ปีทอง'ภูเก็ต'ลงทุนพุ่งแสนล้าน 'อสังหาฯ-ร.ร.นานาชาติ'ผุดพรึบ
Loading

ปีทอง'ภูเก็ต'ลงทุนพุ่งแสนล้าน 'อสังหาฯ-ร.ร.นานาชาติ'ผุดพรึบ

วันที่ : 22 เมษายน 2567
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯภูเก็ต ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน จึงฟื้นตัวเร็วและแรงที่สุด ทั้งอุปสงค์และอุปทานของที่อยู่อาศัยทุกประเภท คาดจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2567
         กว่า 100,000 ล้านบาท คือ มูลค่าการลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์บนพื้นที่ "ภูเก็ต" ในปี 2566 ที่สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ น่าจะเป็นการยืนยันถึงความฮอตร้อนแรงของ "ภูเก็ต" ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีภูเก็ต ไข่มุกอันดามัน สวรรค์เมืองใต้ ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดกาล ทำให้สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์หรือภาคการท่องเที่ยวฟ้นแรงและเร็วกว่าใคร หลังวิกฤตโควิดจบ

         นอกจาก "การท่องเที่ยว" ที่เป็นตัวบูสต์ตลาดแล้ว ยังได้อานิสงส์จากสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ลากยาวข้ามปี รวมถึงสงครามเมียนมา และตะวันออกกลาง เป็นแรงส่งให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ตคึกคักมากขึ้นในเวลานี้ จากดีมานด์ต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียม และบ้านวิลล่า เป็นบ้านหลังที่สอง เพื่ออยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า ทำให้บิ๊กแบรนด์อสังหาฯจากกรุงเทพฯและในพื้นที่ ขยับการลงทุนอีกระลอก

         "ภัทรชัย ทวีวงศ์" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯในพื้นที่เกาะภูเก็ตยังคงคึกคักต่อเนื่องในปี 2567 ผู้พัฒนารายใหญ่ทั้งจากกรุงเทพฯและในพื้นที่ยังมองเห็นโอกาสการลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ จากปี 2566 ซึ่งฮอตมาก มีโครงการเปิดขายใหม่สูงสุดกว่า 100,000 ล้านบาท

         เป็นคอนโดมิเนียม 36 โครงการ จำนวน 8,743 หน่วย มูลค่ากว่า 49,559 ล้านบาท คาดในปี 2567 มีเปิดขายอีก 4,500 ยูนิต จากปัจจุบันในตลาดมีอยู่ระหว่างขาย 75 โครงการ รวม 22,253 ยูนิต ในโซนบางเทา เชิงทะเล รอบลากูน่า กมลา ราคา 5-10 ล้านบาท ส่วนบ้านตากอากาศ มี 61 โครงการ จำนวน 1,108 ยูนิต มูลค่า 51,002 ล้านบาท ราคาตั้งแต่ 30-70 ล้านบาท
  
         การพัฒนาโครงการส่วนใหญ่อยู่โซนบางเทา เชิงทะเล รอบลากูน่า และเป็นรายใหญ่จากกรุงเทพฯและในพื้นที่ เช่น บมจ.แสนสิริ บมจ. แอสเซทไวส์ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บจ. บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป บมจ.ไซมิส แอสเสท เป็นต้น ซึ่งทุกโครงการมียอดขายของต่างชาติเต็มโควต้า 49% แต่มีเปิดโอกาสการขายด้วยการขายแบบเช่าระยะยาว 30+30+30 ปี โดยรัสเซีย จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ยังเป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ล่าสุดเริ่มมีอิสราเอลที่หนีสงครามเข้ามาบ้าง ขณะที่ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 25-100 ล้านบาทต่อไร่

         "วิชัย วิรัตกพันธ์" ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯภูเก็ต ได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน จึงฟื้นตัวเร็วและแรงที่สุด ทั้งอุปสงค์และอุปทานของที่อยู่อาศัยทุกประเภท คาดจะมีการฟื้นตัวต่อเนื่องในปี 2567 ทั้งนี้ จากผลสำรวจในครึ่งหลังปี 2566 มีที่อยู่อาศัยเสนอขาย 12,869 หน่วย เพิ่มขึ้น 77.5% มูลค่า 91,519 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146.9% เป็นบ้านจัดสรร 3,020 หน่วย มูลค่า 15,817 ล้านบาท อาคารชุด 9,849 หน่วย มูลค่า 75,701 ล้านบาท มีที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาด 5,913 หน่วย เพิ่มขึ้น 1,087.3% มูลค่า 48,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,361.3%

         ส่วนจำนวนหน่วยขายได้ใหม่มี 4,364 หน่วย เพิ่มขึ้น 186.9% มูลค่า 28,336 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 342% มีหน่วยเหลือขาย 8,505 หน่วย เพิ่มขึ้น 48.5% มูลค่า 63,183 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 106.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 คาดการณ์ ปี 2567 จะมีที่อยู่อาศัยใหม่เข้ามาในตลาด 7,071 หน่วย มูลค่า 53,293 ล้านบาท มีหน่วยขายได้ใหม่ 6,037 หน่วย มูลค่า 35,651 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย 9,539 หน่วย มูลค่า 71,857 ล้านบาท

         ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุน ล่าสุด "อิสระ บุญยัง" กรรมการผู้จัดการบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ระบุว่า ได้ซื้อที่ดินโซนลากูน่าเพิ่ม มีแผนพัฒนาเป็นบ้านพูลวิลล่ากว่า 20 หลัง ตั้งราคาขาย หลังละกว่า 30 ล้านบาท เพื่อเป็นการทดลองตลาด โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนในพื้นที่ คาดว่าในช่วงปลายปี 2567 จะเริ่มเดินหน้าโครงการ เป็นการพัฒนาเพิ่มเติมจากเดิมที่บริษัทได้พัฒนาโครงการแนวราบอยู่ก่อนแล้ว

         แต่ที่น่าจะเป็นไฮไลต์ในปีนี้ น่าจะเป็นโครงการแบรนด์เดดเรสซิเดนซ์ วิลล่า ทำเลอ่าวกมลา จ.ภูเก็ต มูลค่า 12,000 ล้านบาท มีเพียง 25 หลัง ราคา 450-1,000 ล้านบาทต่อหลัง ของบริษัท ไรมอน แลนด์ จำกัด (มหาชน) ล่าสุด "เบร็นตัน จัสติน มอเรลโล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทออกมาตอกย้ำแผน เปิดขายเฟสแรก 9 หลัง แน่ภายในปี 2567 นี้
         
         "เมธาพงศ์ อุปัติศฤงค์" นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า กำลังซื้อที่อยู่อาศัยในตลาดภูเก็ต ยังคงมีต่อเนื่อง ทั้งจากดีมานด์คนไทยและต่างชาติ แต่สต๊อกในตลาดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะบ้านราคาแพง จากการที่เปิดขายใหม่ค่อนข้างมาก อย่างไรก็ดี ผลจากสงครามรัสเซียกับยูเครนทำให้มีรัสเซียมาซื้ออสังหาฯเพื่ออยู่อาศัยมากขึ้น

         "พัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล" อดีตนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวว่า ปัจจุบันมีต่างชาติเข้ามาซื้อคอนโดและวิลล่าในภูเก็ตเพิ่มขึ้น เพื่ออยู่อาศัยและลงทุนปล่อยเช่า ส่วนการหนีสงครามเป็นปัจจัยเสริม กลุ่มหลักยังคงเป็นจีนกับรัสเซีย ส่วนเมียนมาเริ่มเข้ามาบ้างแล้ว ล่าสุดมีนักพัฒนาอสังหาฯรายใหญ่ 1 ใน 5 ของประเทศเมียนมา มีความสนใจจะเข้ามาลงทุนโรงแรมและอสังหาฯในภูเก็ต

         โดยร่วมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกัน เนื่องจากมองว่าประเทศไทยมีพื้นที่ติดกับเมียนมาและเมื่อเทียบกับประเทศ อื่นๆ โดยรอบ ถือว่าเป็นประเทศไทยมีโอกาสและศักยภาพในการลงทุนมากกว่า คาดว่าจะใช้เงินลงทุนเป็นหลัก 1,000 ล้านบาทขึ้นไป

         อีกตลาดที่เติบโตไม่แพ้ตลาดอสังหาฯ คือ โรงเรียนนานาชาติในภูเก็ต ที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ล่าสุด มีจำนวนถึง 16 โรงเรียน จากเดิมมี 14 โรงเรียน โดยในเดือนสิงหาคม 2567 จะเปิดใหม่ 2 โรงเรียน ประกอบด้วย โรงเรียนนานาชาติร่วมฤดีวิเทศศึกษา ภูเก็ต ในหลักสูตร AERO World Language Standards And Benchmarks ของประเทศสหรัฐอเมริกา ระดับชั้นเตรียมอนุบาล Pre-Kindergarten 2 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 Grade 12 และโรงเรียนนานาชาติ เฮย์ สคูล ภูเก็ต HEI Schools Phuket International school โดยใช้หลักสูตรฟินแลนด์ HEI Schools Curriculum Accerditation ของประเทศฟินแลนด์ ระดับชั้นเตรียมอนุบาลถึงระดับชั้นอนุบาล 3

         รายงานข่าวจากผู้ประกอบการโรงเรียนนานาชาติ ในจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ตลาดมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังมีต่างชาติหนีสงครามย้ายครอบครัวมาอยู่อาศัยในภูเก็ตมากขึ้น และส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันในภูเก็ตมีนักเรียนต่างชาติอยู่ประมาณ 50% ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนจากประเทศจีนและรัสเซีย ส่วนที่เหลือ 50% เป็นคนในพื้นที่

         ขณะที่ค่าเทอมมีหลากหลายระดับ ตอบโจทย์ทั้งผู้ปกครองชาวต่างชาติและชาวไทย ได้แก่ ระดับหนึ่งซึ่งเป็นระดับสูงอยู่ระหว่าง 700,000 บาท ถึง 1.1 ล้านบาทต่อปี ระดับสอง อยู่ระหว่าง 350,000-700,000 บาทต่อปี และระดับสามจะต่ำกว่า 350,000 บาทต่อปี โดยต่างชาติที่ซื้อที่อยู่อาศัยในภูเก็ต จะส่งลูกเรียนในกลุ่มระดับหนึ่ง ส่วนกลุ่มระดับสองเป็นต่างชาติที่ทำงานอยู่ประเทศอื่น และจะส่งครอบครัวมาอยู่ภูเก็ต เช่น คนสิงคโปร์ จีน อินเดีย ส่วนกลุ่มระดับสามเป็นนักเรียนชาวไทย

 
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ