REIC กางปัจจัยลบแอลทีวี-ดอกเบี้ยพุ่ง กดอสังหาปี66แผ่ว
Loading

REIC กางปัจจัยลบแอลทีวี-ดอกเบี้ยพุ่ง กดอสังหาปี66แผ่ว

วันที่ : 20 กุมภาพันธ์ 2566
REIC ฟันธงตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 ระส่ำ กางปัจจัยลบอื้อ หวั่นหนี้ครัวเรือนสูง กังวล LTV ดอกเบี้ยพุ่งทะยาน กดความต้องการซื้อชะลอ มองบ้านจัดสรรราคา 2-3 ล้านบาทยังไปได้ ห่วงบ้านหรู 10 ล้านบาทอัปซับพลายล้น
       
          นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ปี 2566 มีแนวโน้มทรงตัวถึงติดลบ และยังคงเป็นปีตั้งหลักถึงปี 2567 ยังไม่พุ่งทะยานขึ้น โดยคาดการณ์ด้านอุปทานจะมีสภาวะทรงตัวถึงชะลอเล็กน้อย เนื่องจากได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปี 2564

          "ปี 2566 ยังมีปัจจัยลบต่อตลาดในหลายด้าน ตั้งแต่หนี้ครัวเรือนยังสูง ไม่ผ่อนปรนมาตรการ LTV จะกระทบต่อคนที่ต้องการมีการซื้อบ้านและการลงทุนหลังที่ 2 และ 3 ที่มีสัดส่วน 30% และมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ บาลที่ลดค่าโอนเหลือเพียง 1% ประกอบกับปีนี้เป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ที่อาจจะสูงขึ้นถึง 0.75-1% และราคาที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่จะปรับตัว ราคาขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมจากส่วนลดและของแถมที่น้อยลง" นายวิชัยกล่าว

          ทั้งนี้จึงคาดว่าปี 2566 ดัชนีรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีการปรับตัวลงจากปีก่อน -1.6% และหากมีปัจจัยบวกที่ดีกว่าที่คาดไว้อาจจะขยายตัวได้ถึง 8.2% แต่หากมีปัจจัยที่ส่งผลรุนแรงกว่าที่คาดไว้อาจจะติดลบได้ถึง -11.5% โดยตลาดปีนี้ยังคงเป็นของตลาดบ้านจัดสรรเป็นหลัก ในกลุ่มระดับราคา 2-3 ล้านบาท

          ขณะที่ที่อยู่อาศัยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เมื่อเทียบกับปี 2564 ในปีที่แล้วคอนโด มิเนียมขยายตัว 113% บ้านจัดสรรขยายตัว 259% หรือ 2.5 เท่าตัว ส่วนราคา 7-10 ล้านบาท ขยายตัว 113% หรือประมาณ 1 เท่าตัว สะท้อนให้ เห็นว่าตลาดกลุ่มนี้มีการขยายตัว แต่ดูจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั่วประเทศปีที่แล้วมี 7,000 ยูนิต แต่มีการเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 7,300 ยูนิต มีการตั้งข้อสังเกตว่าสมดุลกันหรือไม่

          "ในปีนี้จึงต้องพึงระวังเรื่องซัพพลายในตลาด หลังผู้ประกอบการหันมาเน้นทำตลาดบ้านหรูกันมากขึ้น เพราะบ้านราคาถูกมียอดปฏิเสธสินเชื่อค่อนข้างสูง จึงเกิดความกังวล" นายวิชัยกล่าว
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ