ต่างชาติซื้อคอนโดมูลค่าพุ่งรอบ5ปี
Loading

ต่างชาติซื้อคอนโดมูลค่าพุ่งรอบ5ปี

วันที่ : 25 มีนาคม 2566
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยว่า จะเห็นได้ว่าตลาดห้องชุดคนต่างชาติในภาพรวมมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นแล้ว ทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ที่ซื้อห้องชุดในช่วงก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง และยังมีแรงซื้อใหม่จากชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้ซื้อชาวจีน
          เฉียด2หมื่นล.'จีน' ยืนหนึ่ง 'พม่า' มาแรง

          ทำเล'กทม.-ชลบุรี' ฮอตโอนที่พักสูงสุด

         ต่างชาติทิ้งทวนปลายปี 65 โอนคอนโดคึกคักรอบ 4 ปี มูลค่าเฉียด 2 หมื่นล้าน สูงสุดรอบ 5 ปี จีน ยังยืนหนึ่ง พม่า มาแรง ราคาไม่เกิน 3 ล้านฮิต มือสองขายดี ทำเล กทม. ชลบุรี ฮอต

         วันที่ 23 มีนาคม นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยสถานการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั่วประเทศว่า ในไตรมาส 4 ปี 2565 มีจำนวน 3,780 หน่วย เพิ่ม 82.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงสุดในรอบ 16 ไตรมาส (ราว 4 ปี) นับจากไตรมาส 1 ปี 2562 มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ 19,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงสุดในรอบ 20 ไตรมาส (ราว 5 ปี) นับจากไตรมาส 1 ปี 2561

          "จะเห็นได้ว่าตลาดห้องชุดคนต่างชาติในภาพรวมมีทิศทางฟื้นตัวขึ้นแล้ว ทั้งการโอนกรรมสิทธิ์ที่ซื้อห้องชุดในช่วงก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง และยังมีแรงซื้อใหม่จากชาวต่างชาติที่ไม่ใช่ผู้ซื้อชาวจีน" นายวิชัยกล่าว

          นายวิชัยกล่าวว่า ยังพบว่าสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติเป็นห้องชุดมือสองเพิ่มมากขึ้นทั้งจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่ เทียบสัดส่วนการโอนห้องชุดใหม่ต่อห้องชุดมือสอง 66.2:33.8 มูลค่าการโอน 72.9:27.1 มีข้อสังเกตว่าคนต่างชาติมีความต้องการห้องชุดมือสองในทำเลพื้นที่ชั้นใน หรือพื้นที่ใกล้ศูนย์กลางธุรกิจของเมือง โดยราคาที่นิยมซื้ออยู่ในช่วงไม่เกิน 3 ล้านบาท มีการโอน 1,812 หน่วย คิดเป็น 47.9% ของจำนวนหน่วยทั้งหมด รองลงมาราคา 3.01-5 ล้านบาท 968 หน่วย หรือ 25.6% อีก 20.7% เป็นราคา 5.01-10 ล้านบาท และมากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป มี 345 หน่วย คิดเป็น 9.1%

          นายวิชัยกล่าวว่า จังหวัดที่หน่วยโอนสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ 5,260 หน่วย และชลบุรี 3,567 หน่วย คิดเป็น 30.9% ตามด้วยสมุทรปราการ ภูเก็ต และเชียงใหม่ ทั้งนี้ ชาวต่างชาติที่โอนมากที่สุดคือ จีน 5,707 หน่วย มูลค่า 29,038 ล้านบาท คิดเป็น 49.4% รองลงมา รัสเซีย 813 หน่วย มูลค่า 2,682 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 542 หน่วย มูลค่า 2,389 ล้านบาท สหราชอาณาจักร 393 หน่วย และฝรั่งเศส 351 หน่วย มูลค่า 1,912 ล้านบาท และพม่า มีมูลค่าโอนสูงถึง 2,551 ล้านบาท โดยปี 2565 มีมูลค่าโอนห้องชุดสะสมติดอันดับ 1 ใน 5 ขณะที่ชาวจีนสัดส่วนการโอนปรับลดลงเหลือประมาณ 50% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ประมาณ 55-60% คาดเป็นผลมาจากการดำเนินนโยบายซีโร่โควิดในประเทศจีน "ที่น่าสนใจมากคือตัวเลขของหลายประเทศในกลุ่มอาเซียนมีการโอนเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่าอย่างมีนัยยะ เช่น พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม และมาเลเซีย เมื่อจีนเปิดประเทศคาดว่าจะช่วยให้ตลาดอาคารชุดไทยเติบโตได้อีกครั้งในปีหน้า" นายวิชัยกล่าว--จบ--