ชีพจรอสังหาฯเริ่มดีขึ้น! มหกรรมบ้านฯทำยอดขายพุ่งเฉียด 1.4 หมื่นล.
Loading

ชีพจรอสังหาฯเริ่มดีขึ้น! มหกรรมบ้านฯทำยอดขายพุ่งเฉียด 1.4 หมื่นล.

วันที่ : 6 พฤศจิกายน 2568
ORI เปิดเผยว่าตลอด 4 วันเต็ม บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายภายในงานทะลุ 1,100 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ออริจิ้น- บริทาเนีย แม้ในสภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยกลุ่มโครงการคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ ได้รับความสนใจมากที่สุด ที่มีคอนโดฯเลี้ยงสัตว์หลายทำเลมากถึง 25 โครงการ ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และโครงการลักชัวรีทำเลใจกลางเมือง เป็นต้น
   คอนโดฯมาแรง-'เอพี' นำโด่งกวาด3พันล.

   อสังหาริมทรัพย์

   แนวโน้มการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย จะมีปัจจัยหลักมาจากทิศทางการขยายตัวของภาพรวมเศรษฐกิจเป็นสำคัญเพราะจะมีการดึงดูดการลงทุนต่างๆ เข้าสู่ประเทศไทย และธุรกิจมีความเชื่อมั่นและมั่นใจต่อโอกาสที่จะเพิ่มเม็ดเงินลงทุน ทำให้เกิดการจ้างงานใหม่ๆ มีความต้องการในเรื่อง 'ที่อยู่อาศัย' ในรูปแบบต่างๆ เช่น คอนโดมิเนียม บ้านแนวราบ รวมถึง การสร้างรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้งแบบ ซื้อคอนโดฯไว้ปล่อยเช่า ในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น คอนโดฯใกล้มหาวิทยาลัย ใกล้โรงงานอุตสาหกรรม ใกล้ห้างสรรพสินค้า หรือใกล้ที่ตั้งของอาคารสำนักงานจำนวนมาก เช่น สุขุมวิท สาทร สีลมซึ่งแต่ละพื้นที่ จะมีกลุ่มลูกค้าที่มีความสามารถในการผ่อนค่าเช่าแตกต่างกัน เป็นต้น

   ซึ่งจากสถิติตลาดอสังหาฯ หลังสถานการณ์โควิด-19 พบว่า อสังหาฯกลับมาร้อนแรง เติบโตอย่างรวดเร็ว แม้จะไม่มากเท่าก่อนโควิด แต่เป็นสัญญาณเชิงบวก โดยยอดขายที่อยู่อาศัยในปี 2565 ยอดขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลขยายตัวสูงถึง 21.1% และสินเชื่อปล่อยใหม่ทั่วประเทศขยายตัว 14.1% แต่ในปี 2566 ยอดขายลดลง-15.6% และในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 ยอดขายรวมลดลง -21.6%

   และต่อเนื่องมาถึงปี 2568 ตลาดอสังหาฯ ก็ยังคงชะลอตัวลงเนื่องจากมีทั้งปัจจัยทางการเมือง การขาดต่อเนื่องในนโยบายการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างชัดเจน กลุ่มผู้ซื้อหลัก มีภาระหนี้สินที่อยู่ในระดับสูง ลูกค้าชาวจีน ที่เป็นผู้ซื้อใหญ่ในโควตาต่างชาติ ถูกจำกัดวงเงินในการนำเงินออกนอกประเทศ ขณะที่ โครงการที่อยู่อาศัย ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ที่อยู่ระหว่างการขาย ยังคงอยู่ในตลาดจำนวนมาก ยิ่งกดดันให้ ผู้ประกอบการต้องชะลอเปิดโครงการใหม่ โดย ในครึ่งแรกของปี 68 เปิดตัวใหม่เพียง 15,484 หน่วย ต่ำที่สุดในรอบ 23 ปี ขณะที่มูลค่ารวมโครงการใหม่ต่ำสุดในรอบ 16 ปี สะท้อนกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัว ต่างกับตลาดบ้านเดี่ยวยัง เป็นดาวเด่น ครองสัดส่วนมูลค่ากว่า 60% ในตลาดใหม่ สวนทางคอนโดฯ และทาวน์เฮาส์ที่ลดลง

   แม้ตลาดภาพรวมอสังหาฯจะชะลอตัวลง แต่ในเมืองท่องเที่ยวยังคงได้รับความนิยม โดยเฉพาะในภูเก็ต ที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการเข้าไปลงทุนของดีเวลลอปเปอร์จาก กทม. รวมเงินลงทุนไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท ยังไม่นับรวม การลงทุนเปิดโรงแรมใหม่ กลุ่ม โมเดิร์นเทรด มีการขยายสาขาในภูเก็ตเพิ่มขึ้นเช่นกัน

   มหกรรมบ้านฯ ครั้งที่ 48 ดัชนีชี้วัดดีมานด์อสังหาฯ

   ปี 2568 ที่ผ่านพ้นไป แม้ตลาดอสังหาฯยังคงเจอความ ท้าทายจากเรื่องของเศรษฐกิจ แต่ก็พอเห็นสัญญาณที่ดีของการ กลับมาฟื้นตัวภาคอสังหาฯ ซึ่งผลการจัดงาน "มหกรรมบ้าน และคอนโดฯครั้งที่ 48" ที่จัดอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 30 ต.ค.-2 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของยอดขาย และจำนวน ผู้เข้าชมงาน

   โดย นายองคฤทธิ์ พรหมโยธี ประธานการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 เปิดเผยว่า ปีนี้งานได้รับการตอบรับเกินคาด ตั้งแต่ก่อนเปิดงานมีผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าเกือบ 9,000 คนและเมื่อเปิดงานจริงตลอด 4 วัน ยอดผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นกว่า 30% เทียบช่วงเดียวกันในต้นปี สะท้อนตลาดรีเทลอสังหาฯ ยังคงรุก ไปต่อเนื่อง

   โดยข้อมูลสะท้อนว่าคอนโดมิเนียมครองสัดส่วนยอดขายสูงสุด 57%, บ้านเดี่ยว 28%, ทาวน์เฮาส์ 11% และประเภทอื่นๆ อาทิบ้านแฝด-อาคารพาณิชย์ 10%

   ด้านช่วงราคาเบสต์เซลเลอร์ (สินค้าขายดี) อยู่ที่ 2-3 ล้านบาทครองสัดส่วนใหญ่สุด 33% รองลงมาเป็นกลุ่มราคา 3-4 ล้านบาท 17% และกลุ่มราคา 4-5 ล้านบาท 11%

   และถ้ามาสำรวจกลุ่มผู้ซื้อ พบว่าผู้ซื้อหลักอยู่ในช่วงวัย ทำงาน 30-45 ปี สัดส่วน 40% และ 25-30 ปี 30% บ่งชี้ตลาดคน รุ่นใหม่ยังต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลเดินทางสะดวกและเข้าถึงได้

   งานครั้งนี้ มียอดจองซื้อจากผู้ประกอบการรายใหญ่ รายกลางรายเล็ก รวมมูลค่า 13,300 ล้านบาท และคาดว่าหลังจบงานจะ มีตัวเลขยอดขาย-ยอดโอนเพิ่มขึ้น ไม่ต่ำกว่า 2 เท่า ปัจจัย สนับสนุน ได้แก่ ดีมานด์แท้จริง (Real Demand) จากผู้ซื้อ อยู่อาศัย มาตรการด้านดอกเบี้ยและสินเชื่อจากรัฐ-แบงก์ และโปรโมชันส่งเสริมการขายจำนวนมาก รวมถึงทำเลใหม่ โครงการออกแบบเพื่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เจาะกลุ่ม และมีความน่าสนใจ

   "งานมหกรรมบ้าน และคอนโดฯ ไม่ได้เป็นเพียงเวทีซื้อขายที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้คนไทยมีบ้านในฝัน พร้อมเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและตลาดอสังหาฯ ไทยให้เดินหน้าอย่างมั่นคง" นายองคฤทธิ์ กล่าว

   ทั้งนี้ภาพรวมตลาดต้นปี 2569 ยังต้องจับตาหลายปัจจัยสำคัญได้แก่ ต้นทุนก่อสร้าง ราคาวัสดุที่ยังปรับขึ้นเป็นแรงกดดันต้นทุนโครงการต่อเนื่อง และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่อาจส่งผลต่อการ ซื้อบ้าน-คอนโดฯ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อครั้งแรก (First Jobber) นอกจากนี้ปัจจัยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ส่วนใหญ่หันมามองหาที่อยู่อาศัยในทำเลเชื่อมต่อเมือง-คุ้มค่า-รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน (Eco Living / Green Building)

   ขณะที่การแข่งขันด้านราคา ดีไซน์ และโปรโมชันเข้มข้นขึ้น ดีเวลลอปเปอร์จำเป็นต้องสร้างจุดขายใหม่ และยกระดับงาน บริการ อาจะเป็นส่วนกระตุ้นชีพจรอสังหาฯ ให้ขยับต่อไปได้ถึง กลางปีหน้า

   สำหรับงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 49 กำหนดจัดขึ้นวันที่ 19-22 มีนาคม 2569 ณ ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะมี สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เป็นเจ้าภาพหลัก งานครั้งหน้านี้ ที่เตรียมพร้อมยกระดับประสบการณ์ผู้เข้าชม พร้อมกลยุทธ์ใหม่เพื่อผลักดันยอดขายปีหน้า ตอกย้ำความเป็น "Thailand's Number One Real Estate Expo" ศูนย์รวมตัวเลือกที่อยู่อาศัยคุณภาพที่ตอบโจทย์คนไทยมากที่สุด

   สำหรับทำเลสุดยอดนิยมรวมภายในงาน พบว่ายังคงเป็น พื้นที่ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีต่อเนื่อง อันดับ 1 ได้แก่ ทำเล สุขุมวิท รองลงมา รามคำแหง ,บางนา, อิสรภาพ,รังสิต, อ่อนนุช, บางพลี, สุขสวัสดิ์ และสายไหม และที่น่าสนใจ จะเป็นทำเลอันดับ 8 ชลบุรีซึ่งเป็นตลาดใหญ่ในพื้นที่ของ EEC

   สำรวจบิ๊กอสังหาฯโกยยอดขาย "เอพี" ไทยแลนด์สูงสุด 3,000 ลบ.

   บริษัทอสังหาฯรายใหญ่ที่เข้าและออกบูทในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 ออกมาการันตี ถึงความสำเร็จของการจัดงานอีกทาง โดยบริษัทอสังหาฯ มีการประกาศตัวเลขยอดขายภายในงานและคาดว่าจะต่อเนื่องหลังจบงานอีก ซึ่งผลปรากฏว่า บมจ.เอพี ไทยแลนด์ จำกัด มียอดขายถึง 3,000 ล้านบาท รองลงมา เป็น บมจ.แสนสิริ ยอดขาย 2,300 ล้านบาท, บมจ.ศุภาลัยที่ยังคงมาแรงทำยอดขายได้ 1,150 ล้านบาท, บมจ.ออริจิ้น ทำได้ 1,100 ล้านบาท, บมจ.อนันดาฯ ทำยอดขายทะลุเป้าสูงถึง 855 ล้านบาท บมจ.ลลิลฯสามารถทำยอดขายได้เกินกว่า 350 ล้านบาทเป็นยอดขายต่อ บูทสูงสุดในงาน ในส่วนของ บริษัท สถาพร เอสเตท จำกัด (SE) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ได้ยอดจอง 200.5 ล้านบาท

   มาดูความสำเร็จและกลยุทธ์ที่บริษัทอสังหาฯ นำมาประชัน ช่วงการจัดงาน ส่งผลให้ยอดขายได้ตามเป้า โดย บมจ.แสนสิริ กับแคมเปญ "Sansiri Arena แชมเปียนดีล!" ยอดขายทะลุเป้าสูงกว่า 2,300 ล้านบาท จากเป้า 1,800 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแรง ผลักดันสำคัญและปัจจัยบวก ต่อยอดขายไตรมาส 4 ของแสนสิริ ให้ เติบโตตามเป้าหมาย จากปัจจุบันมียอดขายสะสมของไตรมาส 4 อยู่ที่ 6,000 ล้านบาท

   พร้อมเดินหน้ามอบดีลใหญ่สุดพิเศษ ต่อเนื่องทันที กับ "แสนสิริ อลังเซล" ลดใหญ่ ตัวจริง.แห่งปี ลดสูงสุด 10 ล้านบาทกับบ้าน คอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม รวมกว่า 109 โครงการ ราคาพิเศษทุกยูนิต เริ่มต้น 8.9 แสน-29.9 ล้านบาท พร้อมอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารพันธมิตรชั้นนำ ผ่อนต่ำเริ่มต้นล้านละ 2,500 บาท และโปรโมชันอื่นๆ อีกมากมาย เริ่มตั้งแต่ 3 พ.ย.-30 ธ.ค. 68

   บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ทุบยอดขายรวมกว่า 1,153 ล้านบาท สร้างปรากฏการณ์ตอบรับสุดร้อนแรงจาก "ดีลดีทุกห้องจับต้องได้ทุกหลัง" ภายในงานศุภาลัยได้ยกขบวนโครงการ คุณภาพทั่วประเทศ ภายใต้แคมเปญ "SUPALAIPICKSALE คว้าดีลเล่นใหญ่!" ดีลดีทุกห้อง จับต้องได้ทุกหลัง รับดีลทันที 3 ต่อสุดคุ้ม กับโปรโมชันส่วนลดสูงสุดถึง 7 ล้านบาท และของแถมรวมกว่า 4.5 ล้านบาท พร้อมมหกรรมราคาพิเศษ "Mega Sale เริ่ม 999,000 บาท"

   นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่าตลอด 4 วันเต็ม บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายภายในงานทะลุ 1,100 ล้านบาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ออริจิ้น- บริทาเนีย แม้ในสภาวะตลาดที่มีการแข่งขันสูง โดยกลุ่มโครงการคอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ ได้รับความสนใจมากที่สุด ที่มีคอนโดฯเลี้ยงสัตว์หลายทำเลมากถึง 25 โครงการ ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น และโครงการลักชัวรีทำเลใจกลางเมือง เป็นต้น

   "ภาพรวมตลาดอสังหาฯในช่วงเวลาที่เหลือของปีมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เห็นได้จากยอดขายที่ประสบความสำเร็จของกลุ่มออริจิ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากมาตรการของรัฐบาล บวกกับแคมเปญของผู้ประกอบการที่ทยอยออกมาจะเป็นช่วงเวลาโอกาสทองของผู้บริโภคอย่างแท้จริง" นายพีระพงศ์ กล่าว

   นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า สำหรับ ANANDA MARKET FEST เป็นอีเวนต์การตลาดที่พร้อมเสิร์ฟโครงการพร้อมอยู่ให้ถึง มือลูกค้าคนเมือง ในงานฯสามารถทำยอดขายทะลุเป้าสูงถึง 855 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 500 ล้านบาท

   นอกจากนี้ ยังสามารถปิดการขายได้อีก 1 โครงการ ได้แก่ เอลลิโอ สาทร วุฒากาศ ทำให้เห็นสัญญาณปรับตัวเดือนแรกในไตรมาส 4 มีทิศทางที่ดีขึ้น คาดว่าในอีก 2 เดือนต่อจากนี้จะมีแนวโน้มที่ดี ส่งให้ยอดขายของไตรมาสสุดท้ายเป็นไปตามเป้าแน่นอน

   ขณะที่ นายณัฏฐกิตติ์ ศิริรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและนวัตกรรม บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC Asset เผยว่าการจัดแคมเปญ "SC โปรฏิหาริย์มีจริง" ในงานมหกรรมบ้านฯ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อคุณภาพของสินค้าและแบรนด์ SC Asset และเพื่อตอบสนองต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยช่วงปลายปี บริษัทจึงพร้อมเดินหน้าต่อด้วยการจัดงาน "ห้องลับ ปิดดีล" ที่ ชั้น 1 แฟชั่น ฮอลล์ สยามพารากอน เริ่มตั้งแต่วันที่ 5-10 พ.ย. 2568 โดยตั้งเป้ายอดขายจากการจัดงานทั้ง 2 งานอยู่ที่ประมาณ 2,500 ล้านบาท

   จากนี้ไป ก่อนจะจบปี 2568 เหลือเวลาไม่ถึง 60 วัน คาดว่าผู้ประกอบการยังคงอัดแคมเปญกระตุ้นยอดขาย และเร่งยอด โอนคอนโดฯ และบ้าน ได้ตามเป้าหมายของแผนธุรกิจที่ประกาศไว้ให้มากที่สุด
ข่าวโครงการอสังหาฯ ภาคเอกชน อื่นๆ