จากผลกระทบปิดปรับปรุงศูนย์การค้า แย้มไตรมาส 4/60 ลุยขายคอนโดมิเนียมเอสเซ็นท์ 3 โครงการ มูลค่า 2,000 ล้านบาท พร้อมเปิดศูนย์การใหม่อีก 2 แห่ง
นางสาวปัทมิกา พงศ์สูรย์มาส ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการเงิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยว่า บริษัทตั้งรายได้ในปี 2560 เติบโต 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2559 ที่มีรายได้ 30,113 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้โต 6-8% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการปิดปรับปรุงในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
สำหรับในช่วงไตรมาส 3/60 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้น้อยที่สุดในปีนี้ หรือลดลง 1% ของรายได้รวม เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูฝน และค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) สูงขึ้น ประกอบกับการอยู่ระหว่างการปิดปรับปรุงในส่วนของศูนย์การค้าเซ็นทรัล 5 โครงการ แบ่งเป็น ภายใต้การดูแลของ CPN จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต และอีก 3 โครงการของกองทุนกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ CPN รีเทล โกรท (CPNRF) ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3, เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัลพลาซา พระราม 2
ขณะที่แนวโน้มในช่วงไตรมาส 4/60 จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 3/60 โดยการปรับปรุงในส่วนของศูนย์การเซ็นทรัลเวิลด์ได้แล้วเสร็จถึง 70% ประกอบกับมีการเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ 2 แห่ง ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา และเซ็นทรัลพลาซา มหาชัย ซึ่งจะเปิดในช่วงเดือน พ.ย. 60
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการทำตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 4/60 เนื่องจากมีเทศกาลสำคัญ เช่น เทศกาลคริสต์มาส, เทศกาลปีใหม่ โดยปัจจุบัน CPN มีศูนย์การค้ารวมอยู่ที่ 30 สาขา แบ่งเป็น 13 สาขา ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และ 17 สาขา ในต่างจังหวัด อีกทั้งยังมีศูนย์อาหารจำนวน 26 แห่ง, อาคารสำนักงานให้เช่า 7 อาคาร, โรงแรม 2 แห่ง และอาคารที่พักอาศัย 1 โครงการ
อีกทั้งบริษัทจะเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ ในช่วงไตรมาส 4/60 บริเวณพื้นที่ศูนย์การค้าของ CPN ภายใต้แบรนด์ เอสเซ็นท์ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเอสเซ็นท์ เชียงราย จำนวน 312 ยูนิต, เอสเซ็นท์ นครราชสีมา จำนวน 380 ยูนิต และ เอสเซ็นท์ เชียงใหม่ จำนวน 450 ยูนิต คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทในปี 2562
ขณะเดียวกันโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ เอสเซ็นท์ เชียงใหม่ จำนวน 400 ยูนิต, เอสเซ็นท์ ขอนแก่น จำนวน 408 ยูนิต และเอสเซ็นท์ ระยอง จำนวน 419 ยูนิต มูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดจองซื้อ 100% แล้ว และคาดว่าจะทยอยโอนให้กับลูกค้าได้ในช่วงไตรมาส 1/60 และไตรมาส 2/60
นางสาวปัทมิกา กล่าวว่า บริษัทตั้งงบการลงทุนในปี 2561 อยู่ที่ 15,000-17,000 ล้านบาท เพื่อเปิดโครงการใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ 1.โครงการในต่างประเทศแห่งแรกชื่อ “เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้” ในประเทศมาเลเซีย โดยมีบริษัทถือหุ้น 60% และ I-R&D Sdn. Bdn ถือหุ้น 40%, 2.ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต และอีก 1 แห่งอยู่ระหว่างพิจารณา
ทั้งนี้ในระยะ 5 ปี บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตในอัตราเฉลี่ย (CAGR) 14-15% ต่อปี เพื่อกำหนดทิศทางการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการพัฒนาโครงการศูนย์การค้า 2-3 แห่งต่อปี และพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการต่อปี
พร้อมทั้งปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ปัจจุบันให้มีมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งมองหาการลงทุนในต่างประเทศที่มีศักยภาพ เพื่อการเติบโตตามเป้าหมายอย่างมั่นคง
นอกจากนี้บริษัทได้มีแผนแปลงสภาพกองทุน CPNRF เป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/60 อีกทั้งมีแผนขายสินทรัพย์เข้ากอง REIT เพิ่มเติม เช่น ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยาบีส และโรงแรมฮิลตัน พัทยา มูลค่าทรัพย์สิน 11,908 ล้านบาท ซึ่งจะมีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุน CPNRF ในวันที่ 28 ส.ค. 60