ต่างชาติทิ้งอสังหาฯ50%
Loading

ต่างชาติทิ้งอสังหาฯ50%

วันที่ : 17 มิถุนายน 2563
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ชี้ อสังหาฯ ไตรมาสสองกระอักหนัก - เชียงใหม่ หลุดท็อปไฟว์
   
          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ในปี 63 นี้ คาดว่ามีชาวต่างชาติจะเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองไทยลดลงไปกว่า 50% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่มียอดโอนจำนวนมากถึง 12,609 หน่วย ด้วยมูลค่า 49,728 ล้านบาท หรือยอดรายได้หายไปเกือบ 25,000 ล้านบาท เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อ ไวรัสโควิด ทำให้ไทยและทั่วโลกมีการปิดประเทศหลายเดือน และยังกระทบต่อเนื่องต่อเศรษฐกิจโลก รวมทั้งกำลังซื้อจากชาวต่างชาติให้หดตัวตามไปด้วย

          ทั้งนี้ เห็นได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติทั่วประเทศในไตรมาสที่ 1 ปี 63 ลดลงทั้งจำนวนหน่วย และมูลค่า โดยมีจำนวนหน่วยมีการโอนซื้อที่อยู่อาศัย 2,649 หน่วย ลดลง 23.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีก่อนที่มีการโอน 3,481 หน่วย และมีมูลค่า 10,664 ล้านบาท ลดลงไป 19.7% จากปีก่อนที่มี 13,274 ล้านบาท

          โดยส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่ซื้อลดลงมากสุดเหลือเพียง 1,446 หน่วย น้อยกว่าไตรมาสแรกของปีก่อนหน้าที่มียอดโอนถึง 2,097 หน่วย ถึง 31% ส่วนไตรมาสสองคาดว่าการโอนซื้อที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติจะลดลงกว่าไตรมาสแรกอีก เนื่องจากอยู่ช่วงสถานการณ์ล็อกดาวน์ประเทศอย่างเต็มตัว

          นายวิชัย กล่าวว่า สถิติชาวต่างชาติที่มีการโอนซื้อที่อยู่อาศัยในไทยมากสุด 10 อันดับแรก ในไตรมาสแรกปี 63 พบว่าชาวจีนแม้จะมียอดลดลง แต่ก็ยังมามากเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีการโอนซื้อสูงสุดที่ 1,446 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนของทั้งหมด 54.6% รองลงมาเป็นชาวรัสเซีย 247 หน่วย สหราชอาณาจักร 111 หน่วย ฝรั่งเศส 90 หน่วย เยอรมนี  59 หน่วย ญี่ปุ่น 65 หน่วย สหรัฐอเมริกา 60 หน่วย สิงคโปร์ 42 หน่วย ไต้หวัน 40 หน่วย และออสเตรเลีย 40 หน่วย

          ทั้งนี้ทำเลที่ได้รับความนิยมของชาวต่างชาติ อันดับหนึ่งยังเป็นคอนโดมิเนียมย่านรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากมีความสะดวก และให้ผลตอบแทนในการลงทุนดี เพราะมีราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี รองลงมาเป็นคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยว และเมืองตากอากาศ ได้แก่ ชลบุรี  ภูเก็ต สมุทรปราการ และ ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทำเลส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมมีความใกล้เคียงกับปี 61-62 ยกเว้นจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับความนิยมลดลงจนไม่ติด 5 อันดับแรก

          ส่วนลักษณะที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยม พบว่าส่วนใหญ่ยังนิยมซื้อคอนโดมิเนียม เนื่องจากกฎหมายประเทศไทยอนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อได้ไม่เกิน 49% ของพื้นที่อยู่อาศัยทั้งหมดของโครงการ ส่วนกรณีการซื้อบ้านพักตากอากาศ บ้านเดี่ยวจะใช้วิธีการเช่าระยะยาว 30 ปีขึ้นไปแทน

          นายวิชัยกล่าวว่าสำหรับภาพรวมหน่วยเหลือขายอสังหาฯ สิ้นปี 62 ที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 1.75 แสนหน่วย คิดเป็นมูลค่ามากถึง 7.65 แสนล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในจำนวนนี้เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 60,716 หน่วย ซึ่งจะทยอยสร้างเสร็จในช่วงปี 63 -64 มีสัดส่วนถึง 30% โดยที่อยู่อาศัยที่เหลือขายพบว่า ส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯ อยู่ที่ 76,254 หน่วย รองลงมาเป็นทาวน์เฮาส์ จำนวน 56,213 หน่วย บ้านเดี่ยว จำนวน 28,182 หน่วย บ้านแฝดจำนวน 12,285 หน่วย และอาคารพาณิชย์ จำนวน 2,820 หน่วย