WHA ต่างชาติจีบซื้อที่ดิน จับตาผลงานปี65ทุบสถิต
Loading

WHA ต่างชาติจีบซื้อที่ดิน จับตาผลงานปี65ทุบสถิต

วันที่ : 30 กันยายน 2565
บริษัทมีลูกค้าต่างชาติที่อยู่ระหว่างการเจรจาและรอเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงร่วมกับลูกค้ามากกว่า 30-40 ราย คิดเป็นพื้นที่รวมมากกว่า 3,000-4,000 ไร่ ซึ่งก็คาดหวังว่าในช่วงที่เหลือของปี 2565 จะทยอยได้ข้อสรุปเพิ่มเติม
           WHA เนื้อหอม! ลูกค้าต่างชาติรุมจีบซื้อที่ดินในนิคมกว่า 30-40 ราย รวมพื้นที่มากกว่า 3-4 พันไร่ ฟุ้งอาจมีบิ๊กดีลใช้พื้นที่มากกว่าพันไร่ อวดแบ็กล็อกในมือสิ้นปี 2565 ยืนเหนือ 900-1,000 ไร่ รอโอนในปีถัดไป เล็ง ขายสินทรัพย์ขนาด 208,000 ตร.ม. เข้ากองทรัสต์ WHART- WHAIR มูลค่ารวม 5.4 พันล้านบาท ในโค้ง 4/2565 มั่นใจรายได้-ส่วนแบ่งกำไรปกติ ปี 2565 โต 20% ทำ All-Time High

          นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าจากสถานการณ์สงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐ จีน และ ไต้หวัน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและ ยูเครน สงครามระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ทำให้ผู้ประกอบการมองหาแผน B คือ การย้ายฐานทุนและฐานการผลิตออกมายังกลุ่มประเทศอื่นๆ ซึ่งทั้งประเทศไทยและเวียดนาม เป็นประเทศที่มีความพร้อมและดึงดูดการลงทุนมากที่สุด

          จีบซื้อบิ๊กล็อต

          ประกอบกับจากการกลับมาเปิดประเทศของไทยทำให้มีนักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาสำรวจพื้นที่ในการลงทุนได้มากขึ้น ทั้งนี้ บริษัทมีลูกค้าต่างชาติที่อยู่ระหว่างการเจรจาและรอเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงร่วมกับลูกค้ามากกว่า 30-40 ราย คิดเป็นพื้นที่รวมมากกว่า 3,000-4,000 ไร่ ซึ่งก็คาดหวังว่าในช่วงที่เหลือของปี 2565 จะทยอยได้ข้อสรุปเพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทยังมีลูกค้าต่างชาติรายใหญ่ที่มีความต้องการซื้อที่ดินมากกว่า 1,000-3,000 ไร่ อีกด้วย

          โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2565 บริษัทมียอดขายที่ดินที่รอการทยอย โอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ในมืออยู่มากกว่า 600 ไร่ หากรวมกับการเซ็นสัญญา ขายที่ดินให้กับทางบริษัท บีวายดี (ประเทศ ไทย) จำกัด หรือ BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 600 ไร่ ส่งผลให้ยอดแบ็กล็อกที่มีในมือปัจจุบันสูงมากกว่า 1,000 ไร่ไปแล้ว โดยคาดว่าบางส่วนจะสามารถทยอยโอนได้ในปี 2565 และมากกว่าครึ่งจะทยอยโอนได้ทั้งหมดในปี 2566 เป็นต้นไป ในส่วนของการโอนที่ดินของ BYD คาดแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 1/2566

          ขณะที่ยอดโอนในปี 2565 มั่นใจว่าจะ ทำได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ 1,000-1,100 ไร่ หลังจากที่ไทยมีการคลายล็อกดาวน์และเปิดประเทศ ทำให้ลูกค้าสามารถเดินทางเข้ามาเจรจาและสำรวจที่ดินได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจึงไม่มีอุปสรรคในการขายเหมือนช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สำหรับยอดขายที่ดินนับตั้งแต่มกราคม 2565 จนถึงปัจจุบันบริษัททำได้มากแล้ว 1,400 ไร่ จากเป้าหมายใหม่ในปีนี้ที่ขยับขึ้นเป็น 1,650 ไร่ ทำ All-Time High

          ในประเทศเวียดนาม หลังจากประสบความสำเร็จจากโครงการในจังหวัดเหงะอาน ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ โดยในโซน 1 เหงะอาน เฟส 1 ขนาด 900 ไร่ ได้พัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้ว ครบครันด้วยโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และการดูแล สิ่งแวดล้อมคุณภาพสูงสุด พื้นที่กว่า 76% ของเฟส 1 ได้ปล่อยเช่าให้กับลูกค้าในภาค อุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ชิ้นส่วนยานยนต์ การแปรรูปอาหาร พลังงานแสงอาทิตย์ วัสดุก่อสร้าง และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

          และจากการคาดการณ์ความต้องการ ที่ดินอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น บริษัทจึงเร่งก่อสร้างเฟส 2 ขนาด 2,215 ไร่ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง รวมถึง บริษัทกำลังวางแผนที่จะพัฒนาเขตนิคมอุตสาหกรรม ขนาด 5,625 ไร่ รวมส่วน ต่อขยายในจังหวัดถั่งหัว (Thanh Hoa) ซึ่งอยู่ในระหว่างการขออนุมัติโครงการ อีกทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้ลงนามบันทึก ความเข้าใจสำหรับโครงการนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 3 ในประเทศเวียดนาม ที่จังหวัดกว๋างนาม (Quang Nam) บนพื้นที่ขนาด 2,500 ไร่ รองรับความต้องการในอนาคต

          ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลประกอบการ ในปี 2565 จะสูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตของรายได้ รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติจะอยู่ที่ไม่น้อยกว่า 20% และกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) มากกว่า 40% โดยในไตรมาสที่ 4/2565 นี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขายสินทรัพย์ขนาด 208,000 ตารางเมตร มูลค่ารวม 5,400 ล้านบาท ประกอบด้วยเข้ากองทรัสต์ WHART ขนาด 159,963 ตารางเมตร มูลค่า 4,050 ล้านบาท และ เข้ากอง WHAIR ขนาด 48,186 ตารางเมตร มูลค่า 1,350 ล้านบาท อีกด้วย

          เปิดตัว META W

          บริษัทวางเป้าหมายที่จะก้าวเป็นบริษัทเทคโนโลยีในปี 2567 โดยได้สร้างโรดแมปด้วยการเปลี่ยนแปลงการด้าน เทคโนโลยีเข้ามาช่วย รวมถึงแผนการเปิดตัว META W เมตะเวิร์สอุตสาหกรรมรายแรก ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า และเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของบริษัทในยุคดิจิทัล ในช่วงเดือนพฤศจิกายน หรือไม่เกินเดือนธันวาคม 2565 จะได้เห็นความชัดเจน
 
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ