PFการันตีรายได้ครึ่งปีหลังเด้ง เล็งผุด 10 โครงการ มูลค่า 1.63 หมื่นล้าน
PF มั่นใจยอดขาย-รายได้ครึ่งปีหลังแจ่ม! หลังจ่อบุ๊คแบ็กล็อก 4,000 ล้านบาท ส่งซิกไตรมาส 4 รายได้นิวไฮรอบปีนี้ เหตุรับรู้รายได้โอนคอนโดฯ เพิ่มขึ้น เดินหน้าเปิดใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 16,368 ล้านบาท
นายธีรธัชช์ สิงห์ณรงค์ธร ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มสนับสนุน บริษัทพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก ทั้งยอดขาย (Presale) และรายได้ โดยคาดว่าช่วงไตรมาส 4/60 จะเป็นไตรมาสที่มีรายได้เติบโตสูงสุด (นิวไฮ) ของปีนี้ เนื่องจากจะมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมียอดรอรับรู้รายได้ (Backlog) ในมือมูลค่ารวมประมาณ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็น จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 3,000 ล้านบาท และโครงการแนวราบประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะขายที่ดินให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการขายที่ดินอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ล่าสุดบริษัทเตรียมขายที่ดินย่านลาดพร้าว มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท ซึ่งผู้ซื้อได้วางเงินมัดจำไว้แล้ว คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้เข้ามาในช่วงที่เหลือของปีนี้
สำหรับรายได้รวมปีนี้ บริษัทยังมั่นใจจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 18,860 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้รวมแล้ว 6,361.57 ล้านบาท จากการทยอยส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่อง
ส่วนยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทคาดว่าจะเติบโตมากขึ้น ตามการเปิดตัวโครงการ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายรวมอยู่ที่ 5,600 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่แล้ว จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 4,740 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมั่นใจยอดขายปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 16,600 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จำนวน 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 16,368 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,430 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,938 ล้านบาท
“ในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อาจจะเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากมีปัจจัยกดดันในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ทำให้ความเชื่อมั่นยังไม่ฟื้นกลับมา และกำลังซื้อยังคงมีการชะลอตัวอยู่ ขณะที่การให้สินเชื่อยังคงมีความเข้มงวด หลังจากสถาบันการเงินมีแนวโน้มสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) เพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่ออัตราการปฏิเสธสินเชื่อของระบบสูงถึง 20%” นายธีรธชช์ กล่าว
นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรต่างชาติ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งพันธมิตรจะเป็นผู้ที่มีเงินทุนและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างเตรียมนำบริษัท วีรีเทล จำกัด (มหาชน) หรือ WR กลับมาซื้อขาย (เทรด) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง โดยเบื้องต้นบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการพัฒนาโครงการค้าปลีกให้กับ WR โดยคาดจะใช้เวลาระยะหนึ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนกลับมาเทรดใหม่