ศุภาลัยคาดที่ดินชะลอ2ปี
วันที่ : 27 พฤศจิกายน 2568
ศุภาลัย เปิดเผยว่า สรุปคือปีหน้าตลาดอสังหาฯน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยที่ตลาดคอนโดมิเนียมพึ่งพิงกับการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่เชื่อว่ามีการเติบโตดีขึ้นแต่ไม่เยอะมาก ส่วนแนวราบปีนี้คาดว่าติดลบเล็กน้อย และปีหน้าจะเริ่มทรงตัวหรือบวกลบไม่เยอะ เพราะเชื่อว่าหลายอย่างที่โดนกดดันจากปีนี้จะดีขึ้นบ้าง แม้การผ่อนชำระของลูกค้าไม่น่าจะดีขึ้น
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯจากนี้เชื่อว่ายังไม่มีใครรู้อนาคต แต่คงไม่แย่ไปกว่าปีนี้ที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว น้ำท่วมภาคใต้ ที่ปกติบริษัทต้องเข้าไปดูแลในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช แต่ปีนี้โครงการเหล่านี้น้ำไม่ท่วม แต่กลับมาท่วมที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งหนักสุดแบบไม่เคยเจอมาก่อน และถือว่าครั้งนี้หนักหน่วงยิ่งกว่าน้ำท่วมในกรุงเทพฯเมื่อปี 54 เพราะท่วมไปถึงชั้นที่ 2 ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าใครที่มีโครงการในพื้นที่ดังกล่าวย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน ขณะเดียวกันเศรษฐกิจและกำลังซื้อในภาพรวมชะลอตัว ทำให้คาดว่าหลังจากนี้ราคาที่ดินมีโอกาสชะลอตัว หรือลดลงอย่างน้อย 2 ปี
"สรุปคือปีหน้าตลาดอสังหาฯน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยที่ตลาดคอนโดมิเนียมพึ่งพิงกับการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่เชื่อว่ามีการเติบโตดีขึ้นแต่ไม่เยอะมาก ส่วนแนวราบปีนี้คาดว่าติดลบเล็กน้อย และปีหน้าจะเริ่มทรงตัวหรือบวกลบไม่เยอะ เพราะเชื่อว่าหลายอย่างที่โดนกดดันจากปีนี้จะดีขึ้นบ้าง แม้การผ่อนชำระของลูกค้าไม่น่าจะดีขึ้น"
อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบโซนพุทธมณฑลเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่ได้รับความนิยมสูง ในกลุ่มบ้านระดับพรีเมียมมูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป จากข้อกำหนดตามผังเมืองทำให้การพัฒนาโครงการในทำเลใกล้เคียงต้องใช้ที่ดินขนาดใหญ่และส่งผลให้ราคาบ้านอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งสอดรับกับผู้อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าวที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจและมีรายได้เดือนละ 1 แสนบาทขึ้นไป
ขณะเดียวกัน ด้านพุทธมณฑล สาย 4 เป็นหนึ่งในโซนที่มีศักยภาพสูงสุด เพราะเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก เชื่อมต่อถนนสายหลักอย่างบรมราชชนนีและเพชรเกษม พร้อมทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีและทางด่วนศรีรัช ทำให้การเดินทางสู่ใจกลางเมืองรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังรองรับโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต เช่น ส่วนต่อขยายเอ็มอาร์ทีสายสีน้ำเงิน (หลักสองพุทธมณฑล สาย 4) และรถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-ศาลายา) มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ รวมถึงศูนย์การค้า
ทั้งนี้ บริษัทจึงเห็นโอกาสเปิดตัวโครงการใหม่ ศุภาลัย มณฑลา @พุทธมณฑล ใน 6 แบบบ้านให้เลือก ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท เพื่อรองรับขนาดและพฤติกรรมแต่ละครอบครัวแตกต่างกัน เจาะครอบครัวใหญ่ ชอบทำกิจกรรมร่วมกัน และผู้ซื้อรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงบ้านขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น
"สรุปคือปีหน้าตลาดอสังหาฯน่าจะดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยที่ตลาดคอนโดมิเนียมพึ่งพิงกับการเปิดตัวโครงการใหม่ แต่เชื่อว่ามีการเติบโตดีขึ้นแต่ไม่เยอะมาก ส่วนแนวราบปีนี้คาดว่าติดลบเล็กน้อย และปีหน้าจะเริ่มทรงตัวหรือบวกลบไม่เยอะ เพราะเชื่อว่าหลายอย่างที่โดนกดดันจากปีนี้จะดีขึ้นบ้าง แม้การผ่อนชำระของลูกค้าไม่น่าจะดีขึ้น"
อย่างไรก็ตาม จากผลสำรวจในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบโซนพุทธมณฑลเป็นหนึ่งในทำเลศักยภาพที่ได้รับความนิยมสูง ในกลุ่มบ้านระดับพรีเมียมมูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป จากข้อกำหนดตามผังเมืองทำให้การพัฒนาโครงการในทำเลใกล้เคียงต้องใช้ที่ดินขนาดใหญ่และส่งผลให้ราคาบ้านอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ซึ่งสอดรับกับผู้อยู่อาศัยในทำเลดังกล่าวที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจและมีรายได้เดือนละ 1 แสนบาทขึ้นไป
ขณะเดียวกัน ด้านพุทธมณฑล สาย 4 เป็นหนึ่งในโซนที่มีศักยภาพสูงสุด เพราะเดินทางเข้า-ออกเมืองสะดวก เชื่อมต่อถนนสายหลักอย่างบรมราชชนนีและเพชรเกษม พร้อมทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีและทางด่วนศรีรัช ทำให้การเดินทางสู่ใจกลางเมืองรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังรองรับโครงสร้างพื้นฐานในอนาคต เช่น ส่วนต่อขยายเอ็มอาร์ทีสายสีน้ำเงิน (หลักสองพุทธมณฑล สาย 4) และรถไฟฟ้าสายสีแดง (ตลิ่งชัน-ศาลายา) มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ รวมถึงศูนย์การค้า
ทั้งนี้ บริษัทจึงเห็นโอกาสเปิดตัวโครงการใหม่ ศุภาลัย มณฑลา @พุทธมณฑล ใน 6 แบบบ้านให้เลือก ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท เพื่อรองรับขนาดและพฤติกรรมแต่ละครอบครัวแตกต่างกัน เจาะครอบครัวใหญ่ ชอบทำกิจกรรมร่วมกัน และผู้ซื้อรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงบ้านขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น
ข่าว reic จากสื่อสิ่งพิมพ์ อื่นๆ