การเคหะแห่งชาติยิ้มออก หลังคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติไฟเขียวรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 2 และให้ดำเนินมาตรการรื้อถอนแฟลต 18-22 ตามรายงานฯ อย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งให้เพิ่มพื้นที่สีเขียวบนอาคารและโดยรอบโครงการ คาดว่าจะเริ่มวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอาคารแปลง A และแปลง D1 ภายในเดือนเมษายน 2563

          ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ได้พิจารณาเห็นชอบรายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 2 (แปลง A และแปลง D1) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยให้การเคหะแห่งชาติดำเนินมาตรการต่างๆ ตามที่ระบุในรายงาน ทั้งก่อนรื้อถอนอาคารเก่า ขณะก่อสร้างอาคารใหม่ และหลังก่อสร้าง รวมทั้งให้พิจารณาเพิ่มพื้นที่สีเขียวบนอาคารใหม่ (Roof Garden) และโดยรอบโครงการ

          "แม้จะเป็นโครงการของรัฐในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น รวมทั้งแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของพื้นที่และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินให้หลากหลาย แต่เราก็ต้องดำเนินการภายใต้กรอบการลดผล กระทบสิ่งแวดล้อมเช่นกัน"

          อาคารที่จะรื้อถอนบริเวณแปลง A ประกอบด้วย แฟลต 18-20 ส่วนแปลง D1 ประกอบด้วย แฟลต 21-22 หลังจากนี้จะยื่นเรื่องขอรื้อถอนจากสำนักการโยธา กทม.ใหม่ เนื่องจากใบอนุญาตเดิมหมดอายุ คาดว่าจะสามารถวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโครงการได้ภายในเดือนเมษายน 2563

          สำหรับโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงระยะที่ 2 ประกอบด้วย อาคาร A1 สูง 32 ชั้น 1 อาคาร 635 หน่วย และอาคาร D1 สูง 35 ชั้น 1 อาคาร 612 หน่วย รวม 2 อาคาร 1,247 หน่วย

          โครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดงเป็นโครงการที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ความสำคัญ และขับเคลื่อนร่วมกับการเคหะแห่งชาติจนประสบผลสำเร็จ โดยนำร่องโครงการฟื้นฟูเมืองชุมชนดินแดง ระยะที่ 1 หรือแปลง G จนก่อสร้างแล้วเสร็จและมีผู้อยู่อาศัยเดิมย้ายเข้าไปอยู่จนครบ 334 หน่วยแล้ว.