RIEC ชี้ตลาดอสังหาฯผู้สูงอายุ มีโอกาสเติบโตอีกมากในไทย
Loading

RIEC ชี้ตลาดอสังหาฯผู้สูงอายุ มีโอกาสเติบโตอีกมากในไทย

วันที่ : 21 พฤศจิกายน 2568
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ชี้ปี 74 ไทยเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” อย่างสมบูรณ์ คาดสัดส่วนผู้สูงอายุแตะ 28% ของประชากรทั้งหมด แต่ตลาดอสังหาฯ สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุของไทยมีโอกาสเติบโตอีกมาก
   นางสาวสิทธิเพ็ญ สิทธัตถพงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ รักษาการผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ฝ่ายบริหาร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ “Super Aged Society“ (สังคมผู้สูงอายุ) อย่างสมบูรณ์ในปี 2574 ซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากกว่า 28% ของประชากรทั้งหมด เพิ่มขึ้นจาก ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ที่มีจำนวนผู้สูงอายุ 13.99 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 21.3% ของประชากรทั้งหมด ทำให้ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ แต่เป็นภารกิจเชิงโครงสร้างของประเทศ ซึ่งความต้องการเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเป็นความต้องการที่ไม่ได้ขึ้นกับสถานการณ์เศรษฐกิจ แต่เป็นความต้องการที่เกิดจากโครงสร้างประชากรไม่ว่าตลาดที่อยู่อาศัยจะผันผวนอย่างไร

   นายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการ สมาคมการค้า กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กำลังเผชิญกับภาวะซบเซาอย่างรุนแรงในปี 2568 ซึ่งทั้งหมดทั้งอุปทานใหม่ การเปิดโครงการ และการโอนกรรมสิทธิ์หดตัวลงและแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ สะท้อนถึงความท้าทายด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและสภาพเศรษฐกิจโดยรวม แต่ตลาดอสังหาฯสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุของไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยจำนวนหน่วยที่พักอาศัยเพิ่มขึ้น 51.9% เป็น 8,235 หน่วย ในปี 2568 จาก 5,422 หน่วย ในปี 2567 มีจำนวนหน่วยที่ขายได้ (Take-up) เพิ่มขึ้นถึง 69.1% ในปี 2568 ซึ่งอัตราการขายได้ (Take-up Rate) สูงขึ้นกลับมาอยู่ที่ 82% ในปี 2568 จาก 74% ในปี 2567 บ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในระยะเติบโต (Growth Stage)

   ทั้งนี้ กลุ่มตลาดที่น่าลงทุน คือ กลุ่ม Mass (ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท) เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและเติบโตเร็วมาก เหมาะกับผู้สูงอายุรายได้ปานกลาง และปิดการขายได้เร็ว ขณะที่กลุ่ม Mid-Upper (ราคา 3–7.5 ล้านบาท) เป็นตลาดที่ขายดีและมีมูลค่าสูง ลูกค้ามุ่งเน้นคุณภาพสุขภาพ (Wellness) และสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งนี้ กลุ่มราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาท ได้รับประโยชน์จากมาตรการรัฐลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ส่วนกลุ่ม High-End (ราคา 7.5–20 ล้านบาท) เป็นตลาดเฉพาะที่มีความเสี่ยง อัตราการขายได้ลดลง มีการแข่งขันสูงด้วยบริการระดับหรู เช่น การแพทย์ การพยาบาล และ Wellness แบบโรงแรม 5-6 ดาว
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ