วัน ออริจิ้น ขยายพอร์ตโรงแรม -รีเทล แตะ 5 หมื่นล้านใน 3 ปี
วันที่ : 13 พฤษภาคม 2566
วัน ออริจิ้น กางแผน 3 ปีขยายพอร์ตโรงแรมเพิ่ม 16 แห่ง ดันห้องพักเพิ่มเป็น 7,000 ห้องในปี 2568 รับท่องเที่ยวไทยเติบโต ส่งผลให้มูลค่าโครงการในธุรกิจโรงแรมและรีเทลแตะ 5 หมื่นล้านบาท จ่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในปีนี้
นายปิติ จารุกจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า วัน ออริจิ้น อยู่ระหว่างลงทุนธุรกิจโรงแรม รีเทล และอาคารสำนักงาน เพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้กับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ฯ โดยในช่วง 3 ปีนี้ (ปี 2566-2568) ในส่วนของธุรกิจโรงแรมซึ่งรายได้หลักกว่า 90% ของวัน ออริจิ้นจะลงทุนสร้างโรงแรมใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 16 แห่ง เพิ่มจำนวนห้องพักจาก 1,314 ห้องในปีที่ผ่านมา เป็น 7,000 ห้องในปี 2568 ส่งผลให้มูลค่าโครงการรวมสะสมโดยประมาณในธุรกิจโรงแรมและรีเทล ของ วัน ออริจิ้น เพิ่มจาก 5,620 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 5 หมื่นล้านบาทภายในปี 2568 เพราะมองเห็นถึงแนวโน้มการกลับมาของนักท่องเที่ยวหลังโควิด-19 ซึ่งฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดไว้นับจากไตรมาส 4 ปีที่แล้วเป็นต้นมา
"จะเห็นว่าการท่องเที่ยวของไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยมองว่าในอีก 3 ปีนี้การท่องเที่ยวของไทยก็จะยังคงสดใส ทำให้ วัน ออริจิ้น มองทิศทางการขยายการลงทุนโรงแรมไปยังเมืองท่องเที่ยวต่างๆเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเมืองที่มีตลาดด้านการศึกษาและแรงงาน นอกจากนี้ในปีนี้ยังมีแผนนบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย" นายปิติ กล่าว
นอกจากการลงทุนโรงแรมในกรุงเทพฯและพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ยังมองการลงทุนโรงแรมใหม่ไว้ที่ เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต เขาใหญ่ ขอนแก่น อุดรธานี ซึ่งบริษัทไม่มีปัญหาในการหาพื้นที่ลงทุน เนื่องจากเราไปเป็นองคาพยพ โดยหาพื้นที่แปลงใหญ่ที่เหมาะสมในการลงทุนบริษัทแม่อย่างออริจิ้น ก็จะซื้อที่ดิน เพื่อมาลงคอนโดมิเนียม หรือเรสซิเด้นท์ หากทำเลนั้นๆเหมาะสมที่จะทโรงแรม ก็แบ่งพื้นที่ให้วัน ออริจิ้นพัฒนาเป็นโรงแรม รีเทล หรืออาคารสนักงานก็ได้ ทั้งยังทำให้เรามีต้นทุนในการก่อสร้างที่ดี หรือบางพื้นที่เหมาะสมที่จะทำแค่โรงแรม เราก็เข้าไปพัฒนาได้ซึ่งแนวทางก็มองไว้ทั้งสร้างใหม่ หรือซื้อธุรกิจโรงแรมที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุงใหม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับโอกาสในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทจะเปิดให้บริการโรงแรมจำนวน 6 แห่ง เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ 5 แห่ง ส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้จะมีจนวนโรงแรมเพิ่มจาก 1,314 ห้องเป็น 2,718 ห้อง ส่วนรีเทล จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายใต้แบรนด์พอร์ทโทเบลโล มอลล์ (Portobello)ที่แจ้งวัฒนะ และระยอง ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วนรีเทลที่อยู่ในโครงการมิกซ์ยูสก็จะใช้แบรนด์ว่า Neighbor ซึ่งมี 2 แห่งที่สุขุมวิท 24 และพญาไท ทำให้ในปีนี้เราจะมีพื้นที่รีเทลเพิ่มจาก 2,000 ตร.ม. เป็น 14,000 ตร.ม. มีมูลค่าโครงการจาก 5,620 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบาทในปลายปีนี้
สำหรับโรงแรมที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ทั้ง 6 แห่ง จะประกอบไปด้วย โรงแรม 2 แห่ง ขนาด 400 ห้องในพื้นที่พญาไท กรุงเทพฯด้านหน้าของโครงการพาร์ค พญาไท ที่กำลังพัฒนาเป็นโรงแรมอินดิโก้ 200 ห้อง และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ราว 200 ห้อง เพื่อเจาะตลาดคนละเซ็กเม้นท์ โดยร่วมทุนกับโตคิว แลนด์ เอเชีย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลทัล กรุงเทพฯ สุขุมวิท 241 ห้อง เปิดให้บริการต้นไตรมาส 4 รวมถึงโรงแรมเวลเนส สุขุมวิท 107 ขนาด 136 ห้องเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง 204 ห้อง ซึ่งร่วมลงทุนบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) บริษัทพัฒนาและบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในกลุ่มปตท.เปิดสิ้นปีนี้ และโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท 24 ขนาด 411 ห้อง เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อต้นปี
ส่วนการพัฒนาโรงแรมในช่วงปี 2567-2568 มีทั้งหมด 11 แห่ง ได้แก่ โรงแรมในย่านรามอินทรา ขนาด 341 ห้อง โรงแรมย่านสนามเป้า พื้นที่ 3.4 หมื่นตรม. ซึ่งร่วมลงทุนกับโตคิว แลนด์ เอเชียโรงแรมย่านบางนา 190 ห้อง โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท ศรีราชา 192 ห้อง โรงแรมย่านบางกะปิ 479 ห้อง โรงแรมในหัวหิน 258 ห้อง โรงแรมย่านศรีนครินทร์ 235 ห้อง โรงแรมในพื้นที่อมตะ ชลบุรี 701 ห้อง โรงแรมในพื้นที่เขาใหญ่ 140 ห้อง โรงแรมในพื้นที่พัทยา 653 ห้อง โรงแรมในพื้นที่ภูเก็ต 578 ห้อง ส่งผลให้มูลค่าโครงการรวมสะสมโดยประมาณเพิ่มเป็น 5 หมื่นล้านบาทภายในปี 2568
"จะเห็นว่าการท่องเที่ยวของไทยยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยมองว่าในอีก 3 ปีนี้การท่องเที่ยวของไทยก็จะยังคงสดใส ทำให้ วัน ออริจิ้น มองทิศทางการขยายการลงทุนโรงแรมไปยังเมืองท่องเที่ยวต่างๆเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเมืองที่มีตลาดด้านการศึกษาและแรงงาน นอกจากนี้ในปีนี้ยังมีแผนนบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย" นายปิติ กล่าว
นอกจากการลงทุนโรงแรมในกรุงเทพฯและพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ยังมองการลงทุนโรงแรมใหม่ไว้ที่ เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ภูเก็ต เขาใหญ่ ขอนแก่น อุดรธานี ซึ่งบริษัทไม่มีปัญหาในการหาพื้นที่ลงทุน เนื่องจากเราไปเป็นองคาพยพ โดยหาพื้นที่แปลงใหญ่ที่เหมาะสมในการลงทุนบริษัทแม่อย่างออริจิ้น ก็จะซื้อที่ดิน เพื่อมาลงคอนโดมิเนียม หรือเรสซิเด้นท์ หากทำเลนั้นๆเหมาะสมที่จะทโรงแรม ก็แบ่งพื้นที่ให้วัน ออริจิ้นพัฒนาเป็นโรงแรม รีเทล หรืออาคารสนักงานก็ได้ ทั้งยังทำให้เรามีต้นทุนในการก่อสร้างที่ดี หรือบางพื้นที่เหมาะสมที่จะทำแค่โรงแรม เราก็เข้าไปพัฒนาได้ซึ่งแนวทางก็มองไว้ทั้งสร้างใหม่ หรือซื้อธุรกิจโรงแรมที่มีอยู่เดิมมาปรับปรุงใหม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับโอกาสในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ในปีนี้บริษัทจะเปิดให้บริการโรงแรมจำนวน 6 แห่ง เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ 5 แห่ง ส่งผลให้ภายในสิ้นปีนี้จะมีจนวนโรงแรมเพิ่มจาก 1,314 ห้องเป็น 2,718 ห้อง ส่วนรีเทล จะเปิดให้บริการเพิ่มอีก 2 แห่ง ภายใต้แบรนด์พอร์ทโทเบลโล มอลล์ (Portobello)ที่แจ้งวัฒนะ และระยอง ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วนรีเทลที่อยู่ในโครงการมิกซ์ยูสก็จะใช้แบรนด์ว่า Neighbor ซึ่งมี 2 แห่งที่สุขุมวิท 24 และพญาไท ทำให้ในปีนี้เราจะมีพื้นที่รีเทลเพิ่มจาก 2,000 ตร.ม. เป็น 14,000 ตร.ม. มีมูลค่าโครงการจาก 5,620 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2 หมื่นล้านบาทในปลายปีนี้
สำหรับโรงแรมที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ทั้ง 6 แห่ง จะประกอบไปด้วย โรงแรม 2 แห่ง ขนาด 400 ห้องในพื้นที่พญาไท กรุงเทพฯด้านหน้าของโครงการพาร์ค พญาไท ที่กำลังพัฒนาเป็นโรงแรมอินดิโก้ 200 ห้อง และโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ราว 200 ห้อง เพื่อเจาะตลาดคนละเซ็กเม้นท์ โดยร่วมทุนกับโตคิว แลนด์ เอเชีย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลทัล กรุงเทพฯ สุขุมวิท 241 ห้อง เปิดให้บริการต้นไตรมาส 4 รวมถึงโรงแรมเวลเนส สุขุมวิท 107 ขนาด 136 ห้องเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง 204 ห้อง ซึ่งร่วมลงทุนบริษัท เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ จำกัด (EnCo) บริษัทพัฒนาและบริหารจัดการด้านอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในกลุ่มปตท.เปิดสิ้นปีนี้ และโรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท 24 ขนาด 411 ห้อง เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อต้นปี
ส่วนการพัฒนาโรงแรมในช่วงปี 2567-2568 มีทั้งหมด 11 แห่ง ได้แก่ โรงแรมในย่านรามอินทรา ขนาด 341 ห้อง โรงแรมย่านสนามเป้า พื้นที่ 3.4 หมื่นตรม. ซึ่งร่วมลงทุนกับโตคิว แลนด์ เอเชียโรงแรมย่านบางนา 190 ห้อง โรงแรมสเตย์บริดจ์ สวีท ศรีราชา 192 ห้อง โรงแรมย่านบางกะปิ 479 ห้อง โรงแรมในหัวหิน 258 ห้อง โรงแรมย่านศรีนครินทร์ 235 ห้อง โรงแรมในพื้นที่อมตะ ชลบุรี 701 ห้อง โรงแรมในพื้นที่เขาใหญ่ 140 ห้อง โรงแรมในพื้นที่พัทยา 653 ห้อง โรงแรมในพื้นที่ภูเก็ต 578 ห้อง ส่งผลให้มูลค่าโครงการรวมสะสมโดยประมาณเพิ่มเป็น 5 หมื่นล้านบาทภายในปี 2568
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ