แห่ขายบ้าน-คอนโดคึกคัก
Loading

แห่ขายบ้าน-คอนโดคึกคัก

วันที่ : 7 ตุลาคม 2565
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) พบว่า ประเภทบ้านมือสองที่มีการประกาศขายมากที่สุด ได้แก่ บ้านเดี่ยว รองลงมาคือ ห้องชุด และทาวน์เฮาส์ โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการขยายตัวสูงสุดไตรมาสต่อไตรมาสคือห้องชุด เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 21.1%
          ความสามารถซื้อที่อยู่อาศัยคนไทยลดฮวบ

          ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เผยผลสำรวจบ้าน-คอนโดมือสองไตรมาส 2 ปีนี้ พบมีจำนวนหน่วยและมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงสุดในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนราคาที่ประกาศขายมากสุดอยู่ที่ 1-3 ล้านบาท และทำเลใน กทม.ประกาศขายมากสุดคาดเป็นผลจากลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ และจดจำนองที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท สอดคล้องกับความสามารถผู้ซื้อที่ลดลง

          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า จากการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ในไตรมาส 2 ปี 65 พบว่า มีจำนวนหน่วยเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 162,716 หน่วย และมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนมากถึง 995,488 ล้านบาท ถือว่ามีจำนวนหน่วยและมูลค่าสูงที่สุดในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา และมีการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าถึง 17.9% โดยเพิ่มมากขึ้นในเกือบทุกประเภทที่อยู่อาศัย

          นอกจากนี้ การสำรวจยังพบว่าประเภทบ้านมือสองที่มีการประกาศขายมากที่สุด ได้แก่ บ้านเดี่ยว 64,392 หน่วย รองลงมาคือห้องชุด 49,250 หน่วย และทาวน์เฮาส์ 42,626 หน่วย โดยประเภทที่อยู่อาศัยที่มีการขยายตัวสูงสุดไตรมาสต่อไตรมาสคือห้องชุด เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 21.1% รองลงมาคืออาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้น 19.9% ทาวน์เฮาส์ เพิ่มขึ้น 17.1% และบ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 16.6% แต่บ้านแฝดเพิ่มขึ้นเพียง 1.9%

          ขณะเดียวกันยังพบอีกว่าบ้านมือสองที่ประกาศขายที่ระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีสัดส่วนมากที่สุด รองลงมาเป็นระดับราคา 3.01-5 ล้านบาท และราคา 2.01-3 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีข้อสังเกตว่าระดับราคาที่มีอัตราการขยายตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้ามากที่สุด 3 อันดับแรก คือระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า สูงถึง 56.1% รองลงมาคือระดับราคา 1.01-1.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.7% และระดับราคา 1.51-2.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.3% สะท้อนให้เห็นว่าบ้านมือสองในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นกลุ่มที่มีการประกาศขายมากขึ้นซึ่งอาจเป็นผลจากมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่ให้สิทธิครอบคลุมมาถึงที่อยู่อาศัยมือสองด้วยและสอดคล้องกับความสามารถของผู้ซื้อที่ลดลง

          สำหรับทำเลที่มีการประกาศขายบ้านมือสองมากที่สุด 10 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ ภูเก็ต ชลบุรี สุราษฎร์ธานี ปทุมธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ และนครราชสีมา เห็นได้ว่าจะอยู่ในจังหวัดขนาดใหญ่ที่มีการพัฒนาบ้านใหม่มากๆในช่วงที่ผ่านมา โดยกรุงเทพฯจังหวัดเดียวมีสัดส่วนจำนวนหน่วยมากถึง 38.6% และสัดส่วนมูลค่า 62.2% ของการประกาศขายทั้งหมด ขณะที่อันดับ 2-10 มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับมูลค่าและจำนวนหน่วยทั่วประเทศแต่ 10 จังหวัดนี้มีมูลค่ารวมกันมากถึง 90.2% ส่วนที่เหลืออีก 67 จังหวัด มีสัดส่วนมูลค่ารวมกันเพียง 9.8% เท่านั้น

          อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนสูงสุด 3 อันดับแรกคือ ชลบุรี มีอัตราการเปลี่ยนแปลง 20.6% รองลงมาคือ สมุทรปราการ 9.3% และกรุงเทพฯ 6.6 โดยจังหวัดอื่นๆมีอัตราการเปลี่ยนแปลง 2.3% แสดงให้เห็นว่าในจังหวัดรองต่างๆก็มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเช่นกัน